วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2552

First Chaotic Day at York

หวัดดีค่ะ มาถึงยอร์กแล้วค่ะ
อยากกลับบ้านแล้วค่ะ
เมื่อวาน เอ๊ะ หรือเมื่อคืนหว่า
ตอนนี้นาฬิกาในตัวยังมึนๆ งงๆ อยู่ เพราะบินย้อนเวลามา
เอาเป็นว่าเมื่อคืนแล้วกัน ครอบครัว ป้า แล้วก็คุณหมู ไปส่งนราที่สนามบิน
รู้สึกว่าตัวเองโง่ๆ ยังไงไม่รู้ ไปไหน ยังไง ทำอะไรไม่รู้เรื่องเลย
โตป่านนี้แล้วยังต้องให้แม่ให้ป๋าไปถามให้อีก น่าอายจริงๆ
แต่เมื่อคิดว่าอีกหน่อยจะต้องเผชิญผลกรรมของการเป็นลูกแหง่เมื่อไปถึงอังกฤษ
ก็ขออ้อนปะป๊าหมะม้าไปก่อนแล้วกันน้า
...........................
ไม่อยากบอกเล้ย ว่าเพิ่งเก็บกระเป๋าวันนั้นนั่นแหละ ฮ่า ฮ่า
เก็บเช้า เดินทางเย็น แถมแม่เป็นคนเก็บให้นราอีกตังหาก เพราะทนสมเพชผ้าพับยุ่ยๆไม่ไหว
แม่เย็บโบติดกระเป๋าเดินทางให้อีกตังหาก ขอบคุณนะแม่จ๋า คิดถึงแม่จัง
แงงง อยากกลับบ้านนน หนาวอ้าาาา บ้านนี้เมืองนี้ทำไมพระอาทิตย์ไม่ร้อนฟะ
แน่นอน พอถึงเวลาเข้าเกท ก็ร้องห่มร้องไห้กระจองอแง...นราคนเดียวอ่ะนะ
กอดป้า กอดป๋า แม่ น้องๆ และคุณหมูเติ้ลคนละทีสองที แน่นๆ ยิ่งกอดแน่นก็ยิ่งเศร้า
อยู่คนเดียว ไม่สบาย ไม่มีความสุข ก็ไม่มีอ้อมกอดแบบนี้คอยปลอบใจ
จำได้ว่านั่งรอเรียกขึ้นเครื่องนานแสนนาน เพราะเครื่องดีเลย์ครึ่ง ชม.
แต่โชคดีว่าพอขึ้นไปแล้ว ที่นั่งข้างเราสองตัว ไม่มีคนนั่ง ฮ่า ดีจัง
ยืดแข้งยืดขาได้สบายเลย มีทีวีให้ดูด้วย ขอสรุปบุลเลตินการเดินทางไว้ดังนี้:
ตีหนึ่งตามเวลาประเทศไทย เครื่องออกซะที
ตีหนึ่งครึ่งตามเวลาประเทศไทย ดูไอซ์เอจสามจบไปหนึ่งเรื่อง แล้วพนักงานก็เสิร์ฟอาหารมื้อไรไม่รู้ เป็นพาสต้า สลัด ขนมปัง วุ้นผลไม้ ซึ่งรสชาติเฮงซวยมากมาย ช่วงนี้ลมแรง ฝนตก เครื่องบินสั่นกึงๆ ให้ฟีลเหมือนนั่ง บขส. ดี
ตีหนึ่งครึ่งตามเวลาประเทศอังกฤษ หลังจากกินทิฟฟี่แล้วสลบไม่รู้เรื่อง ตื่นมาตอนเครื่องบินผ่านแคว้นพาราณสีในอินเดียพอดี อากาศเริ่มหนาวจนทนไม่ไหว
ตึสองครึ่งตามเวลาประเทศอังกฤษ บินผ่านทะเลแคสเปียน อุณหภูมิข้างนอกติดลบสี่สิบห้าองศา เริ่มรู้สึกเหมือนปวดขี้ โอ้โน่ว
ตีสามครึ่งตามเวลาประเทศอังกฤษ ผ่านทะเลดำ กำลังจะเข้าโปแลนด์ อุณหภูมิข้างนอกติดลบหกสิบองศา ยังปวดอึตุ่ยๆ แต่ไม่อยากเข้า เพราะถูกขู่มาว่าส้วมเครื่องบินนั้นสามารถดูดตูดของท่านได้หากไม่ระวัง
ตีห้าครึ่งตามเวลาประเทศอังกฤษ ไม่ไหวแล้วเว้ย ต้องขี้แล้ว เห็นกะตาถึงพลังอำนาจของสิ่งที่เรียกว่าส้วมบนเครื่องบิน
หกโมงตามเวลาประเทศอังกฤษ ยังจะเสิร์ฟอีกเหรอเนี่ย จะถึงแล้ว แต่อร่อยค่ะอันนี้ ออมเล็ทท์กับเห็ดอบเนยและมะเขือเทศย่าง ครัวซองเนยแยม แล้วก็ผลไม้ชิ้นๆ กับน้ำส้ม
เจ็ดโมงสิบ ลงจากเครื่องด้วยกระดูกสันหลังที่ป่นเป็นชิ้นๆ
พอถึงแมนเชสเตอร์ นราพลิกตัวไปแล้วเจ็ดหมื่นกว่าท่า โคตรเมื่อยเลย
สิบสองชั่วโมงอ่ะ เบื่อมากๆ หนาวจนร้องไห้ไม่ออกคิดดู
นั่งๆ อยู่ต้องคอยคลำเท้า เพราะรู้สึกเหมือนมันหายไปแล้ว
แถมต้องวิ่งหน้าตั้งไปให้ทันเช็กอินอีก โทษเครื่องดีเลย์แหละ
มีปัญหาขลุกขลักที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองนิดหน่อยค่ะ
เรื่องฟิล์มเอ็กซเรย์ปอด เขาอยากยืนยันให้แน่ใจว่าเราไม่ได้เป็นวัณโรค
พอขึ้นเครื่อง ที่นั่งสองที่ข้างเราว่างอีกแล้วอ่ะ แปลก
สนามบินแมนฯ นราว่าคล้ายๆ ดอนเมืองเก่าเรานะ
บ้านเมืองก็ดูน่ารักเหมือนเมืองตุ๊กตา
แต่ภูมิประเทศเขาแปลกๆ มันเว้าๆ โบ๋ๆ แตกๆ ยังไงชอบกล
มีอยู่จุดนึงเหมือนแกรนด์แคนยอนเลย เป็นคล้ายๆ เหวลึกๆ แตกๆ ลงไป
ถึงแมนเชสเตอร์ปั๊บ นราต้องรีบไปขึ้นรถบัสของม.ที่มารับก่อนสิบโมงครึ่ง
ซึ่ง ณ ตอนนั้นมันก็สิบโมงแล้ว เครียดมาก กระเป๋าเดินทางก็หนักฉิบหาย
มันบอกว่าจะรอตรงระหว่างทางเชื่อมเทอร์มินัลหนึ่งและสอง นราก็ลากไป แครกๆๆๆ
ไหนอ่ะไม่เห็นมีเลย หนาวก็หนาว เดินไปมาจนคนแถวนั้นมอง จะครึ่งแล้วด้วย
นราจนปัญญา หาไม่เจอจริงๆ ก็พอดีเจอผู้หญิงคนนึงเดินตรงมา
ดวงซวยตกเป็นเหยื่อนราทันที ตรงเข้าไปถาม
โอ้สวรรค์ช่างส่งเธอผู้นี้มาโปรดดดดด เขาพาเดินไปจนถึงที่ ทั้งที่ตัวเองก็กำลังจะไปธุระ ปรากฏไอ้จุดที่ว่านั่นมันไกลชาติเศษ ต้องเดินข้ามสะพานลอยไปด้วย แบบว่าถ้าไม่ถามทางไม่รู้แน่ๆ ไปถึงเขาก็อวยพรให้อีก ฮือออ รอดแล้วกรู
รู้จักเพื่อนใหม่คนนึง ชื่อเทา เป็นสาวเวียดนามที่ไปโตที่นอร์เวย์
อยู่แวนเบรอห์คอลเลจเหมือนกัน แต่คนละตึก
แต่ชื่อเรื่องก็บอกแล้ว ว่ามันยุ่งเหยิงวุ่นวาย คนที่มารับก็บริหารไม่ค่อยดี
พอลงรถ นรากับเทาต้องเดินทางกระเป๋าขึ้นเขาลงห้วยตามหาหอตัวเอง
พื้นก็ราดคอนกรีตหมดซะเมื่อไหร่ เป็นหินมั่ง ลูกรังกรวดๆมั่ง
ตอนนี้มือข้างในที่กำหูลากกระเป๋าถลอก ช้ำหมดเลย ได้แผลฉีกมาแผลนึงอีกด้วยตอนกระเป๋าพลิก

เจอแล้ว เป็ด! ฉันมาเพื่อแกเลยนะเนี่ย ฮ่า
เป็ดสีดำนี่น่ากลัว ดูตีนมันดิ เป็นริ้วๆ แหยงๆ แถมไม่กลัวคนด้วย
นรานั่งยองๆ จะถ่ายรูป มันเยื้องย่างมาหาทันที นราต้องถอยเอง กลัว
นี่ๆ แถวนั้นมีต้นเชสท์นัทด้วย มันคือเกาลัดนั่นแหละ เม็ดหญ่ายยยมั่ก
เอาไว้รอครัวไม่มีคนจะไปโกยมาอบในเตา ประหยัดค่าข้าว อิ๊อิ๊

นี่คือหอที่นราอยู่ค่ะ
เห็นลูกศรแดงๆ ป่ะ นั่นแหละห้องนรา เป็นเจ้าหญิงอยู่บนหอคอย



เป็นห้องเล็กๆ ไม่มีอะไรมากค่ะ
แต่ที่เง็งคือ ทำไมมีแต่เตียงเปล่าๆ ละ ก็สั่งซื้อชุดคลุมเตียงไปแล้วนิ
บ่ายๆ เลยต้องเดินตากลมหนาวไปขอเขาอีกรอบ
ระหว่างรอ ก็แวะเข้าไปเดินดูในร้านซูเปอร์มาเก็ทของมหาลัย ชื่อร้านคอสท์คัตเตอร์
น้ำขวดลิตรที่นี่ ขวดละปอนด์ยี่สิบห้าค่ะ เหอะเหอะ
แต่ๆๆๆๆ อันนี้เท่านั้นที่ต้องซื้อแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง
English Strawberries กล่องละปอนด์นิดๆ ค่ะ



ดูใกล้ๆ ยิ่งสวยใหญ่เลย
ลูกมันกลมๆ เล็กนิดเดียวเอง เงาวับเหมือนเม็ดพลอย
หวานด้วยล่ะ หงัม หงัม
คิดถึงน้องๆ คิดถึงป๋าแม่ คิดถึงตาหมู อยากให้กินของดีๆแบบนี้ด้วยกัน



นี่ห้องนราค่ะ ตอนที่ยังสะอาดอยู่
อีกสักสามสัปดาห์คงไม่ใช่แบบนี้


วันนี้ก็ยังสูดขี้มูกฟืดฟาดอยู่
แต่ยัดทิฟฟี่ไปตั้งแต่เริ่มมีอาการ เลยไม่หนักเท่าไหร่
โอ๊ย ลืมเล่า ตอนนอนบนเครื่องขามาอ่ะ
หนาวจนโพรงจมูกแห้งจนแสบ หายเข้าใจทีนี่แสนทรมาน
เรื่องจริงไม่ฮานะเนี่ย ต้องอ้าปาก แต่ก็ยังแสบ
นึกว่าจะตายแล้วสิเรา
คิดถึงทุกคนเลยนะ ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ
นี่ๆ คุณแม่ขา เดี๋ยวสอนวิธีแสดงความคิดเห็นในบล็อกให้นะ
ก่อนอื่นแม่ก็พิมพ์ๆใช่เปล่าว่าจะเขียนว่าไร ทีนี้พอจะกดส่งความคิดเห็น ให้เลือกตรงโปรไฟล์อ่ะ ที่ปกติมันจะเป็นบัญชี google อะไรน่ะ ให้เปลี่ยนเป็นอันที่เขียนว่า ชื่อ/url แล้วจะส่งได้นะ ไม่ได้ก็กดซ้ำๆเอา
ไปนอนหละ ไม่หวายแย้ว ปวดเข่า
ใครก็ได้ส่งยาหม่องมาให้หน่อยยยย

4 ความคิดเห็น:

  1. อุ๊ย ไปถึงแล้วหรอนี่ เร็วจัง
    ถึงโดยสวัสดิภาพก็ดีแล้วเนาะ
    นราเริ่มเรียนเมื่อไหร่คะ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ8 ตุลาคม 2552 เวลา 17:33

    หมูเราไปซื้อกล้องกับไมค์มาแล้วนา เอาไว้เจอกันจะให้ดูหน้าตาอันหล่อเหลาก็แล้วกัน ว่าแต่อาหารเหลืองๆบนเครื่อง มันเหมือนอึเลยอ่า
    มาเม้นให้ไปแล้วนา เอาไว้เจอกันขยันอัพนา

    ตอบลบ
  3. มุกกุแห่งอณาจักรอู้วฮัชช่าๆ8 ตุลาคม 2552 เวลา 18:18

    โอ้ว เป็นบุญตาที่ได้เห็นเป็ดเมืองผู้ดี ฮ่าๆๆๆ มุกว่ามันคงชินคนแล้วหละ ดูๆไปน่ารักดีนะ

    เมืองสวยมากอะนรา แบบบ้านตุ๊กตาเลยเหรอ กรี๊ดดดด อยากตัดชุดโลลิต้า แล้วตามนราไปด้วยจัง ฮ่าๆๆๆ

    สตรอเบอร์รี่ถูกมากคะ กินเผื่อมุก เผื่อทุกคนเยอะๆนะคะ วิตามินซีสูง รับรองกว่าจะกลับมานี่ นราๆผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลแน่คะ แถมฟันก็ยังขาวอีกด้วยนะคะ สตรอเบอร์รี่ช่วยท่านได้คะ โอ้วววว อยากกิน

    อ่านบรรยากาศบนเครื่องบินแล้วหนาวแทนนรามากคะ อูยยย ติดลบทีสี่สิบ หกสิบองศาอย่างนี้ ขนาดมุกที่สะสมไขมันไว้ทั่วตัวดีๆอย่างนี้ เห็นทีก็คงสู้ไม่ไหวคะ ขนาดตอนไปญี่ปุ่นเจอติดลบสิบห้าองศาก็จะแข็งตายอยู่แล้ว นับว่านราอึดมากคะ

    ส่วนไอ้อาการหนาวซะจนแสบโพรงจมูกนี่ มุกเข้าใจเลย เพราะมุกก็เป็น แถมยังมีกำเดาด้วยนะ แต่มันไม่ไหลแหละ เพราะมันแข็งในโพรงจมูกเรียบร้อยแล้ว

    มาละลายอีกทีตอนกลับถึงไทย ฮ่าๆๆๆ เล่นเอาแย่เลย เพราะตลอดเกือบสองเดือนนี่ กำเดาไหลคะ มาหนักเอาสัปดาห์แรก แบบว่าไหลเกือบตลอด หยุดยากมาก เลยต้องไปหาหมอเลย

    เห็นนราเป็นแบบนี้ ชักเป็นห่วง ดูท่าจะแพ้อากาศหนาวค่อนข้างแรง ยังไงก็รักษาข้างในให้อุ่นๆเข้าไว้นะคะ แล้วยิ่งเจ็บโพรงจมูกด้วย ขอแนะว่าถ้าสะดวกให้หายใจผ่านผ้าอุ่นๆดีกว่า หายใจรับอากาศเย็นตรงๆนะคะ ค่อยๆปรับไป เดี๋ยวร่างกายมันจะค่ิยๆชินไปเอง
    ..................

    หอพักนราน่ารักมาก เกาลัดก็น่ากิน ห้องนอนน่ารักดีคะ ชอบผ้าม่านสีส้มอะ นราอยู่ห้องเดี่ยวอะเป่า
    ไว้ได้ไปเชียร์บอลเมื่อไหร่ จะแวะไปหา ฮ่าๆๆๆ (รอส่งชิงโชคเอา เิอิ้กๆๆๆ)

    ไปละคะ แล้วจะเข้ามาหาบ่อยๆนะคะ บิ้ว

    ตอบลบ
  4. ดีใจจังที่นราถึงเมืองผู้ดีอังกฤษอย่างปลอดภัย เป็นห่วงแทบแย่เลย กลัวว่าจะหลง แต่นราเก่งซะอย่างนิ เมืองเค้าสวย ๆ น่าอยู่จัง สตอเบอรี่ก็สวยด้วย น่ากินด้วย น่าจะหวานอร่อยกว่าของบ้านเรา เกาลัดลูกก็หย่าย กลับมานราอ้วนพุงพุ้ยแน่ ๆ นราอึดจริงๆ อ่ะที่ฝ่า "ดงพญาเย็น" มาได้ หนาวซะขนาดนั้น แล้วรู้ได้ไงว่า ข้างนอกอากาศติดลบเป็นสิบ สิบ องศา เลย บนเครื่องเค้าประกาศเหรอ เข้า Blog มาเล่าเรื่องหนุก หนุก ให้ฟังอีกน๊า

    ตอบลบ