วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2552

Farewell Dinner with My Family

เมื่อวาน ตั้งใจจะออกไปศูนย์วีเอฟเอสตรงราชดำริ ไปซื้อซิมโทรศัพท์
แบบที่พอลงจากเครื่อง ยัดซิม กดใช้งาน แล้วโทรกลับบ้านได้เลย
แต่ไปๆ มาๆ ก็ขี้เกียจ พอดีกับเขาบอกว่าให้แมสเซนเจอร์มาส่งได้
เลยนัดแนะให้มาส่งตอนบ่าย เช้าก็ออกไปศูนย์หนังสือจุฬาฯ
ปรากฏ สิบเอ็ดโมง มันโทรมาบอกว่ามาถึงแล้ว ฮ่วย
เลยให้น้องชายออกเงินไปก่อน ค่าซิม 749 บาท บวกค่าส่งอีก 100

I first thought of going to buy an international SIM card at VFS centre, Ratchadamri, yesterday, the one that you just walk off the plane, put it in your phone, activate it, then call home right away, but later I was too lazy to go, plus the woman there said she can have it delivered to me. So I told her to send the messenger in the afternoon, then I left for Chulabook.
Too bad the messenger arrived at eleven when I was already out!
The SIM costs 749 Baht, with 100 Baht delivering fee.


แต่พอมาคิดๆดู เอ๊ะ เดี๋ยวเราก็สมัครสไกป์แล้วนี่หว่า
แบบที่จ่ายหกปอนด์แล้วโทรเข้ามือถือได้ไม่จำกัดน่ะ แล้วกรูจะซื้อซิมอินเตอร์ไมเนี่ย
แต่เอาเหอะ เพื่อความสะดวกโน๊ะ
ลงจากเครื่องปั๊บจะได้โทรไปคร่ำครวญกับที่บ้านกับแฟนได้ทันที
But when I came to think about it, I wondered why I had to purchase this thing since I'll be paying six pounds for Skype for unlimited international phone calls.
But yeah, it's good anyway since I can call my family and my Sweetie immediately when I get there.

..............................


ไปศูนย์หนังสือจุฬาฯ กะพี่ออม พี่สาวนราเอง
กะจะไปหาหนังสือที่ต้องใช้เรียนที่โน่นมาอ่านล่วงหน้า
ปรากฏ ไม่มีสักกะเล่ม เลยไปกินข้าวกัน
ไปร้านโอลดี้ส์ ชั้นบนสยามเซ็นเตอร์ แต่งร้านสวยดี
Went to Chulabook with my sister, P'Aom, finding some books I need when studying in UK but outta luck. So we went for lunch at Oldies', Siam Center. Nice decorations.


ที่นี่มีทั้งอาหารฝรั่งและอาหารไทย
นราสั่งพาสต้าซีฟู้ดซอสชีสอบ ราคาเกือบร้อยแหนะ
จริงๆ มีอย่างอื่นด้วย พวกข้าวจานเดียว อาหารลูกผสม
แต่ไม่รู้เป็นไร หมู่นี้อยากกินแต่ชีสๆ หนมปังๆ แป้งๆ
คิดว่าอีกหน่อยคงได้กินจนเบื่อ
พออาหารมา เฮ้ย ไมมันจานเล็กงี้อ่ะ ประมาณหนึ่งฝ่ามือเอง
แพงนะเนี่ย
แต่อร่อย หรือหิวไม่รู้ ประมาณว่ากินแต่ตัวพาสต้ากับซอสมันก็ได้เลย หงัมๆ
They do both Western and Thai here. I ordered Seafood Pasta with Baked Cheese Sauce, and that was almost one hundred Baht. They also serve a-la-carte food and fusion food. I don't know what's wrong with me, but I really feel like eating food like cheese and bread nowadays.
When the dish arrived, I was surprised of how small it was! And compared to the price, this was considered expensive. But at least it tasted really good.


ตอนเย็น มีนัดทานข้าวเลี้ยงส่งกับที่บ้านที่ร้านเอ็มเคโกลด์ เอกมัย
มีครอบครัวนรา พี่สาว แฟนพี่สาว แล้วก็ป้า รวมเก้าคน
สั่งอาหารเหมือนรับรองกองทัพโจโฉ
เป็ดใหญ่สองจาน หมูแดงใหญ่สองจาน ผักใหญ่สองจาน
เห็ดใหญ่หนึ่งจาน บะหมี่หยกสี่จาน
เอริ่กกกกก
There was a farewell dinner for me at MK Gold, Ekamai. All my family, my sisters, my sister's boyfriend, and my aunt were there, so there were nine of us. We ordered food like we had never seen it before: two large dish of roasted ducks, two large dish of sweet pork, two large trays of vegetable, one large mushroom set, four dish of noodles, etc.


จะขุนกันไปถึงหน้ายยย
พุงย้วยออกมาตั้งแต่ยังไม่ไปแล้วอ่ะ
I've collected enough fat before going to face cold weather in UK already.



ครอบครัวของหนู

My Dear Family


นี่ถ่ายกับพี่สาวสองคน พี่ออม ว่าที่ทันตแพทย์ กับพี่ใหม่และพี่เอ็มแฟนหนุ่ม

ขอบคุณนะค้าสำหรับของขวัญน่ารักๆ คำแนะนำ และคำอวยพร

This photo was taken with my sisters: P'Aom, a soon-to-be Dentist, and P'Mai and her boyfriend. Thank you so much for your cute presents and every suggestions.



กินเสร็จ กำลังจะกลับบ้าน น้องชายก็ลากกีตาร์ออกมา
บอกว่ามีเพลงจะเล่นให้ เป็นเพลงที่แต่งเอง (ว้าว)
นราขอลาไปพร้อมด้วยเพลงที่น้องชายแต่งให้นะคะ

เพลง: อูฐเผชิญลมหนาว
ศิลปิน: เอิร์ธนะคับ
ค่าย: เร่ร่อน555+
ต่อจากนี้บ้านเราคงเหงา ไม่มีเสียงพูดของอูฐอีกต่อไป (ซักพักนะ)
เหลือไว้แต่ห้องรกๆ และความทรงจำดีๆ ที่เคยมีให้กันตลอดมา (จิงป่าว)
แต่ไม่เป็นไร ฉันรู้สักวันเธอต้องกลับมา ยอร์กคงไม่ดีไปกว่าบ้านและครอบครัว
ต้องดูแลตัวเองดีๆ อย่าให้มีใครมารบกวน ฉันรู้ว่าเธอต้องทำได้แน่นอน
เวลาท้อ เวลาหนาว อยากให้เธอคิดถึงฉัน ฉันจะคอยเป็นกำลังใจให้เธอ
จะวันนี้ จะวันไหน ฉันยังคงคิดถึงเธอ ถึงตัวห่าง แต่ใจเรายังใกล้กัน
หนึ่งปี พี่จากไป มันคงต้องเนิ่นนาน เหมือนเวลาที่เดินไปอย่างช้าๆ
อยู่ที่ยอร์ก ต้องเข้มแข็ง ต้องคอยปลอบใจตัวเอง อูฐคงหนาวแย่ ไม่เคยเจออากาศเย็นๆ
ไม่เป็นไร อูฐปรับตัวอยู่ที่ยอร์กได้สบาย
และถึงตัวห่าง ใจเรายังคงใกล้กัน...
ใครก็ได้หยุดเวลาเอาไว้เท่านี้ที
Somebody, please stop the clock, please...

4 ความคิดเห็น:

  1. นรา อยากฟังเพลงอูฐค่ะ
    ปีเดียวแป๊ปๆชิวๆอย่าคิดมากค่ะ กลับมาอะไรๆก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงหรอก
    (ยกเว้นตอนแนนกลับมา เจอเหรียญสองบาทสีทองเข้าไป ถึงกะอึ้ง
    แมร่งเหรียญห้าสิบตังค์มันใหญ่ขนาดนี้เลยหรอ ฮ่าๆๆ)
    คิดถึงนะคะ รักษาสุขภาพกายและสุขภาพจิต อย่าเรียนเครียดหนักจนบ้าไปซะก่อน สู้ๆ

    ตอบลบ
  2. มุกกุแห่งอณาจักรอู้วฮัชช่าๆ5 ตุลาคม 2552 เวลา 12:45

    ขำเม้นท์หนูแนน เรื่องเหรียญสองบาท ฮ่าๆๆๆ

    นราคะ อยากหยุดเวลาไว้ด้วยคะ แต่โดนแม่ไล่ไปตากผ้าแล้วหละ เดี๋ยวจะมานั่งแต่งกลอนให้นะคะ รอหน่อย บิ้วๆ

    ตอบลบ
  3. นราคะ
    ปีนึงมันแป๊บเดียวอย่างที่แนนบอกจริงๆนะ
    เดือนแรกอาจจะลำบาก ทุลักทุเล เหงา
    เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเจอ
    สู้ๆนะ ขอให้เดินทางปลอดภัย
    เราเอาใจช่วยจ้าา

    ป.ล. คุณน้องชายแต่งเพลงได้น่ารักมากๆ

    ตอบลบ
  4. มุกกุแห่งอณาจักรอู้วฮัชช่าๆ5 ตุลาคม 2552 เวลา 16:48

    มาแล้วหละนรา มาพร้อมกลอนแปด 17บท นั่งแต่งตอนเฝ้าร้าน ฮ่าๆๆ ฝนตกทำอารมณ์พริ้วไหวดีนักแล มุกกุร่ายมันไว้ที่บล็อกตัวเอง พร้อมความรู้สึกจากใจอีกเล็กๆน้อยๆ ถ้ามีเวลาก็เข้าไปอ่านนะคะ

    บิ้วๆ

    ตอบลบ