วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Humanities in Suphan Buri (Vol.1)


อริ๊งอร๊างงง
หายไปนาน มีเรื่องเกิดขึ้นเยอะแยะเลย ไม่รู้จะเล่าอันไหนก่อน
เอาเรื่องหนูแมวเบบี๋ก่อนแล้วกัน อายุหนึ่งสัปดาห์แล้วก้า
น่ารักที่สูดดด

แมวปล่อยแสง ซ้าดดดด


เจ้าตัวนี้โข่งที่สุด น่ารักที่สุด ตากำลังจะลืมแล้ว


หม่ำๆ


ข่าวล่ามาไวเรื่องต่อไป
นราได้ออฟเฟอร์จาก Durham University แล้วจ้า อุเฮฮฮฮฮ
คราวนี้ก็มีเรื่องใหม่มาให้หนักใจ
คือตกลงกรูจะไปที่ไหนดี
York เมืองแห่งเป็ดและธรรมชาติแสนงาม
หรือ Durham เมืองแห่งปราสาทแฮร์รี พอตเตอร์ดีน้า
(ดูเหตุผลมันสิ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเรียนเลย)
...........................

เตรียมดูรูปกันให้ตาแฉะโลด เลดี้ส์แอนด์เจนเทิลสะเม็น
เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม คณะมนุษยศาสตร์จัดการทัศนศึกษาดูงานนอกสถานที่ ณ จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมันก็คือการไปเที่ยวดีๆ นี่เอง
ทั้งภาควิชาการโรงแรม ภาษาอังกฤษ ศิลปศาสตร์ และภาษาไทยก็ไปกันหมด
ได้เห็นอีกด้านหนึ่งของอาจารย์ที่เราเรียนด้วยก็แปลกใจดีนะคะ

เป้าหมายแรก ตลาดสามชุกค่ะ


อีกชื่อคือตลาดริมน้ำร้อยปี แต่ก่อนเฟื่องฟูสุดๆในฐานะเมืองท่าที่ค้าขายฝ้าย เกลือ สมุนไพรต่างๆ ก่อนจะซบเซาลงเพราะมีถนนตัดผ่าน ทำให้คนเลิกเดินทางค้าขายด้วยเรือค่ะ บ้านเรือนร้านค้าในตลาดนี้ยังคงเป็นแบบเก่า เพราะเขาอนุรักษ์ไว้ให้เป็นชุมชนโบราณสืบไป แต่นราว่ามันแคบไปหน่อยอ่ะนะ

ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่เคยเป็นบ้านของขุนจำนงจีนารักษ์ นายอากรคนแรกด้วยละ
กระเบื้องที่เห็น และต้นกระดังงาที่อยู่นอกหน้าต่างนั่น
เป็นของ Original นะจ๊ะ
อยู่มาจะร้อยปีแล้ว ไม่ได้เพิ่งมาทำใหม่แต่อย่างใด
ตัวบ้านชั้นบนเองก็รับน้ำหนักได้แค่ยี่สิบคน
(นราหนึ่งคน = คนสองคน)


หลังจากชมพิพิธภัณฑ์แล้ว อาจารย์ทั้งหลายก็แตกฮือเหมือนผึ้งแตกรัง
ช็อปปิ้งน่ะเอง มือซ้ายถือพัดลมจิ๋วเป่าหน้า มือขวาถือกระเป๋าตังค์
มีขนมโบราณพวกขนมกง หมี่กรอบ ขนมหวานโบราณขายด้วย
มีคนเค้าว่า ข้าวห่อใบบัวของที่นี่ดังระเบิด
ซึ่งลุงคนขายแกก็การันตีว่า ของเขาห่อใบบัวแล้วนึ่งจริง
ไม่ใช่นึ่งข้าวให้เสร็จก่อนแล้วค่อยเอาใบบัวห่อ
เพราะงั้น ข้าวแกก็จะอร่อย หอมหวานกลิ่นใบบัว


นราอยากกิน แต่ไม่ได้เอาเงินไปเยอะ ตามประสาคนถังแตก
ได้แต่เดินดูโน่นดูนี่
เสียไปยี่สิบบาท สอยโปสการ์ดมาสองใบค่ะ
.................................

เป้าหมายต่อไป บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ
เป็นที่ที่นราทั้งประทับใจที่สุด และไม่ประทับใจที่สุดในเวลาเดียวกัน
เดี๋ยวจะบอกว่าเพราะอะไร

โซนแรกที่เข้าไปดู คืออาคารแสดงสัตว์น้ำค่ะ
วี้ดว้าย อริ๊งอร๊าง ดิ่วดิ้วมากกกก ชอบบบ
ถึงไม่ใหญ่เท่าโอเชียนเวิร์ลด์ที่พารากอน แต่สวยและสะอาดจนเราแปลกใจ

น้องเต่า ฉลาดนะเนี่ย
พอเอามือไปโบกๆเหนือน้ำเค้าก็ลอยขึ้นมาหา
ขอโทษนะ ป้าไม่มีอะไรให้หนูกินหรอก
มีแต่หนังกำพร้าเหี่ยวๆน่ะลูก


ปลาที่น่าเกลียดที่สุดในโลก ปลาไหลมอร์เรย์
หนังมันย่นๆตรงคอ (ปลามีคอด้วยเหยอ)
แล้วรูพ่นน้ำตรงข้างๆคอมันก็แบบ โพ่วววว โพ่วววว หุบๆเปิดๆ
ให้อิมเมจเป็นปลาอาแปะใจร้ายมาก


อันนี้เป็นแทงค์ทรงกลม สวยอีกแล้ว ชอบอีกแล้ว
น้ำสะอาด ใส ปลาดูมีสุขภาพดีมีความสุข
ไม่เหมือนที่บางแสน น้ำขุ่นๆ ปลาว่ายเอียงๆ
คงไม่ได้ฝึกตีกรรเชียงไปโอลิมปิกแน่


ปลาเสือตอ เคยเห็นไหมเอ่ย
นรารู้จักปลานี่จากหนังสือเรื่อง เมื่อคุณตาคุณยายยังเด็ก โดยคุณทิพย์วาณี สนิทวงศ์
พอเห็นแมลง มันจะปู๊ดน้ำออกจากปากผ่านช่องอะไรสักอย่างนี่แหละ
สวยดีนะ


ปลาผีเสื้อ


ปลาไหลไฟฟ้า อัปลักษณ์เกินบรรยาย


มีตู้ปลาใหญ่ที่ใส่ปลาตัวโตๆไว้ด้วย ใหญ่แบบเป็นเมตรอ่ะ
ใหญ่แบบ ไม่คิดว่าปลาหน้าตาแบบนี้มันจะใหญ่ได้ขนาดนี้
เขามีอุโมงค์ลอดใต้น้ำด้วยนะ
ความยาวประมาณสองไม้บรรทัดถ้วน
................................

เอ้า ทะลุออกมาเป็นบ่อจระเข้น้ำจืด
มีจระเข้ไม่มาก บ่อใหญ่โตกว้างขวาง
ตุ๊กเข้คลานเล่นได้สบาย ปลอดปัญหาเหยียบตีนแล้วยิงกันตายในบ่อค่ะ


ไอ้ป้ายนี่อย่างฮา


มันเขียนไว้ให้ใครอ่านวะ?
จระเข้ที่นี่การศึกษาสูงขนาดนั้นเลยเหรอ จบออกซ์ฟอร์ดมาเปล่าเนี่ยยย
อาจารย์มาเห็นชอบใจใหญ่ บอกจะเอาไปให้นักศึกษาดู
ประมาณว่า จระเข้มันยังพูดรู้เรื่องเลยนะ พวกเธอไม่ฟังครูเนี่ย ไม่อายบ้างเหรอ
ฮาาา

ที่บอกว่าทั้งประทับและไม่ประทับใจคือ
เลือกสถานที่ท่องเที่ยวได้เวิร์กมาก นรามีความสุขมาก
เป็นคนรักสัตว์น่ะค่ะ
แต่เวลาน้อยเกินไป
มันมีสวนสัตว์ และสวนผักพื้นบ้านให้ชมด้วย แต่เวลาไม่พอ
เขาก็จับเราขึ้นรถพ่วงแบบในซาฟารี พานั่งเล่นไปรอบๆ ผ่านสวนผัก สวนสัตว์
ไอ้สวนผักน่ะไม่เท่าไหร่ ยังพอเห็นแบบใกล้ชิด
น้ำเต้าลูกใหญ่กว่าลูกวอลเลย์บอลอีกอ่ะ
แต่ไอ้สวนสัตว์นี่ซิ ขับรถอ้อมหลังกรงสัตว์แล้วกรูจะเห็นอะร๊ายยย
เห็นม้าลายแวบนึง ชะนีนิดหน่อย เสือโคร่งเล็กน้อย
ที่เหลือเห็นแต่ตาข่ายกับผ้าเขียวคลุมกรง

เนี่ย เข้าใกล้ได้ที่สุดก็กรงเนี้ย
(เอ้า มาอริ๊งอร๊างพร้อมกันเร้ววว)
ท่าทางจะเป็นครอบครัวเดียวกันทั้งกรง


เที่ยงวัน ถึงเวลาอาหารที่รอคอย
ร้านนี้ ไกด์เขาโฆษณาว่าเป็นหนึ่งในสามร้านที่อร่อยเลิศที่สุดในสุพรรณฯ
ร้านเจ๊เน้ยกุ้งเป็น


เข้าไปถึง สำรับก็พร้อมพรัก วินาทีนั้นคิดขึ้นมาเลยว่า
...อา เป็นอาจารย์มันดีอย่างนี้นี่เอง...


มีกุ้งเผา กุ้งทอดเกลือ ยำวุ้นเส้นกุ้งสด แกงจืดเต้าหู้สาหร่าย
น้ำพริกกุ้ง ไข่เจียว แกงป่าไก่ และข้าวสวย
แต่ที่อร่อยเด็ดขึ้นสกู๊ปต้องสองจานนี้

ยำตำลึงกรอบ
ใบตำลึงทอดกรอบมาก อร่อย ไม่อมน้ำมัน
ทำได้ไงเนี่ยยยย


โอ๊ย จานนี้เอาไปเลยสิบดาว
ปลาทับทิมทอดกระเทียม
ที่เห็นเป็นก้อนกรอบๆบนตัวปลานั่นไม่ใช่เนื้อปลาที่เขาขูดออกมาทอดนะคะ
มันคือกระเทียม กระเทียมเป็นเม็ดๆ อ้วนๆ แบบที่เราจะไม่มีวันกินเป็นอันขาดถ้าเห็นที่อื่น
แต่เขาทอดออกมาแล้วรสชาติมันไม่ใช่กระเทียมอ่ะ มันๆ กรอบๆกินแล้วหยุดไม่ได้


อิ่มหนำสำราญ เดินแบกพุงออกมาเจอตู้ใส่กุ้งเป็นๆ
รู้สึกผิดขึ้นมาทันทีว่า เมื่อกี๊ฉันกินเพื่อนแกเข้าไปเหรอเนี่ย
นราถึงกับน้ำตาคลอ ลำคอตีบตัน แล้วเอ่ยขึ้นเบาๆ
"ฮ้า อิ่มจัง"
..............................

ยาวเกินไปแล้วนะเนี่ย ไว้ติดตามต่อตอนสองแล้วกันค่ะ
ตอนหน้าจะพาไปเที่ยวศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และอุทยานมังกรสวรรค์นะ
ขอบอกว่าตื่นตาอย่างแรง

คำคมวันนี้
ทำงานแล้วเซ็งอย่างนี้ มาอ่านบล็อกพี่สิน้อง

วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

3-Day Seminar: You Are Now A Teacher!

ก่อนอื่นเลยต้องขอขอบพระคุณเพื่อนนักอ่านทุกท่าน ที่แห่แหนกันเข้ามาชมและฝากความคิดเห็นไว้ถึงแปดรายการ
ขอบคุณมากๆ ซาบซึ้งใจจริงๆ ตั้งแต่เขียนบล็อกมานี่ยังไม่เคยมีคนฝากคอมเมนท์ไว้เยอะขนาดนี้มาก่อนเลย
.................................
(ยกมือปาดน้ำตาด้วยความปลื้มปีติ เหมือนบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ในชีวิต)


เอาข่าวใหญ่ข่าวแรกก่อน
นราได้รับออฟเฟอร์จาก University of York แล้วค่า
ไชโยวววววววว
ตอนนี้ก็รอดูแต่ทาง Durham University ว่าเขาจะว่ายังไง
อันที่จริงทั้งสองมหาลัยนี้มีชื่อเสียงดีทั้งคู่ แต่เดอรัมจะดีกว่าหน่อย
แล้วเมือง (จากที่เห็นในคู่มือ) ก็สวยทั้งคู่
แต่ยังไงก็อยากไปเดอรัมมากกว่านะ
อยากเรียนในปราสาท อยากไปดูลานกลางปราสาทจากเรื่องแฮร์รี พอตเตอร์
เดอรัมนี่เป็นมหาลัยที่เก่าแก่ที่สุดอันดับสามของอังกฤษค่ะ
รองจากออกซ์ฟอร์ดและเคมบริดจ์

แต่เห็นรายการหนังสือที่ต้องอ่านแล้วนี่
อ๊อกกกก ลมสว้านขึ้น
เกือบจะสิบเล่มได้ เนื้อเรื่องก็คล้ายๆกันหมด
โอย เห็นอนาคตอีอ้วนนั่งมันย้อยอยู่กลางกองตำรารำไรๆ
......................................

อันนั้นช่างมัน เดี๋ยวรู้ผลจากเดอรัมแล้วค่อยว่ากันอีกทีเนอะ

วันที่ 20-21-22 พ.ค. ที่ผ่านมา นราเข้าอบรมอาจารย์ใหม่ค่ะ
เหนื่อยเหมือนกันนะ นั่งฟังคนอื่นพูดเนี่ย
ไอ้พูดสนุกก็ดีไป ไอ้ที่ไม่สนุกแล้วยังเกินเวลาเป็นชั่วโมงนี่ซิสุดทน
หนาวก็หนาว นั่งฟังวิทยากรฮามุกตัวเองนี่...ไม่สนุกเลย

มีอาจารย์ใหม่ (บางคนก็ไม่ใหม่เท่าไหร่) มาอบรมราวยี่สิบคนจากหลายๆคณะ
ปีนี้มนุษยศาสตร์มีสี่คน
นราอยู่ภาคภาษาอังกฤษหนึ่งคน และอีกสามหนุ่มหล่อภาคการโรงแรม
(โฮะๆ เป็นดาวล้อมเดือนเลยเดี๊ยน กรั่กๆๆ)
จริงๆมีอาจารย์ผู้หญิงอีกคน
สวยมากกกก สวยจนน่าอิจฉา
เขาได้ทุนเรียนต่อด้านธุรกิจการบิน แต่สละทุนเพราะได้เป็นแอร์โฮสเตสสายการบินโคเรียนแอร์
น่าเสียดายๆ

อาจารย์คนนี้พูดเก่งค่ะ ฮา สนุก แล้วก็ได้ความรู้ดี


ฟังประวัติแกแล้วเหนื่อยแทน เพราะเริ่มตั้งแต่จบม.รัฐชื่อดัง ไปต่อที่อเมริกา ทำงานที่แบงค์ออฟอเมริกาสาขานิวยอร์ก เป็นที่ปรึกษาบริษัทการเงิน อยู่อเมริกามาเจ็ดแปดปีก็มาสอนที่ม.กท. เป็นตั้งแต่หัวหน้าแผนก รองคณบดี คณบดี รองนั่นรองนี่ อู๊ยยยย แล้วยังเป็นผศ. กับ ดร. ด้วยนะ เรียนยังไงของเขาเนี่ย
.................................

อบรมจบเรื่องนึง ก็แห่กันออกมาทานอาหารว่าง
แต่ละวันขนมจะไม่เหมือนกัน อย่างวันแรกเป็นเค้กกล้วยหอมเอสแอนด์พี
วันนี้เป็นเค้กส้มกับปังหมูแฮม เลือกได้ว่าจะเอากาแฟหรือไมโล


นราซัดไมโลไปสองถ้วย อุ่นพุงดีค่ะ

นั่งฟังบรรยายสามวันนะ ไม่มีวันไหนเลยที่ไม่แอบหลับ
ไม่ไหวจริงๆ แอร์ก็เย็น อิ่มก็อิ่ม
มีวิทยากรอยู่คน พูดยังกะพระสวด
นราเลยของีบแล้วหลับ กลับค่อยตื่นก็แล้วกัน
เป็นการแอบหลับที่กล้ามาก เพราะนั่งหันหน้าเข้าหาวิทยากรพอดี
ของอย่างนี้เลียนแบบกันไม่ได้นะเนี่ย กร๊ากๆ

เนื้อหาส่วนใหญ่ของการอบรม ก็เป็นเรื่องของการเป็นอาจารย์นี่แหละค่ะ
หน้าที่ จรรยาบรรณ การออกข้อสอบ การทำตำรา ทำสื่อ ฯลฯ
(ขอบอกว่าอาจารย์ที่เขียนตำราบางท่านได้ค่าลิขสิทธิ์เป็นแสนนะจะบอกให้)
โชคดีที่ปีนี้เขายกเลิกการสอบสอนแล้ว
ไม่งั้นคงได้สอบตกตั้งแต่ยังไม่เริ่มงาน
.................................

เขาเลี้ยงอาหารเที่ยงด้วย
เมื่อวานเป็นหมูตุ๋นยอดผัก แกงจืดเห็ดหอม รวมมิตรทับทิมกรอบ
วันนี้เป็นข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง น้ำตก
ม.กรุงเทพ สมเป็น Creative University จริงๆฮ่ะ


โอ๊ะ อย่าพูดไป ส้มตำอร่อยนะยะ
กรอบๆ กร้วมๆ น้ำปรุงรสเปรี้ยวๆไม่เผ็ดมาก กำลังดี
แซบอีหลี ลุกไปเติมตั้งสองครั้ง
วันก่อนก็กินมังคุดไปเยอะมาก เยอะเหมือนตัวเองเป็นเครื่องบดขยะ
กลืนหาย กลืนหาย แล้วส่งสายตาละห้อยไปทางถาดมังคุดที่พร่องลงไปเรื่อยๆ
ตอนนี้อาจารย์ท่านอื่นๆที่นั่งร่วมโต๊ะกัน รู้หมดแล้วว่านราสันดาน...เอ้อ...นิสัยเป็นไง

แต่...สนที่ไหนล่ะ ฮ่าๆ ด้านได้อายอดย่ะ
................................

ทานข้าวเที่ยงเสร็จก็เข้าอบรมต่อ
อบรมได้ชั่วโมงเดียวก็ถึงเวลาอาหารว่างอีกและ
จะขุนอะไรกันนักหนาเนี่ย
(แต่ก็ซัดไมโลไปอีกสองถ้วย)
ตอนบ่ายมีโรลใบเตยลูกตาล กับพัฟหมูมินิ



พยายามจะยัดให้หมด แต่กินไม่ไหวแล้ว
เลยต้องเหลือพัฟไว้
เวลาเดิน มีเสียงจ๋อมๆในท้องด้วย แถมพุงก็เด้งดึ๋ง เวลาเอามือกดแล้วมันเด้งสู้มือด้วยแหละ
อบรมจบสี่โมงก็กลับเข้าออฟฟิศ ทำงานต่อ
งานเข้า สาดดดดดเอ๊ย
นราอุตส่าห์แอบหวังว่าไอ้ทริปเม็กซิโกนั่น หลังจากเจอเงื่อนไขสุดหินของกองควบคุมโรคเข้าไปแล้วเขาจะยกเลิกทริปไม่มา
ดั๊นรับได้ ยังไงก็จะมา โอ๊ยยยยย พระเจ้าช่างไม่เห็นใจ
ใจคอจะให้ทำงานจนกว่าจะขึ้นเครื่องบินกันเลยใช่ไหมคะ?
..........................

มุกกุ
ใช่แล้วค่ะ นัททำงานที่อิเซตันนั่นแหละ ชั้นหกนะ แผนกนวนิยายโรมานซ์
นี่ก็พยายามใช้เพื่อนให้สังเกตความนิยมของลูกค้าอยู่ว่าแนวไหนมาแรง
เผื่อจะเอามาแปล อิ๊ๆ

หมูหวาน
เอารูปตอนเธอไปสนามบินแล้วเพื่อนๆไปส่งมาให้ดูบ้างสิ
ส่วนเรื่องดักตีหัวหนุ่มเกาหลี นราว่าอย่าเหอะ
บอบบางขนาดนั้น จะทนแรงตีได้เร้อ
แค่เปิดพัดลมเบอร์สาม เนื้อตัวเฮียแกก็ช้ำไปหมดแล้ว
ผอมโกรกอกไก่ซะปานนั้น

แนนคะ
นราเปล่าใช้เวลางานมาอัพบล็อกนะคะ
เพราะคอมที่ม.มันตั้งโปรแกรมดักป็อปอัพ ทำให้เราอัพรูปไม่ได้
นราขโมยใช้เน็ทข้างบ้านตังหากล่ะ วู้

วิมโป้
ไปจิๆไปโรงเรียนกัน
อยากไปก่อนไม่มีเวลาจะไป เพราะต้องมาจัดการเรื่องทริปงี่เง่าๆ ฮึ่ย

บุ๋ม
โอ้ ไม่คิดว่าจะตามมาหากันจนเจอ ขอบคุณมากนะคะที่แวะมา
แล้วแวะมาอีกล่ะ

น้องโอ๋
ที่ห้อยมือถือรูปน้องเต้าหู้ไม่เคยเห็น เห็นแต่ตุ๊กตา หมอน ไรงี้
แต่นราว่ามันน่าจะมีแหละ เพราะญี่ปุ่นชอบผลิตของน่ารักๆมาหลอกเอาเงินเรา
ขาบุ๋มนราไม่ได้ถ่ายไว้นะ เสียดายๆ แต่กล้องมันไม่ดี ถ่ายใต้โต๊ะไม่ได้
เอาไว้คราวหน้าไม่พลาด
ปล. ชีสเค้กเหมือนน้องจะยังไม่เคยทำนะ


วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Then We Meet Again!


ฮูเล่ โอนภาพมาจากมือถือได้แล้วจ้า
เมื่อวันเสาร์ที่สิบหก เพื่อนๆศิษย์เก่าสน. นัดกันเลี้ยงส่งซีเกมที่กำลังจะโกอินเตอร์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ดีใจมากที่ได้เจอเพื่อนอีก
เพราะตอนหมูหวานไปเกาหลี แนนไปญี่ปุ่น
ก็ไม่ได้ไปเลี้ยง ไปส่งอะไรกับเขาเลยเพราะติดงาน
พอดีว่าวันนี้เขานัดกันหลังห้าโมงที่โลตัสอ่อนนุช
นราเลิกงานพอดี แถมใกล้ด้วย ก็เลยไปแจมซะหน่อย

แต่งตัวแก่ที่สุดในกลุ่ม
รู้งี้เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนก็ดี
เจอนัท ปัจจุบันเป็นสาวร้านคิโนะคุนิยะ
ยังอารมณ์ดีและตัวเล็กเหมือนเดิม
ที่อภัยให้ไม่ได้คือได้เงินเดือนดีมากกก ฮึ่ยยย อิจฉาโว้ยยยคะ
(เป็นอาจารย์ต้องพูดเพราะ)


ไม่ได้เจอบุ๋มนานเหมือนกัน เจอกันครั้งนี้ทำเอาตะลึงนิดหน่อย
แหมๆ เดี๋ยวนี้มีแต่งหน้าทำผมนะ ฮ่าๆๆ
กางเกงนี่ ถ้าไม่บอกนึกว่าผ้าเช็ดจาน สั้นมากกก
ส่วนเกี๊ยว เพิ่งเจอเมื่อสัปดาห์ก่อนเอง


นี่ถ่ายกับคุณหญิงซีเกมเจ้าของงานทางด้านซ้าย
ดูสะสวยขึ้นผิดหูผิดตา
มิน่าเล่าหนุ่มๆ จึงได้รุมตอมราวแมงวันตอม... เอ๊ย ราวภมรดอมดมบุปผมาลี
ที่เธอหลบไปอเมริกาคราวนี้ เห็นจะเป็นเพราะสับรางรถไฟไม่ทันซะละมั้ง ฮ่าๆ
ล้อเล่นน่ะ คนเค้าจะไปเรียน มุ่งหน้าสู่อนาคตสดใส
ส่วนปัด เดอะวิมโป้ วันนี้ก็ถูกเพื่อนๆ เซอร์ไพรส์วันเกิดย้อนหลัง
ทางร้านมีแถมของหวานฟรีให้หนึ่งจาน
เป็นขนมปังอบทาแยมบลูเบอร์รี ปักเทียนรอบๆ
สวยนะ แต่...(จงเติมคำในช่องว่าง)


นรากับปัดเถียงกันว่า ตกลงซีเกมจะไปรัฐไหน
นราบอกเกมจะไปแมรีแลนด์ ปัดบอกไปวอชิงตันดีซีไม่ใช่เหรอ
เถียงไปเถียงมา เจ้าตัวมาเฉลยว่ามันก็ที่เดียวกันนั่นแหละ
ฮากระจาย
เถียงกันไปเพื่ออะไรเนี่ย

สั่งอาหารมากินกันเยอะมากมาย
มีพิซซาถาดใหญ่ หอมทอด สลัดบาร์ ลาซานญา ซุป
ผักโขมอบชีส ชีสกรอบ ปีกไก่ สปาเก็ตตี้แฮมเห็ด
บลา บลา บลา
เป็นมื้อมโหฬารมื้อนึงเลยนะเนี่ย
ตกคนละร้อยหกสิบบาท ถือว่าโอเคค่ะ
เมื่อคิดว่าได้กินจนท้องกาง และได้สังสรรค์ฮาเฮกับเพื่อนเก่า


ตอนจ่ายตังค์ นราไม่มีเศษหกสิบ ต้องออกไปแตกแบงค์ข้างนอก
เห็นเค้าขายเจ้าตัวนี้อยู่ อรั๊ยๆ
โทฟุจัง นราเคยซื้อแบบที่เป็นตุ๊กตาให้แฟนเมื่อปีใหม่สองปีที่แล้ว
อันนี้เป็นที่วางมือถือ นิ้มนิ่ม ว่าจะเอาไปใช้ที่ที่ทำงาน
จะได้มีอะไรเหมือนกันมั่ง อิอิ


กินเสร็จประมาณเกือบสองทุ่ม ก็แยกย้ายกันไป
นราก็ไปเจอแม่ที่เอ็มเค แต่ไม่ได้กินต่อนะ
กระเพาะอาหารมันก็มีขีดจำกัดนะคะคุณ
.................................

อันนี้ไม่เกี่ยวกับเลี้ยงส่งเพื่อน
แต่เป็นเมนูใหม่จากเชฟเอม (ใส่ตำแหน่งให้เอง) น้องสาวนราเอง
มันบดหน้าชีสอบ โอววว อร่อยขึ้นสวรรค์อ่ะ


เนื้อมันบดนุ่มละเอียดชุ่มเนย แต่ไม่กลบรสชาติหวานอร่อยของมันฝรั่ง
โปะหน้าด้วยเชดดาร์ชีส แล้วเอาเข้าเตาอบ
ทานตอนกำลังร้อนๆ ชีสที่กำลังละลายจะเคลือบหน้ามันบด
อย่อยยยยยยยย
ซัดไปสองถ้วยแน่ะ
................................

และเป็นเพราะการจ้วงรับประทานอาหารหนักแคลอรีแบบไม่เกรงใจเส้นเลือดมาตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ส่งผลให้นราต้องกรีดร้องด้วยความเจ็บใจ
เมื่อก้าวขึ้นเครื่องชั่งน้ำหนักแล้วเข็มหยุดที่เลขห้าสิบเจ็ด!
แอร๊ยยยยยยยยยย ขึ้นมาสองโล สองโลววววว
นราเสียสถิติน้ำหนักคงที่ที่ห้าสิบห้าโลตั้งแต่ม.หกไปเสียแล้ว
เมื่อก่อนยัดทะนานเท่าไหร่ก็บ่ยั่น ไม่เคยเกินห้าสิบห้าโลตามมาตรฐานเลย
นี่แหละหนาคำพระว่าสังขารย่อมไม่เที่ยง
ข้าน้อยผิดไปแล้ว
เค้โระๆๆๆๆ
..................................
มุกกุ
ขอบคุณจริงๆค่ะสำหรับกำลังใจ
ที่มุกบอกมันก็เป็นสัจธรรมชีวิตทุกอย่างนะ
นี่นรากำลังดำเนินแผนการลดความเสี่ยง
ด้วยการลากแฟนไปเยี่ยมที่อังกฤษให้ได้ ฮ่าๆ
เอ๊ะ
นราควรจะระแวงมุกด้วยไหมเนี่ย
หมู่นี้แฟนนราชอบบอกว่ามุกหน้าเรียวสวย ผิวสวย
เอ๊ะๆๆๆๆๆ

หมูหวาน
ขอบคุณเช่นกันสำหรับกำลังใจ
ใช่มะๆ เป็นผู้หญิงก็ต้องน้อยใจ
ผู้ชายบางทีเขาไม่เข้าใจร้อก
(เปิด If I Were A Boy อีกที)
แต่นราก็คุยกับแฟน แก้ปัญหาจบไปเรียบร้อยแล้วล่ะ
คุยกันตรงๆดีที่สุดเนอะ
เมื่อกี๊เพิ่งดูเรื่องจริงผ่านจอในยูทูป
"หนุ่มหึงโหดเผาแฟนทั้งเป็น" "สามีนรกกระทืบเมียปางตาย"
"เมียอารมณ์ร้อนตัดพวงสวรรค์ผัวด้วน"
...
ดูแล้วรู้สึกว่ารักที่นรามีอยู่นี้ช่างแสนงามค่ะ

ปล. ใครยังไม่ได้ดูรูปเบบี๋แมวเกิดใหม่ อย่าลืมแวะไปดูในเอนทรี่ที่แล้วนะจ๊ะ

I Think Too Much, or There's Too Much to Think?


คำเตือน
ถ้าวันนี้ใครไม่อยากอ่านบล็อกเชิงระบายความรู้สึกนะคะ
อนุญาตให้ไถๆๆ ลงไปดูรูปหนูแมวเบบี๋ข้างล่างๆ ได้เลย
วันนี้สุขกับทุกข์เกิดพร้อมกันค่ะ
ปั่นป่วน บอกไม่ถูก
ตื่นขึ้นมาตอนเที่ยงคืน นอนไม่หลับ พลิกไปพลิกมาคิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง

จะเริ่มละนะ เตือนแล้วด้วย
.
.
.
นรารู้ว่าตัวเองไม่สวย ติดอัปลักษณ์ นอกจากเรียนดีแล้วไม่มีความสามารถอะไรอื่นสักอย่าง
แถมกำลังเริ่มอ้วน เริ่มเหี่ยวตามสังขารคนไม่ค่อยดูแลตัวเอง
พักนี้ทำงานแล้ว เวลาเจอกันมันก็ลดลง
นี่หรือเปล่าคือเหตุผลที่ทำให้คนของเรา
บอกกับรุ่นน้องผู้หญิงของเขาว่าเขา "ไม่มีแฟน"

เราคุยกันแล้ว เขาขอโทษแล้ว นราไม่ว่าอะไรแล้ว เพราะไม่อยากให้เรื่องยืดยาว
เขาว่าเป็นเพราะนึกคะนอง ไม่มีเหตุผลอื่น
แต่ความรู้สึกมันตกตะกอนค้างคาในใจ
นราคิดมากเกินไป หรือมันมีเรื่องชวนให้ต้องคิดมากเยอะกันแน่นะ
ถ้าไม่มีเหตุผล ทำไมถึงบอกรุ่นน้องไปอย่างนั้น
ถ้าไม่มีเหตุผล จะหาเรื่องชักศึกเข้าบ้านทำไม
อีกสี่เดือนนราก็ไปแล้ว
สภาพจิตนราย่ำแย่จากทั้งเรื่องงาน เรื่องเรียนต่อ บางทีก็รู้สึกเหมือนตัวเองจะสติแตกอยู่ร่ำๆ
ไม่ไหวแล้ว
เสียใจจริงๆ อยากลืม แต่ทำไม่ได้
ไม่เคยคิดว่าเขาจะพูดแบบนั้นออกไปเลย
ทั้งๆที่เราให้เกียรติเขามาตลอด ไม่เคยพูดเลยว่าฉัน "ไม่มีแฟน"
ไม่ว่าจะกับทั้งผู้ชาย ผู้หญิง รุ่นพี่ รุ่นน้อง ฝรั่ง ไทย
แม้แต่กับป้าที่เป็นอาจารย์จอมเฮี้ยบ ดุ
นราก็พูดเต็มปากเต็มคำกับเขาว่า "มีแฟน" แล้ว
ทำไมๆๆ นราผิดอะไร?
หรือผิดเองที่เสือกเป็นคนคิดมากไป?
(สำหรับคนที่อ่าน เปิด If I Were A Boy ของ Beyonce คลอไปด้วยจะได้ฟีลมาก)
.
.
.
.
เอาล่ะ พ้นช่วงโปรโมชั่นพิลาปรำพันแล้วล่ะ
มาดูรูปหนูแมวเบบี๋แดงๆกันเถอะ
เพิ่งเกิดได้ไม่กี่วันเอง สามวันเองมั้ง
ตัวยังแดงๆ หนังเหี่ยวๆ อยู่เลย
หม่าม้าแมวชื่อจ่อย หน้าตาไม่รับแขกมาก แต่ไม่หวงลูกเท่าไหร่
ตอนนี้กำลังสล้วบนมสำราญใจเชียว


ลูกแมวคราวนี้สีคล้ายๆ กันหมดเลย ออกดำๆ
มีตัวนึงมีป้ายๆ สีน้ำตาลตรงหน้า
ต้องรอดูค่ะว่าโตขึ้นแล้วสีจะเปลี่ยนไหม
ต้องดูด้วยว่าขนจะยาวเหมือนแม่หรือพ่อ
(ซึ่งเป็นแมวไทยขนเหี้ยนไม่ทราบชื่อนามสกุล)
เดี๋ยวสัปดาห์หน้าต้องไปดูใหม่
ถึงตอนนั้นตาคงลืมแล้ว คงจะแบ๊วน่าดู
น้องแมวน่าร้ากกก ขนนิ้มนิ่ม
อยากเอาใส่กระเป๋ากลับบ้าน


หนูแมวตัวนี้เล็กที่สุดเลย ผอมกว่าเพื่อน


ส่วนหนูแมวตัวนี้มีแววหน้าบุบเหมือนคุณแม่ค่ะ
น่าจะเป็นขนยาว


ซุกกันอุ่นๆ



เพิ่งเกิดใหม่ ตัวเล็กจิ๊ดเดียว ไม่ถึงฝ่ามือด้วยซ้ำ
แต่ถ้าเทียบกับตัวแม่แล้ว ก็ถือว่าใหญ่ใช้ได้ค่ะ
เดี๋ยววันหลังจะซื้อนมผงสำหรับลูกแมวกับขวดนมจิ๋วไปฝากนะลูก
................................
จดหมายถึงแฟนเพลง
หมูหวาน
ที่ถามถึงวงซูเปอร์จูเนียร์อ่ะ ไม่มีไรหรอก
แค่ชอบเพลงร็อกกุโก้ๆ
หายากนะเนี่ย นานๆนราจะชอบเพลงเกาหลีซะที

มุกกุจัง
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะค้า
วันนี้ก็เลยได้ใช้บล็อกเป็นที่ระบายตามคำแนะนำของมุกเลย

โอ๋
ขอบคุณมากที่แวะมา วันหลังฝากแอดเดรสบล็อกเธอไว้ด้วยนะ
จะได้ไปหาบ้าง

วิมโป้
ขอโทษนะคะที่ไม่ได้ลงเรื่องที่ไปกินเลี้ยงส่งเกมส์เมื่อวาน
รูปในมือถือมันเป็นไรไม่รู้ โอนลงคอมไม่ได้
เซ็งจริงๆ รู้งี้ซื้อโซนี่อิริกสันเหมือนเดิมดีกว่า

คำคมวันนี้
อยากเป็นแฮนดี้ไดรฟ์ จะได้ลบความทรงจำที่ไม่อยากจำได้ด้วยปลายนิ้วกด Delete

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

The Taste of Home (+New Flashy Nails)

เพราะเล็บมันไม่รักดี
จะไว้สั้น ก็ขูดเอาสิ่งสกปรกมากักตุนไว้ในซอกเล็บ
น่าหยะแหยงมาก
(ใครนะบอกว่าตัดเล็บสั้นแล้วจะสะอาด มีอนามัยดี)
แต่พอจะไว้ยาว มันก็จะเปราะ
และหักโดยอัตโนมัติเมื่อยาวออกมาได้ประมาณสามสี่มิล
แถมเล็บยังสีออกขุ่นๆ ดูไม่สะอาดอีก
นราเลยต่อเล็บปลอม ปิดไอ้พวกเล็บจริงเส็งเคร็งไปซะเลย


เว่อร์ไปหรือเปล่าคะ
แฮะๆ ชอบลายมันด้วยแหละ
ตอนนี้เลยทำอะไรได้ช้าลง พิมพ์ก็ช้าลง
เพราะไม่ได้ไว้เล็บยาวมานาน เลยไม่ค่อยชิน
แต่คาดว่าอีกสักเดี๋ยวสปีดปกติในการกิจวัตรประจำวันจะกลับมาเองค่ะ
...................................

วันนี้ไม่ได้ทำอะไรเท่าไหร่เลย
เมื่อคืนก่อนแปลก มีพายุลมแรงตอนกลางดึก
จนเราตื่นขึ้นมาเพราะว่าหนาว (??) ไม่น่าเชื่อ
วันนี้ก็มีฝนตกอีก จะเข้าหน้าฝนแล้วเหรอเนี่ย
ดีเหมือนกันนะ สงสารคนที่อยู่ที่ที่แห้งแล้งร้อนจัด
จะได้เย็นสบายซะที
แต่อย่าตกหนักจนกลายเป็นมรสุมน้ำท่วมล่ะ
หรือถ้าจะท่วมจะไหลบ่า ก็ช่วยพัดพาเอาพวกนักการเมืองห่วยๆ ออกไปทิ้งนอกอ่าวไทยด้วยเทอะ

วันนี้ส่วนใหญ่จะนั่งค้นหาข้อมูลเรื่องมหาวิทยาลัยที่จะไปค่ะ
ซึ่งก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าจะไปหล่นอยู่ที่ไหน
เราควรจะเลือกม.ที่ค่าหอพักถูก แต่อยู่บ้านนอกคอกนา เมืองร้างตั้งแต่หกโมง
หรือเลือกม.ที่หอแพงหน่อย ประมาณร้อยปอนด์ต่อสัปดาห์ทั้งๆที่ไม่ได้อยู่ในลอนดอน แต่ว่ามีสภาพเป็นเมืองหน่อยดี

ตอนนี้เน้นหนักอยู่สองที่ คือเดอรั่มและยอร์ก
วอร์ริกเก็บเป็นตัวเลือกสุดท้าย เพราะข่าวแว่วมาว่าคนไทยเยอะแทบเหยียบกันตาย
ถ้าคนไทยเยอะๆ เราจะไปถึงอังกฤษทำไมล่ะ
เดินออกไปปากซอยหน้าบ้านก็ได้คุยแล้วเนี่ย
เอาแค่พอมีให้อุ่นใจก็พอแล้ว

นี่ยังแค่เรื่องหอพัก ยังไม่ถึงเรื่องวีซ่า อินเตอร์เน็ท โทรศัพท์ บัญชีธนาคาร และตั๋วเดินทางเลยด้วยซ้ำ
ทำไมมันยุ่งวุ่นวายยังงี้หนอ
ใครมีประสบการณ์หรือคำแนะนำ นรายินดีน้อมรับนะคะ
..................................

นั่งหน้าคอมทั้งวัน เหนื่อยล้า เมื่อยตา
วันนี้น้องสาวทำเมนูเด็ดให้กินอีกแล้วววว
มันฝรั่งบดไส้ชีสชุบแป้งทอดค่ะ


มีน้องชอบทำอาหารก็ดีอย่างนี้แล เหอ เหอ
จริงๆ นราก็ซื้อมะเขือม่วงยักษ์มาลูกหนึ่ง
กลมๆ เหมือนลูกโบว์ลิ่ง กะจะเอามาลองชุบแป้งทอด
พอน้องทำมันฝรั่งชุบแป้งนี่ นราเลยเก็บมะเขือไว้ก่อน
แล้วรอกินอย่างเดียว ฮ่า ฮ่า

บิออกมาเห็นไส้มันบดขาวๆ เนียนๆ ละเอียดเนื้อนุ่มน่าหม่ำที่ซู้ด


แล้วก็มีซุปไก่ใส่มันฝรั่งฝีมือปาป๊าด้วย
อย่อยยยยย
ซดร้อนๆนะ หูยยย หายปวดหัวเลย
หอมใหญ่ก็ต้มจนเปื่อย หวานค่ะ ไม่เหม็นเลย


ทานข้าวที่บ้านนี่แหละ อร่อยที่สุด
เศร้าๆเหมือนกัน อีกประมาณสี่เดือนกว่า
นราก็ต้องอยู่คนเดียว กินข้าวคนเดียวแล้ว
ไม่ได้กินของอร่อยฝีมือคนที่บ้านอีกตั้งปี
ต้องฝากท้องไว้กับแซนด์วิชโง่ๆ แพงๆ ของฝรั่ง
ชิ้นละสองปอนด์ ซื้อก๋วยเตียวบ้านเราได้ตั้งสี่ชามแน่ะ

ก็ยังพยายามสู้ต่อไป อดทนต่อไปค่ะ
ไม่อยากไปก็ต้องไป จะได้จบเร็วๆ กลับมาเร็วๆ
ขอบคุณเพื่อนๆสำหรับคำแนะนำและกำลังใจที่คอยแบ่งปัน
มีความสุขกันทุกคนเลยนะ

วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Here Comes the Result!

หวัดดีค่ะ
หมู่นี้ไม่มีเรื่องอะไรให้อัพเลย
(แน่ละสิก็สัปดาห์ที่แล้วเล่นอัพซะสามวันติดนี่)
วันนี้อัพหน่อยแล้วกัน แจ้งข่าวผลแห่งกรรม
ไม่อยากรู้ก็ต้องรู้ เพราะมันคือตัวกำหนดว่าปีหน้าเราจะไปไส้แห้งอยู่ที่ไหน
ผลไอ้แอ๊วออกแล้วค่ะ

ตะลึงตึ่งตึ้งนิดหน่อย
เพราะไอ้ที่คิดว่าจะได้เยอะ ดันได้ไม่ถึงเป้า
ส่วนไอ้ที่คิดว่าทำได้ธรรมดาๆ เจือกออกมาสูง
แต่นะ พาร์ทเขียน ได้ไม่ถึงเจ็ด
นราก็โบกมืออำลาคิงส์คอลเลจเรียบร้อยแล้วค่ะ
ตามที่เรียนให้ทราบ
คิงส์คอลเลจต้องได้คะแนนรวมเจ็ด โดยพาร์ทเขียนกับอ่านต้องเจ็ดด้วย
เซ็งๆนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไร
มหาวิทยาลัยท็อปเท็นไกลปืนเที่ยงพร้อมฝูงเป็ดเต็มบึงยังมีให้เราสมัครค่ะ
กลับมาจะได้เปิดฟาร์มเป็ดแข่งกับซีพี
(ตกลงไปเรียนอะไรกันแน่)

พาร์ทเขียน นราค่อนข้างพอใจกับผลงาน
ก่อนส่งก็เช็กตัวสะกดกับไวยากรณ์แล้ว
นับคำทีละคำเลยด้วยว่าครบตามกำหนดหรือเปล่า
เลยเสียใจนิดหน่อยที่ได้ไม่ถึงเป้าหมาย
แต่สปีกกิ้งนี่รู้ตัวดี
จะโทษคนคุมสอบไม่ได้หรอกที่พูดสำเนียงฟังยาก พูดเบา ไม่เปิดปาก
ถ้าคนเก่งจริง เขาก็คงฟังออกหมดหละ และคงมีสติพอที่จะขอให้เขาพูดเสียงดังขึ้นหน่อยด้วย

อันที่จริง อยากเข้าคิงส์คอลเลจเพราะชื่อเสียงมันดี
แถมคอร์สที่เราเลือกก็น่าเรียน คือไม่มีสอนรีเสิร์ชเมธอดส์นั่นเอง ฮ่า
ฉายแววขี้เกียจตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลย
แต่เห็นลอนดอนแล้วไม่ค่อยอยากอยู่
นราไม่ชอบคนเยอะๆ ไม่ชอบเมืองที่เป็นเมืองมากๆ
มันวุ่นวาย แถมค่าครองชีพก็แพง
ถ้าอยู่ลอนดอน ค่าที่พักก็ตกสัปดาห์ละร้อยกว่าปอนด์ เดือนนึงก็สี่ร้อยกว่าๆ
แต่ถ้าเป็นยอร์ก จะตกสัปดาห์ละแปดสิบ เดือนนึงก็สามร้อยนิดๆ
แต่กระนั้นก็ยังยืนยันไม่ได้ว่าจะต้องไปถอนหญ้าแถวนั้นมาต้มกินแทนข้าวยามถังแตกหรือไม่

ตารางนี้คืออันดับของมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร (รวมเวลส์และสก็อตแลนด์ด้วย) ที่จัดไว้โดย Times ปีนี้ค่ะ


นราพลาดคิงส์คอลเลจอันดับสิบเอ็ดไปแล้ว
ยังเหลือวอร์ริค อันดับหก, เดอรั่ม อันดับแปด, และยอร์ก อันดับเก้าไว้ให้ลุ้นต่อค่ะ
เป็นยังไงล่ะ เลือกซะสูงเลย
ผลลัพธ์มันก็สาหัสเป็นธรรมดา ซิก ซิก
.....................................

ก็ยังขอขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่แวะเวียนมาเป็นกำลังใจและมอบสัจธรรมชีวิตให้เอาไปคิดนะคะ
ช่วยได้มากจริงๆ
ยังไงก็จะพยายามต่อไปแล้วกัน

มุกกุ
ผักบุ้งไม่ได้หายไปไหนค่ะ แต่แยกเอาไปทำผัดผักบุ้งให้น้องกินกันตาย
ยินดีด้วยนะคะที่ใกล้จะเรียนจบแล้ว
ยินดีต้อนรับสู่วังวนมนุษย์เงินเดือน เหอๆๆ

รมต. กระทรวงคนรักแมว
ไม่ได้แกล้งนะจะบอกให้ แค่เอาใส่ถุงเท่านั้นเอง
ถ้าจะแกล้งละก็ ต้องเอาถุงเท้าเจาะรูไปครอบหัวมัน
แบบที่น้องนราทำตังหาก กรั่กๆ

หนูแนน
ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ
อีกหน่อยถ้านราไปบ้านนอกของอังกฤษจริงๆ
แล้วจะขอคำแนะนำจากแนนนะ สาวไซโจ

หมูหวาน
ขอบคุณเหมือนกันเน้อ
ชอบไอ้คำคมเรื่องประตูปิดๆเปิดๆของเธอเหลือเกิน
ได้ข่าวว่าสอบผ่านฉลุย
อืมๆ เก่งๆ อย่าให้เจอนะ อิจฉาวุ้ย

หมู้วผักเน่า
หมู่นี้ไม่แวะมาเลยนะ
คิดถึงจัง

ปล. กินมะเขือทอดมาติดกันสามวันแล้วค่ะ

วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Now I Shall Fall on My Knees...


วันนี้ท้องฟ้าขมุกขมัวตั้งแต่เช้า เหมือนอารมณ์เราเลย
มืดหม่น หมองมัว และซึมเซา
บางทีเราก็ตอบไม่ได้ว่าทำไมอารมณ์ถึงดำดิ่งลงสู่จุดต่ำสุดได้อย่างนี้
รู้แต่ว่าเหนื่อย เบื่อ ดูทุกอย่างมันเคว้งคว้างไม่มีจุดยึด
..............................

เราเดินมาบนเส้นทางนี้เพราะอะไร?
เพราะใคร?
เพื่อใคร?
นี่คือสิ่งที่ดีแล้วหรือ
ดีแล้วหรือเปล่า
อีกห้าปีต่อจากนี้
เราจะเป็นเหมือนตุ๊กตาหน้าหมูไขลานที่เดินเป็นวงกลมไปเรื่อยๆไม่จบสิ้น
ตามวงจรความฝันของคนที่รักและหวังดีต่อเราหรือเปล่า
....................................

เศรษฐกิจไม่ดี การเมืองแย่ คนตกงานเป็นร้อยเป็นพัน
ผลักดันให้เรามาอยู่ตรงนี้
เราไม่กลัวตกงาน เราไม่กลัวการเดินเตะฝุ่นหางาน
แต่มีหลายคนเขากลัวแทนเราเสียนี่
เราจะอกตัญญูไหมถ้าไม่ทำตามที่ผู้ใหญ่ที่มีพระคุณอยากให้ทำ อยากให้เป็น
เราจะเป็นเด็กเนรคุณหรือเปล่า
เวลาพ่อแม่ยิ้มแย้มอย่างภาคภูมิใจว่าลูกสาวเป็นอาจารย์ทุน
เราควรจะรู้สึกดีว่าได้ทำให้พ่อแม่มีความสุขสมหวังใช่ไหม
.
.
ไม่ใช่หน้าชื่นอกตรมแบบนี้
.....................................

ขอโทษด้วยค่ะที่วันนี้มาแบบเศร้าๆ
แต่ก็ไม่ไหวจริงๆ
เหมือนเวลาที่จะต้องเป็น "สิ่งที่คุณก็รู้ว่าอะไร" มันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
สัปดาห์ที่สามของเดือน นราต้องเข้าอบรมอาจารย์ใหม่แล้ว และต้องสอบสอนด้วย
มันไม่ใช่อาชีพที่เลวร้าย เป็นอะไรที่มีเกียรติมาก
แต่มันไม่ใช่นรา นราทำได้
แต่มันไม่ใช่นรา

ทำไมคนเราถึงต้องจบนอกให้คนไทยด้วยกันยอมรับว่าดี
ทำไมคนที่ไม่เคยเห็นนราเรียนหนังสือเลยถึงมาบอกว่านราเป็นคนวิชาการ
(แสดงว่าไม่เคยเห็นตอนโดดไปเล่นเกมละซิท่า ถ้าเขามาอ่านตอนนี้มีหวังโกรธไฟลุกแหงๆ ฮ่าๆ)
ทำไมเราต้องสานฝันของคนอื่นด้วย
........................................

เพื่อเป็นการไถ่โทษที่ทำให้ต้องมาอ่านเรื่องศาลาคนเศร้า
วันนี้มีเมนูประหลาดมาฝากค่ะ
ตอนเดินกลับบ้าน ไม่รู้คิดไร
อยากทานมะเขือยาวทอดขึ้นมา เลยแวะซื้อ
กับผักบุ้งกำนึง เหี่ยวๆแล้วเพราะซื้อตอนเย็น


ในหนังสือเรื่อง Bella Tuscany โดย ฟรานซิส เมเยส
เขาพูดถึงอาหารอย่างหนึ่งของชาวใต้ที่น่าทานมาก คือมะเขือเทศทอด
หั่นมะเขือเทศ จะแดงหรือเขียวก็ได้ตามชอบ ให้หนาสักครึ่งนิ้ว
ชุบแป้งบางๆ แล้วเอาไปทอด กินกับครีมและข้าวโพด
น่าอย่อยยยย
แต่นราไม่ชอบมะเขือเทศ เอามะเขือยาวมาก่อนแล้วกัน
ส่วนแป้งก็ไม่ต้อง เพราะขี้เกียจล้างชามเขลอะๆ ใช้ไข่นี่แหละง่ายดี

หั่นมะเขือยาวเป็นแว่นๆ ไม่หนาไม่บางเกินไปค่ะ
เลือกมะเขืออ่อนๆนะ ถ้าแก่แล้วเม็ดมันขม เนื้อมันจะซ่าๆด้วย


ทีนี้นราก็ตีไข่ ปรุงรสไข่ด้วยซีอิ๊ว กระเทียม และพริกไทย
ตั้งกะทะร้อนๆ น้ำมันท่วมๆหน่อย รอให้ร้อนค่ะ
พอร้อนจัด (อย่าให้ไฟลุกล่ะ) ก็เอามะเขือที่ชุบไข่ไว้แล้ว หย่อนลงไปทีละชิ้น
กลับไปมาอย่าให้ไหม้
น้ำมันต้องร้อนจัดนะคะ แบบหย่อนลงไปแล้วก็ฟูเลย
ไม่งั้นไข่ด้าน จะอมน้ำมัน (ไปมากกว่านี้)
แล้วก็จะรสชาติเหมือนไข่เจียวธรรมดา

แจ่นแจ๊น เสร็จแล้ว
ไข่มันจะเป็นฟูๆบางๆกรอบๆค่ะ


ไข่นราชุบไม่หนามาก พอเคลือบกรอบๆค่ะ
ส่วนมะเขือยาวนะ หูยยยย อย่าให้เซด
เนื้อแทบจะละลายเป็นครีมเลยอ่ะ หวานด้วย
ตรงที่เป็นเม็ดก็กุบๆหน่อย พอไหวค่ะ

คราวหน้าจะลองทำมะเขือม่วงทอดมั่ง

อวดแมวซักหนึ่งช็อตก่อนจาก


น้องหน้าวัว To Go ฮ่าๆๆ
เพราะขี้เหร่เลยโดนแกล้งอยู่เรื่อย
ตอนนี้ตั้งตัวเป็นเจ้าแม่ไล่กัดชาวบ้านเขาบ้างละ
...............................

ขอบคุณทุกๆคนที่เป็นกำลังใจให้นรานะ
อยากเจอเพื่อนๆทุกคนเลยจ้าาา

วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Dear Passport

ช่วยด้วย
มดเข้าไปทำรังในโน้ทบุ๊กง่ะ
เดินสวนสนามกันตั้งแต่เช้าแล้ว
เอาไดรเป่าผมเป่าแล้ว ไม่รู้จะได้ผลไหม
.......................

วันนี้ไปทำพาสปอร์ตใหม่กับปาป๊ามาค่ะ
ที่สำนักงานหนังสือเดินทาง เซ็นทรัลซิตี้บางนา ชั้นบีหนึ่ง
ไปถึงก็เกือบเที่ยงแล้ว
กว่าจะวนหาที่จอด กว่าจะเดินหาสำนักงาน
ที่อยู่ในเขตลึกลับประหนึ่งเมืองลับแลเจอ ก็เที่ยงพอดี
พอไปถึงปั๊บก็เจอแบบนี้


สำนักงานหนังสือเดินทางหรือสถานีรถไฟหัวลำโพงฟะเนี่ย
นี่ยังดีนะไม่มีคนลงไปนั่งที่พื้น ไม่งั้นละใช่เลย
คนแน่นมากๆ นราได้คิวที่เจ็ดร้อยกว่าๆ
ตอนรับบัตรคิว วัดส่วนสูง กรอกเอกสารเรียบร้อย
คิวยังแหง็กอยู่ที่ห้าร้อยยี่สิบอยู่เลย

ใครที่จะไปทำพาสปอร์ตนะคะ
กรุณาเตรียมบัตรประชาชน และพาสปอร์ตเล่มเก่าไปด้วยถ้ามี
เพราะตอนนี้เขายกเลิกการต่ออายุแล้ว
ทำใหม่อย่างเดียวเท่านั้นค่ะ
และที่สำคัญ อย่าลืมปากกา สำคัญมากๆ
ถ้าไม่อยากไปเบียดเสียดแย่งปากกากันใช้กับคนอื่น
ที่สำนักงานก็มีปากกาขาย แต่แท่งละตั้งสิบบาท
(ที่เราก็ซื้อ เพราะตัวเองก็ไม่ได้เอาปากกาไป แฮะๆ)
มีบริการถ่ายเอกสารด้วย แต่นราว่าเพื่อความสะดวกสบาย
ทำไปให้พร้อมดีกว่าค่ะ

ถ่ายกับปาป๊าระหว่างนั่งรอ เบื๊อเบื่อ
ใส่สีชมพูมา เพราะหนูแนนบอกว่าสีขาวถ่ายออกมาแล้วไม่สวย


นั่งรอนานมาก คุยกันจนไม่มีเรื่องอะไรจะคุยแล้ว
ง่วง แต่จะงีบก็ไม่ได้ เพราะเดี๋ยวเค้าเรียกแล้วเราไม่ได้ยินจะซวยเอา
คนเยอะมาก แล้วเก้าอี้มันเป็นแบบม้านั่งแถวยาวๆ
ก็ไม่รู้เป็นอะไรกัน นั่งแต่ตรงริมๆ ไม่ยอมเขยิบเข้าไป
คนอื่นจะเข้าก็เข้าไม่ได้ ต้องคืบข้างเข้าไปแบบปู เหมือนตอนจะลุกไปเข้าห้องน้ำตอนดูหนัง

เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมง แล้วก็สองชั่วโมง
โคตรทรมาน
หนังสือก็ไม่มีอ่าน เอ็มพีสามก็ไม่ได้เอามา
นั่งมองหมายเลขบัตรคิวสีแดงๆ มันกระพริบเลื่อนไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย
จะมีเจ้าหน้าที่จะออกมาขานหมายเลข เรียกให้เข้าไปนั่งรอในอีกห้อง
แล้วไอ้เลขแดงๆ นั่น มันก็เป็นคิวของคนที่ได้เข้าไปในห้องนั้นแล้ว
ไม่ใช่ของคนที่นั่งรอข้างนอก
แล้วมรึงจะเอามาติดไว้ข้างนอกให้คนเขางงทำไมวุ้ย

อุ๊ย ถึงคิวนราแล้ว
นราผุดลุกว่องไว
กระบวนการถ่ายรูป สแกนลายนิ้วชี้ซ้ายขวา และตรวจสอบเอกสาร
เสร็จในสิบห้านาที
รู้สึกเหมือนไม่คุ้มอย่างแรง นั่งรอตั้งนานแน่ะ
แต่คนโต๊ะข้างๆ น่าสงสารกว่า
ทะเบียนบ้านเขามีปัญหาอะไรสักอย่าง
เจ้าหน้าที่บอกให้ไปเอาสำเนาทะเบียนบ้านอันเก่ามาด้วย
แล้วให้มาทำใหม่วันหลัง
....................
นราพูดแทนให้
"ฮื้ออออ เอาสองชั่วโมงของกรูคืนม้าาา"

ค่าทำพาสปอร์ต หนึ่งพันบาทถ้วน
ถ้าไม่อยากมารับที่สำนักงานเอง เขาก็จะส่งให้ทางไปรษณีย์
เพิ่มอีกสามสิบห้าบาทค่ะ ได้ในห้าถึงเจ็ดวัน
ให้บอกที่เคาน์เตอร์ตอนรับบัตรคิว
เขาจะให้แบบฟอร์มมากรอกที่อยู่จัดส่ง

บ๊ายบายคุณพาสปอร์ตเล่มเก่า
โดนแต๊มแคนเซิ่ลซะแล้ว


ขอบอกว่าหิวมาก มากกก
ลากปาป๊าไปกินฟูจิ เพราะตอนนั้นยังไม่บ่ายสาม
ถ้าสั่งอาหารชุดจะได้ชาหรือกาแฟเย็นหนึ่งแก้ว กับผลไม้ฟรี
หน้าร้านเขามีตู้ใส่ตุ๊กตา น่ารักมาก
อันนี้เป็นสิบสองนักษัตรมั้ง


อุ๊ยๆ นราชอบอันนี้ค่ะ
เหมือนเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายแมว ใช่อ๊ะเปล่า
มันมีสำรับอาหารอันเล็กๆ น่ารักตั้งอยู่ด้วย
อยากเก็บสะสมแบบนี้มั่งจังเลย



พอพูดถึงแมว ก็เลยนึกขึ้นได้
เวลาไปออกรายการทีวี เค้าก็ชอบเอาพวกภาพตอนเด็กๆ ของดารามาให้ดูใช่มะคะ
นราเอาของแมวนรามาอวดล่ะกัน
...........................

น้องจืด (ชื่อเดิมคือยาคูลท์ แต่ไม่มีใครเรียก) ตอนอายุได้ไม่กี่สัปดาห์


และ
.
.
.
น้องจืด ณ ปัจจุบัน อายุขวบครึ่ง
อวบอั๋น เอ๊าะๆ
โดนลวนลาม ขยำขยี้ทุกวัน
เพราะเนื้อมันเหนียว หนืด นุ่ม วุ้ย มันเขี้ยว


อันนี้ไม่ใช่แมวเรา แต่ก็ยังอยากจะอวด ฮ่าาา
เป็นน้องแมวที่บ้านเติ้ลค่ะ
ตอนนี้โตกันหมดแล้ว แต่ตอนเล็กๆ น่ารักม้ากกก


ตอนนี้มีตัวนึงกำลังท้องอยู่
นราก็รอลุ้น (เหมือนเป็นแมวตัวเอง) ว่าลูกแมวจะออกมาเป็นยังไง
ตื่นเต้นๆ อยากเล่นลูกแมวแล้ว
..............................

หมู้ว
แหม ตื่นเช้ามาทำอะไรน่ะ
รู้นะๆ
ว่าแต่ลืมสามห้าสามห้าของอุ้ยรึเปล่า อิอิ
แล้วถ้าจับหนอนมาใส่เค้า
เค้าจะเอาแมงสาบใส่ไว้ในผ้าเช็ดตัวของเติ้ล คอยดู๊

หนูแนน
นราก็เคยเลี้ยงหนอนอ้วนนะคะ ตอนม.ต้น
ไม่รู้แนนจำได้ป่าว นราเคยเอาไปโรงเรียนด้วย
แต่ไม่รู้มากลัวตั้งแต่ตอนไหน
เอ๊ะ ไม่ได้กลัวสิ แค่ไม่ชอบ ฮึๆ

หมูหวาน
ทำไมอ่ะ เค้กเกาหลีแพงเหรอ
อย่าไปสนใจจิ
คติของเราคืออะไรลืมแล้วเหรอ
"กระเป๋าแหกดีกว่าไม่ได้กิน"
ฮ่าๆๆๆ