วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2552

Ghost Walk with ISA

เมื่อวานนี้เข้าเรียนวิชาจิตวิทยาการเรียนรู้ภาษาคาบแรก จะตายเอา
อาจารย์เป็นผู้หญิง เหมือนจะเป็นพวกฮังการี บัลกาเรียไรทำนองนี้ พูดเร็วมากแถมติดสำเนียงหน่อยๆ ไอ้เรื่องที่สอนก็ความรู้ใหม่ นราก็เหมือนเดิม เข้าใจไม่เกินเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ หนังสือที่ต้องอ่านก็มาอีกแล้วสิบกว่าเล่ม ของวิชาแรกยังอ่านไปไม่ถึงไหนเลยเว้ย
แต่พอเรียนเสร็จ นราก็รีบเข้าเมืองไปรับพรินเตอร์ที่จองไว้ที่ร้านอาร์กอส สาขาพิคคาดิลลี เหลือเครื่องสุดท้ายของร้านเลยนะนั่นน่ะ ซื้อมาในราคา 35 ปอนด์ ถือว่าโอเค เป็นราคาที่เกือบจะถูกสุดแล้ว แถมได้สายยูเอสบีมาในราคาแค่ปอนด์เดียว คนอื่นไปซื้อกันตั้งห้าปอนด์สิบปอนด์แน่ะ ด้วยความที่ลืมคิดว่าซื้อมาแล้วต้องแบก นราเลยต้องหอบมันเดินตระเวนทั่วเมือง แน่นอนแวะไปอาหารจีนอีกแล้ว แถมตอนออกจากร้านฝนเจือกตกซะอีก เวรซ้ำกรรมสาดจริงๆ
ดูแข็งแรงใหญ่โตดีมะ หกโลแน่ะ วันนี้เลยตื่นมาปวดไหล่สุดๆ
...............
แล้วๆ เมื่อคืนนี้ ตอนทุ่มครึ่ง ทาง ISA หรือสมาคมนักศึกษานานาชาติ เขาจัดทัวร์ไป Ghost Walk กันในเมือง คนละสี่ปอนด์แน่ะ แต่ไม่เป็นไรเพื่อประสบการณ์เราจ่ายด๊ายย อยากรู้ด้วยแหละว่ามันเป็นไง แล้วพระพิรุณก็แสนดี กลัวไม่ได้บรรยากาศ ก็เลยปล่อยฝนตกลงมาเรื่อยๆ เดินไปถึงตอนทุ่มนิดๆ แต่ทัวร์ยังไม่เริ่มจนกว่าจะทุ่มครึ่ง ก็เลยต้องยืนรอไปเรื่อยๆท่ามกลางปรายฝน โค้ทนราเปียกหมด แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวเอาไปปะกับฮีตเตอร์ได้
ยอร์กตอนกลางคืนค่ะ
ยอร์กมินสเตอร์ตอนกลางคืน สวยและหลอนไปพร้อมๆกัน
มีเสียงระฆังดังด้วย เสียงมันเย็นๆก้องๆ น่ากลัวดี

ผู้ชายคนนี้ เป็นคนนำทัวร์ ชื่ออะไรไม่รู้ ฟังไม่ออก สำเนียงติดทางเหนือนิดหน่อย
โอ๊ย เขาแสดงเก่งมาก ตลอดทั้งทัวร์เฮียไม่ยิ้มเลย แต่ทำให้เราฮาได้ตลอด สรุปว่าโกสท์วอล์กนี่มันไม่น่ากลัวค่ะ มันขำ และมันฮามาก เขาจะพาเราเดินไปตามจุดต่างๆในเมือง เล่าความเป็นมาและประวัติผีๆให้ฟัง แต่เขาตลกอ่ะ นราว่าเขาเก่งนะ ใช้เสียงได้ดีมีพลัง รู้จักจังหวะรับส่งมุก เสียดายแทนพวกเทา ตอนแรกก็มาด้วยกันอยู่หรอก สักพักบอกไม่เอาละ ไปผับดีกว่า เวรกรรม

ตึกข้างหลังเฮียคนนี้ ปัจจุบันเป็นร้านขายของ
แต่ในอดีต มีเด็กน้อยหล่นจากราวระเบียงห้องนอนลงมาตาย
ปัจจุบันยังมีคนเห็นผีเด็กน้อยคนนี้อยู่เลย

ส่วนคฤหาสน์หลังนี้ คือ Treasurer's House เก่าแก่มาก
หลายสิบปีก่อน มีคนรับใช้คนนึงอาศัยอยู่ที่นี่ แล้วได้ยินเสียงแปลกๆ แต่ไม่ได้สนใจ จนวันนึงขณะกำลังทำงานอยู่ชั้นล่าง ก็ได้ยินเสียงแบบเดิม แต่คราวนี้เห็นนักรบโรมันเดินลงมาตามบันได โดยยิ่งเดินลงมาเข่าก็ยิ่งจมลงไปในพื้น ทำเอาคนรับใช้ขวัญกระเจิงหนีออกจากบ้าน สองสามปีต่อมามีนักโบราณคดีมาทำการสำรวจขุดค้น ปรากฏว่าเจอโครงกระดูกและเสื้อผ้าของนักรบโรมันฝังอยู่ข้างล่างใต้บ้าน

คนมันยืนเบียดกัน นราเอื้อมไปถ่ายตัวคฤหาสน์ไม่ถึง แต่เท่าที่เห็นนะน่ากลัวมากๆ
ถนนข้างล่างนี่ กับบ้านก่ออิฐที่เห็นนะคะ เมื่อก่อนเป็นโรงรับเลี้ยงเด็ก ที่บริหารโดยชายใจคดคนหนึ่ง ที่รับเด็กมาเลี้ยง แต่เอาเงินที่พ่อแม่เด็กส่งมาให้เข้ากระเป๋าตัวเองหมด เด็กก็เลยตายเรื่อยๆเพราะขาดอาหาร โดยพอเด็กตาย เจ้าของโรงเลี้ยงเด็กก็จะเอาเด็กมาฝังตรงถนนปัจจุบัน (ที่เมื่อก่อนไม่ใช่ถนน) แต่พอเข้าฤดูหนาว มันหนาวจนพื้นดินแข็งขุดไม่ได้ เขาก็จะเอาศพเด็กที่ตายแล้วไปทิ้งไว้ในห้องใต้ดินให้เน่าก่อน ฤดูใบไม้ผลิจึงจะเอาออกมาฝัง

ทีนี้ มีอยู่วันนึง เด็กที่เขาเอามาทิ้งไว้ในห้องใต้ดินดันยังไม่ตาย แค่สลบ พอเด็กตื่นมามองเห็นศพเยอะแยะก็เลยกรีดร้อง เด็กคนอื่นได้ยินก็เลยตกใจ วิ่งไปบอกเจ้าของโรงเลี้ยงเด็ก ปรากฏว่าผู้ชายคนนี้เกิดสติแตกเพราะตัวเองก็รู้สึกบาปมาตลอด เลยคว้ามีดไล่แทงเด็กทุกคนตายหมด สุดท้ายเลยโดนแขวนคอ ทุกวันนี้คนที่อยู่แถวนี้ก็รู้ดีว่าบ้านเขานะเฮี้ยน บางคืนก็จะมีเสียงเด็กกรีดร้องแว่วมาให้ได้ยินด้วย
..........................

อีกที่นึงที่นราว่าเรื่องมันเศร้าที่สุด แต่ถ่ายรูปมาไม่ทัน เพราะมันมืดและคนเยอะ คือเรื่องผีเด็กที่ถูกทิ้งให้ตายอยู่ในบ้าน
ในช่วงที่โรคนั้นน่ะ กาฬโรคหรือเปล่า Black Death Plague ที่ทำให้ประชากรในยุโรปตายไปกว่าครึ่งนั่นน่ะ กำลังระบาดในอังกฤษ รวมถึงยอร์ก ก็มีครอบครัวนึงที่ไม่ยอมออกไปไหนเลยถ้าไม่จำเป็นเพราะกลัวติดโรค บางทีเขาก็จะส่งลูกสาว อายุประมาณเจ็ดแปดขวบ ออกไปซื้อของที่ตลาดแล้วให้รีบกลับมา คืนนึงขณะที่แม่กำลังพาลูกสาวเข้านอน ก็สังเกตเห็นปื้นดำๆตรงใต้รักแร้ลูกสาว ซึ่งคงเป็นอาการของโรค แม่ก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากราตรีสวัสดิ์ แต่ตอนออกไปจากห้อง แม่ก็ล็อกประตูห้อง ก่อนจะทาประตูบ้านด้วยกากบาทสีแดง เป็นสัญลักษณ์เตือนให้คนอื่นรู้ว่าบ้านนี้ติดเชื้อ แล้วก็หนีออกจากบ้านไปตอนกลางคืนพร้อมสามี
ลูกสาวตื่นมาไม่เจอใคร ออกไปจากห้องก็ไม่ได้ เลยไปยืนอยู่ตรงหน้าต่าง ทุบกระจก ขูดกระจก เรียกร้องความสนใจจากคนบนท้องถนนให้เข้ามาช่วย แต่ถึงมีคนเห็นก็ไม่มีคนกล้าเข้าไปช่วย เพราะเขาเห็นกากบาทสีแดงตรงประตู สุดท้ายเด็กก็เลยตาย แล้วก็เฮี้ยนมาถึงตอนนี้ เป็นผีที่ถูกเห็นบ่อยที่สุด ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยจะยืนข่วนกระจกห้องนอนชั้นบนแล้วก็ร้องไห้ไปด้วย

เดินทัวร์เสร็จเกือบสามทุ่มแน่ะ ถ่ายรูปกับคุณคนนี้เป็นที่ระลึก
รู้สึกท่านี้จะเป็นท่าประจำเลยมั้ง เห็นในเว็บไซต์ก็โพสแต่ท่านี้
แต่เขาเก่งจริงๆนะ น่าให้นศ.ที่เรียนการพูดในชุมชนมาดูเป็นตัวอย่างมาก
(อากาศหนาวหน้าเลยกลม ไม่ได้อ้วน เข้าใจมั้ย)


ขากลับ ขึ้นรถเมล์กลับเหมือนเดิม
เดินผ่านตรอกนี้ ที่เขาว่าเป็นตรอกที่คล้ายกับไดอะกอนแอลเลย์ในเรื่องแฮร์รี พอตเตอร์มาก ไม่เชื่อไปเปิดหนังภาคหนึ่งดูได้ ตอนที่มันเข้าตรอกไปครั้งแรกกับแฮกริดอ่ะ
วันหลังจะถ่ายตอนกลางวันมาให้ดู


ใบตอง
เอารูปใบตองใส่บล็อกตัวเองสิ จะเข้าไปดูจ้า อิอิ

ตาหมู้ว
เป็นช็อกกาแลตก็ดีสิ รสชาติช็อกกาแลตที่นี่ไม่อร่อยเท่าบ้านเราเลย ช็อกโกแลตรูปลูกฟุตบอลตามเซเว่นยังอร่อยฝ่าอีก

มุกกุ
อยากกินเป็ดเหมือนกัน แต่ถ้ากินเป็ดในมหาลัยอาจโดนไล่ออกได้ค่ะ มุกก็รักษาสุขภาพนะคะ

คิดถึงทุกคนเลย

5 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ21 ตุลาคม 2552 เวลา 20:50

    เด่อหมูเห็นแล้วหลอนแทน ไม่ใช่บรรยากาศในเมืองนะแต่เป็นผู้คน
    เออ...คนอังกฤษเนี่ย หน้าตา ท่าทาง นิสัยคล้ายๆ จาร ฟิลิปปี๊ เราหมดเลยป่ะ(ดูจากรูปถ่าย) หันไปทางโน้นก็ โอ้วฟิลิปคุง ทางซ้ายก็ ฮ้าย ฟิลิปจัง ขวาก็โย้ว ฟิลิป แล้วรูปก็เหี้ยฟิลิปอย่าบีบคอกู

    ตอบลบ
  2. ตะละเรื่อง น่ากลัวอ่ะนรา
    นั่งอ่านอยู่มืดๆคนเดียวเนี้ยะ
    นราน่าถ่ายคลิปตอนอีตาคนนั้นนำเที่ยวนะ
    ให้เอารูปลงบล็อกเลยหรอ เขินอ่ะไว้ก่อนนะ
    ขอทำใจก่อน 5555

    ตอบลบ
  3. มุกกุแห่งอณาจักรอู้วฮัชช่าๆ22 ตุลาคม 2552 เวลา 14:43

    นรา แถวนั้นมีแวมไพร์มั้ยคะ กรี๊ดดดดดดด
    ชอบจังเลย ทัวร์นี้น่าสนุกออก ทำไมเทาถึงไปผับหละ
    (หรือเป็นเพราะมุกไม่ชอบผับด้วยหละ)

    น่าสนุกจังคะ เมืองสวยๆ มักมีเรื่องเล่าสยองเนอะ
    กรี๊ดดดดดด จะฮาโลวีนแล้วสินะคะ
    ที่มหาลัยจะมีจัดงานอะไรด้วยหรือเปล่า
    อย่าลืมเล่าสู่กันฟังด้วยน๊า

    แอบอ่านมานิอดนึง ตกลงช็อกโกแลตที่นู่นไม่อร่อย จริงๆเหรอคะ เห????

    เครื่องปริ้นเตอร์นรา ดูบึกบึนเหมือนเครื่องถ่ายเอกสารเลยนะคะ ฮ่าๆๆ มุกชอบนะ สีดำทั้งเครื่องเลย สวยดีจัง
    ดูเข้ากันกับโนตบุ๊คดีเนอะ

    เมื่อวานมุกกุไปงานหนังสือมาด้วย เดินจนขาลากเลย สิบโมงเช้า ถึงหกโมงเย็น
    ส่วนปริมาณหนังสือ จงอย่าได้ถามถึง บอกได้อย่างเดียวว่าจะตายเอา ฮาๆๆ

    เหนื่อยมากคะ ขอตัวไปนอนก่อนนะ บิ้วๆ คิดถึงเช่นเคย

    ตอบลบ
  4. มหาลัยไม่มีให้ปริ๊นฟรีหรอคะ
    หนูแนนปริ๊นฟรีได้เดือนละร้อยไป สะสมไปเรื่อยๆ ทุกเดือน
    หนูแนนเลยปริ๊นนิยายไปครึ่งเล่ม ฮ่าๆๆๆ
    แต่กระดาษเห่ยๆค่ะ เห่ยกว่ากระดาษกล้วยแขกบ้านเราอีก
    มันบางๆสีน้ำตาลอ่อนๆ พอมือเปียกจับที กระดาษจะยุ่ยแล้ว

    แล้วยังไม่พอ มันเอากระดาษเนี่ย ปริ๊นท์ทรานสคริปให้แนน
    เวรกรรม เอากระดาษดีๆปริ๊นท์ไม่ได้หรือฟ่ะ จะส่งกระดาษไทยไปให้มันก็ใช่ที่

    นราอยู่ดีมีสุขนะคะ อย่าลืมรูปของกิน จุ๊บๆๆ

    ตอบลบ
  5. ดีนะเนี่ยที่นราเป็นเด็กดี ไปเที่ยวเดินดูผีแทนที่จะไปเที่ยวผับ เรื่องที่เล่าแต่ละเรื่องน่ากลัวจัง ผิดหวังนิดนึงตรงที่นึกว่าจะมีผีแบบแปลก ๆ เดินตามถนนแบบวันฮาโลวีนอ่ะ กลายเป็นเจอผีหล่อซะนี่
    **********
    เห็นเครื่องซักผ้าอบผ้าบ้านเค้าแล้วนี่ดูไฮเทคนิ ตอนแรกดูรูปก็สงสัยอยู่ว่า ทำไมมันมีทั้งบนทั้งล่าง (พูดยังกะหวย) พออ่านถึงรู้ว่าเป็นเครื่องอบผ้า นราก็เก่งนะที่ใช้ไอ้ตู้นี่ได้ ไม่ทำของเค้าพังซะก่อน แล้วไอ้เครื่องนี่มันไม่ยักฉลาดทอนเหรียญให้นราหรอ เลยอดเงินทอนซะงั้น
    **********
    เครื่องพรินท์เตอร์ของนราก็ดูสวยดีนะ ดูในรูปเหมือนตัวเล็ก ๆ แหม...หนักเอาเรื่องเหมือนกัน ตั้ง 6 โล เดินแบกไหล่หลุดกันพอดี แต่นราก็ยังอึดเดินแบกเครื่องลาดตระเวนทั่วเมืองได้นิ
    **********
    ตอนนี้ฝนเริ่มตกบ่อย นราก็ดูแลตัวเองนะ อย่าให้เป็นหวัดล่ะ
    คิดถึงมาก ๆ จ้า

    ตอบลบ