วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2552

My Life Is *cough* on the Edge *cough*

สุขภาพเข้าขั้นวิกฤติ
จำได้ว่า เริ่มเจ็บคอหนึบๆหลังจากไปงานเลี้ยงที่หอเพื่อนเมื่อวันคริสต์มาสอีฟ เลยขอตัวกลับมาก่อนประมาณสี่ทุ่ม แล้ววันต่อมาก็เป็นไข้ ครั่นเนื้อตัว ไม่มีแรง คอบวม และไอ เป็นมาจนถึงวันนี้ โดยอาการไข้ลดลงแล้ว แต่ไอหนักขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนคนตุรกีให้ยาชงดื่มรสน้ำผึ้งมาก็พอทุเลาลงบ้าง กินของเขาจนหมดกล่อง วันนี้เลยต้องเข้าเมืองไปร้านบู๊ทส์เพื่อซื้อยา ยาก็แพงชิบหายวายวอด ยาแบบเม็ดยี่ห้อบีแชมส์ โฆษณาว่ารักษาอาการได้สารพัดรวบยอด กล่องละเกือบห้าปอนด์ ส่วนแบบชงรสน้ำผึ้งผสมมะนาวกล่องละสองปอนด์ ซื้อเสร็จหมดตัวเลย
.
ตอนนี้อากาศอุ่นขึ้นบ้างแล้ว หิมะกำลังละลาย แล้วก็ลื่นโคตรๆ ลื่นเป็นสามเท่าของปกติ นราลองมาคิดดูว่า เอ๊ ทำไมเราเป็นหวัดหว่า คิดไปคิดมาก็ได้สมมติฐานสองข้อ คือ 1. ถ้าไม่ติดจากเพื่อนคนอเมริกันวันที่เขาจะกลับบ้าน ก็ 2. ร่างกายบอบบางรับอากาศหนาวๆไม่ไหว ซึ่งคิดดูแล้วน่าจะเป็นข้อสอง เพราะช่วงหลังๆนี่มีเรื่องให้ออกไปตากอากาศหนาวบ่อยเหมือนกัน เดินในหิมะก็หลายครั้งอยู่ ในห้องนราอากาศก็อุ่นดีไม่น่ามีปัญหาเพราะเปิดฮีตเตอร์สองตัว
.
ไม่รู้มันเป็นหวัดหรือมันเป็นอะไร เพราะไม่มีขี้มูกไหลหรือคัดจมูกเลย หลักๆของโรคที่เป็นอยู่คือเจ็บคอ คอข้างในบวมมากๆ เมื่อวานเช้าตื่นมาลองเอานิ้วแหย่คอ นิ้วโดนคอหนีบอ่ะ คือเยื่อบุในคอมันบวมหนาออกมาจนข้างในมันตีบไปเลย แล้วกลางคืนจะนอนไม่ค่อยหลับด้วย เพราะสำลักน้ำลาย นอนแล้วจะมีเสียง คร่อกๆ เหมือนคนนอนกรน เพราะน้ำลายกับเสมหะไม่ลงคอมันจะไหลขึ้นจมูก จะตายเอา ตื่นทุกครึ่งชั่วโมงเลย นอกจากนี้ก็คือไอ ไอๆๆจนจะบ้าแล้ว ไอจนหูอื้อ จนจะอ้วกน่ะคิดดู แถมนราก็ขากถุยไม่เป็น ขมคอจะตายห่านแล้ว
.
อยาก
กลับ
บ้านนนนนน
แม่จ๋าาา
มะแอ้อ้อ้
.
ป่วยวันคริสต์มาสพอดี ปีนี้ซานต้าใจร้ายจัง
อัพเดทเรื่องรายงานสักหน่อย
ตอนนี้ก็น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรงแถมพันกันไปพันกันมาได้ประมาณ 1,500 คำแล้ว ยังไม่ถึงครึ่งเลย แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเนอะ กะว่าสิ้นปีต้องเสร็จเรื่องนี้ เพราะมีอีกเรื่องรอให้ทำอยู่ ไหนจะต้องเตรียมคลาสสาธิตการสอนภาษาไทยอีกอ่ะ งือ เหนื่อยยย
.
วันนี้ได้กินเยลลี่รสน้ำยาล้างจานสูตรมะนาวเป็นครั้งแรกในชีวิต
ไม่ได้เหมือนแค่สีนะ
กินเข้าไปปั๊บ อื้อหือ ซันไลท์ชัดๆ ทั้งรสทั้งกลิ่น
กินสองชิ้นแล้วเลิกทันที

ขอเมอร์รีคริสต์มาสย้อนหลังทุกๆคนเลยนะ ขอโทษด้วยที่ช้าไปหน่อย
วันคริสต์มาสจริงๆกลิ้งอยู่บนเตียง ทำอะไรไม่ไหวเลย
รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ

วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2552

York's National Railway Museum

ไม่สบาย
เมื่อวานไปส่งเพื่อนกลับอเมริกาที่สถานีรถไฟ ขากลับกับเพื่อนคนเยอรมัน พากันเดินหลงอยู่ในเมือง หนาวจะตายห่าน ไอ้เราก็คิดว่ามันเคยเดินมาแล้วต้องรู้ทางแน่ ปรากฏเขาก็จำไม่ได้เหมือนกัน กลับมาถึงห้องตอนตีห้าครึ่ง เช้านี้ตื่นมาไข้รับประทานเล็กน้อย
อัพเดทเรื่องอากาศ ตอนนี้อุ่นขึ้นแล้ว อยู่ที่ประมาณศูนย์ถึงลบหนึ่งองศา(ฝรั่งเขาว่าอุ่นแล้ว) หิมะเริ่มละลายแล้วก็ลื่นมาก เมื่อวานไปเล่นหิมะมา ปั้นอิกลูสองหลัง อิอิ ตอนเล่นน่ะอุ่นเพราะมันต้องเดินต้องออกแรง แต่พอเล่นเสร็จแล้วดันหนาวจับใจเพราะกางเกงเปียก
..................
เมื่อวันจันทร์ไปพิพิธภัณฑ์รถไฟมาค่ะ อยู่ในเมือง
ไปกันสี่คน มีนรา แดน(ผู้ซึ่งเพิ่งกลับเมกาไป) เทเรซ่าสาวสิงคโปร์ และมอริทซ์คนเยอรมัน พิพิธภัณฑ์ใหญ่เหมือนกัน ไม่เสียค่าเข้าชมด้วย แต่เดินจากมหาลัยไปไกลเหมือนกันนะ
พิพิธภัณฑ์รถไฟ ก๊อต้องมีรถไฟสิ
เขารวมหัวรถจักรแบบต่างๆไว้เยอะเลย ตั้งแต่รถไฟเล็กๆที่เอาไว้ใช้ก่อสร้างทางรถไฟ จนถึงรถไฟไอน้ำคันโตๆที่ใช้ตั้งแต่ปี 1680 ถึงปัจจุบัน หัวรถจักรที่ใหญ่ที่สุดอยู่กลางโถงหลัก (ในรูปที่กลางแถวซ้ายมือน่ะ) ไม่แน่ใจว่าใช่คันที่ชื่อ Flying Scotman หรือเปล่านะ มันเป็นรถไฟที่ทำสถิติวิ่งจากสายเหนือไปลอนดอนแบบนอนสตอปด้วยความเร็วสูงเป็นขบวนแรก มีคนมาอธิบายประวัติให้ฟัง ที่สำคัญ มันหมุนได้ หมุนให้คนดูดูทั่วๆ มีคุณป้าคนคุมคันโยกยืนโบกมือเหมือนนางสาวไทยเลย
มีรถไฟปอกเปลือกให้ดูด้วย
อ่านไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก ศัพท์การช่างการรถไฟล้วนๆ แต่ดูๆก็พอจะเข้าใจนะว่าเอาถ่านใส่ตรงไหน ไอน้ำมาจากไหน พุ่งไปไหน เห็นไส้ในรถไฟขดๆยุบยับๆเต็มไปหมดแล้วไม่น่าเชื่อเลยว่าเป็นผลงานคนสร้าง ละเอียดสุดยอด
ชอบอันนี้จัง
มันเป็นเหมือนรถรางม้าลากค่ะ เอาม้าผูกแล้วลากรถนี่ไปตามราง

อันนี้เกี่ยวอะไรกับรถไฟก็ไม่รู้ จำไม่ได้แล้ว แต่น่าจะเป็นรถที่ออกแบบเลียนแบบระบบของรถไฟนะ
เป็นรถไครสเลอร์ ออกมาตีตลาดด้วยจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร น่าจะเป็นตัวถังแบบพิเศษ เนื้อเหล็กพิเศษ ที่นั่งออกแบบใหม่ เฉี่ยวเชียว แต่ขายไม่ออก ฮ่าาา ทำออกมาได้ไม่ถึงสิบปีก็เลิกผลิต นราส่องเข้าไปดูในรถ เห็นป้ายผูกกะพวงมาลัย "โน เบรก"
รถไฟจิ๋วๆๆ น่ารักมาก ทำละเอียดแถมเหมือนด้วย
เด็กเปรตข้างๆ รถไฟมันไม่วิ่ง แม่งทุบตู้กระจกให้รถไฟวิ่ง ฟาย รถไฟนะไม่ใช่ปลาตู้
จากส่วนห้องโถงหลักหรือ main hall ก็เข้ามาดูส่วนโกดังหรือ warehouse กันค่ะ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นโกดังเก็บของ พวกของต่างๆจากรถไฟในอดีตที่เขาโละแล้ว มีตั้งแต่ป้ายสถานีเก่า เก้าอี้ กระจกสี ถ้วยชาม โถไวน์ ไปจนถึงโถส้วมลายดอกไม้ที่ใช้ในรถไฟ
เห็นรูปโต๊ะอาหารในภาพข้างล่างไหมคะ ฮะรูฮะราเหลือเกิน เขาว่ารถไฟอังกฤษได้สร้างชื่อเสียงอันดีเรื่องบริการอาหารบนรถไฟ เพื่อเป็นการบริการผู้โดยสารในยุคนั้นให้เต็มที่ จึงมีการแถมกรรไกรตัดองุ่นจากพวงแล้วก็คีมหนีบถั่วให้ด้วย โอ้ ไฮโซสุดๆ แค่ชามแค่จานบนโต๊ะนั่นก็มากกว่าที่นรามีใช้ที่อังกฤษนี่ตั้งเยอะละ
มีเครื่องพ่นกลิ่นให้เราได้รำลึกความหลังด้วย มีกลิ่นในครัว กลิ่นห้องแต่งตัวสุภาพสตรี ห้องเก็บสินค้า แต่ไปโยกแล้วไม่เห็นได้กลิ่นอะไรเลย
เดินกันนานเหมือนกัน ประมาณสองชั่วโมง นราไม่ค่อยรู้เรื่องเครื่องจักรหรือรถไฟก็เลยจำรายละเอียดอะไรไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แต่รู้ว่าคิดถึงป๋ามาก ป๋าน่าจะมาดู ต้องชอบแน่ๆเลย สงสัยจะเดินทั้งวันไม่ยอมออกไปที่อื่นชัวร์
.....................
การบ้าน ก็ยังไม่ถึงไหนเหมือนเดิม
แต่เมื่อวานไปหาหนังสือเพิ่มที่หอสมุดมาแล้ว นราจะพยายามค่ะ แม้มันจะเหนื่อยและน่าเบื่อก็ตาม เทอมหน้าจะงานหนักมากๆ เฮ้อ คิดแล้วเหนื่อยล่วงหน้าเลยเรา
ใกล้คริสต์มาสแล้ว มหาลัยโคตรเงียบ คนกลับบ้านกันหมด
โอ๊ย เหงาโว้ย

วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2552

First Snow

หิมะตกแล้วจ้า แต๊แน ตื่นเต้นดีใจสุดๆ
มันเริ่มตกเมื่อวานตอนบ่ายแก่ๆหน่อย เป็นเกล็ดบางๆเหมือนขนตูดเป็ด พอปลิวมาโดนกระจกก็ละลาย ตกมาแป๊บเดียวพื้นก็เป็นขาวๆคลุมบางๆแล้ว ก็นึกว่าจะมีแค่นี้ ปรากฏว่าพอตื่นมาตอนเช้า มหาลัยก็กลายเป็นมหาลัยเคลือบน้ำตาลไอซิ่งไปแย้ว
มิน่าล่ะ เมื่อคืนตอนตีสามได้ยินเสียงอีฝรั่งมันกรี๊ดกร๊าดกัน คาดว่าเพิ่งกลับมาจากปาร์ตี้ขี้เมาแล้วมาเล่นหิมะกัน ฟาย คนจะหลับจะนอน กรูเพิ่งเคยเห็นหิมะเป็นครั้งแรกยังไม่บ้านนอกขนาดนี้เลย
วันนี้นัดกับเนมไปเอาท์เล็ทอีกเป็นรอบที่สาม ไปซื้อรองเท้าให้ใครบางคนที่เรื่องมากแถมปากห้อย อ่อ น้องชายเรานี่เอง หิมะหนาประมาณคืบนึงได้ ไม่น่าเชื่อเลยเพิ่งตกคืนเดียวเท่านั้นเองหนาปานนี้แล้ว
หนาวนะ แต่สวยจังเลย มันขาวโพลนดูเนียนๆไปหมด
เห็นแล้วหมั่นเขี้ยวอยากกระโดดลงไปกลิ้งเกลือกจริงๆ
รถเคลือบน้ำตาลค่ะ
วันนี้เลยได้ฤกษ์ประเดิมใส่เสื้อขนเป็ดเป็นวันแรก อุ่นใช้ได้ ไม่หนาวจนปากเขียวแล้ว แต่ไม่ใส่ถุงมือไม่ได้อุณหภูมิลบหนึ่งแล้ว ถอดถุงมือมาหยิบกระเป๋าตังค์แป๊บเดียวยังแข็งขยับไม่ได้เลย
หนาวจนปวดกกหู เข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงบอกว่าอย่าเปิดหูตอนมันหนาวมากๆ เพราะมันจะเป็นแบบนี้นี่เอง รู้สึกเหมือนไม่มีหูเพราะจับแล้วไม่รู้สึก
นี่ทุ่งวัว จำกันได้ไหมคะ ที่เคยมีวัวเยอะๆ
วันนี้กลายเป็นทุ่งน้ำแข็งทุนดราไปแล้ว เออใช่ๆ กลายเป็นสนามหมาเล่นด้วย
มีคนจูงมามาเล่นหิมะ เขาบอกหมาเวลาเห็นหิมะแล้วมันจะคึก กระเด้งหน้ากระเด้งหลัง นราเดินๆอยู่มีหมาขนหยอยวิ่งมาหาแล้วกระโดดใส่ หน้ามันงี้เลอะหิมะไปหมด ทำหิมะเลอะกางเกงเราเลย
ตอนบ่ายสามมีนัดพบอาจารย์ที่ปรึกษา ซื้อเสร็จก็รีบกลับมา
เห็นซากสโนว์แมนปั้นเหลือๆทิ้งไว้ตรึมเลย มีคนออกมาเล่นหิมะด้วย เดี๋ยววันหลังเอาบ้างดีฝ่า ไปปั้นตุ๊กตาหิมะเล่นคนเดียว ซิกๆ
กลับเข้าห้องมา เท้าเย็นเจี๊ยบ ขนาดใส่บู๊ทนะเนี่ยยังไม่ค่อยจะไหวเลย
สงสัยจังว่าเป็ดมันไปไหนกัน วันนี้ไม่เห็นเป็ดเดินสักตัวเลย
เป็ดมันจำศีลหรือเปล่าคะ
เออ ใบต่องต๊อง นราอยากจะบอกว่า
เข้าใจแล้วที่ใบตองบอกว่า ระวังลื่น
มันลื่นจริงๆ ลื่นโคตร
หิมะมันหนา แล้วคนก็เดินย่ำกันอัดหิมะกลายเป็นน้ำแข็งเคลือบพื้น นราหวิดหัวจะฟาดพื้นตั้งหลายครั้ง ไถลแพร่ดตั้งหลายที มีคนเดินตามหลังมาด้วย โคตรอายเลย เอาเป็นว่าในสภาวการณ์เช่นนี้ ส้นสูงเป็นของต้องห้ามอย่างเด็ดขาดถ้าไม่อยากตาย
ศุกร์นี้เป็นวันสุดท้ายของภาคเรียนที่หนึ่งแล้วล่ะ
เร็วเหมือนกันเนอะ แป๊บเดียวก็หมดไปแล้วหนึ่งเทอม
เห็นใครๆเขาก็ขนของกลับบ้านกันหมดเลย อยากกลับด้วย หรือจะให้ดี อยากให้ครอบครัวกับตาหมูมาเห็นหิมะสวยๆด้วยตาตัวเองมากกว่า มาเจอกัน เล่นหิมะกัน คงแฮปปี้น่าดู
โอ๊ะๆ นราเริ่มเขียนงานแล้วนา ไม่ได้เล่นแต่ดอทเออย่างเดียวนะจะบอกให้ ค่อยๆกระดืบไปทีละหน่อย เดี๋ยวก็ดีเองเนอะ
ช่วงนี้คนไทยคนอื่นๆเขาก็วางแผนจะไปเที่ยวโน่นนี่กัน ส่วนใหญ่ก็สก็อตแลนด์กับลอนดอน ไปกันนานหลายสัปดาห์เลย ไอ่เราก็ไม่ค่อยมีเงิน สุดท้ายเลยโต๋เต๋ตัวคนเดียวไม่ได้ไปไหนกะใคร
แต่ฮึ นราซะอย่าง ง้อซะที่ไหน สรุปว่าเดือนมกรานี้นราจะลุยเดี่ยวลอนดอนค่ะ ไปคนเดียวไม่เกี่ยวกะใคร (ทำซ่าไปงั้น จริงๆไม่รู้เรื่องอะไรเลย ตายดาบหน้าสุดๆ)
จะจองตั๋วรถไฟตอนนี้มันสายไปเสียแล้ว แพงมหาศาล เลยตัดสินใจจะไปรถบัสแทน สี่ชั่วโมงถึงลอนดอน ถูกกว่าถึงห้าเท่าค่ะท่านผู้ชม
ไปก็คงไปพักกะปู๊น เพื่อนจากม.กรุงเทพ กะว่าจะไปเที่ยวลอนดอนทาวเวอร์ สวนสัตว์ลอนดอน โคเวนท์การ์เดน บริติชมิวเซียม แล้วก็สวนคิว เป็นสวนพฤกษศาสตร์ใหญ่ๆ
มีคนถามว่า ไม่ไปดูลอนดอนอาย ลอนดอนบริดจ์เหรอ
ไม่รู้สิ นราว่ามันไม่ดึงดูดอ่ะ มันเป็นเหมือนกับวิชาบังคับการท่องเที่ยวว่าถ้ามาลอนดอนต้องมาตรงนี้ ไม่เห็นมันจะมีอะไรเท่าไหร่เลย มีลอนดอนทาวเวอร์อะประวัติศาสตร์น่าสนใจหน่อย ทริปนี้เป็นการเที่ยวแบบตามใจฉันสุดๆค่ะ
..............
ตาหมู
ถ้าจะเกรียนก็ติดจากหมูน่ะแหละ ตอนนี้เค้าเริ่มทำงานแล้วนาจะบอกให้
มุกกุ
ตอนนี้ต้องฝืนใจตัวเองสุดชีวิตค่ะ ไม่งั้นไม่ทันแน่ หยุดสามอาทิตย์ แต่ต้องเขียนรายงานห้าพันคำสองเรื่อง แถมต้องอ่านหนังสือสะสมข้อมูลอ้างอิงอีก เอิ่ก ลมจะใส่
ใบตอง
บอกแฟนให้สอนเล่นเลย ทำเสียงอ้อนๆด้วยนะ
เขาอาจจะรู้สึกดีใจที่แฟนอยากเป็นส่วนหนึ่งของโลกของเขาค่ะ
ปล. ตอนผู้ชายเล่นดอทเออ่ะ แง้วไปเหอะเขาไม่สนใจหรอก มันเป็นเกมที่ต้องใช้สมาธิสูงค่ะ ลองเล่นดูได้ ระวังเกรียนด้วยนะ

วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2552

My Life for...DotA

ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ลันลันลา ชีวิตนี้ช่างสุขสันต์
การบ้านจะท่วมมิดหัวก็ช่างมัน
มีแค่ฉันกับดอทเอก็เพียงพอ
หลังจากรอคอยมานานกว่าสองสัปดาห์
แผ่รังสีอำมหิตไปยังที่ทำการไปรษณีย์อย่างหนักหน่วง
สุดท้าย พัสดุบรรจุหนังสือเรียน (ไม่สำคัญ) กับแผ่นวอร์คราฟท์ (สำคัญมาก) ก็เดินทางมาถึงอังกฤษโดยสวัสดิภาพแล้วค่ะ ตอนเดินไปรับกลับมานี่แทบจะกระโดดสวอนเลกดิ่วดิวดิ้วมาเลย
ต้องขอบคุณตาหมูมากๆนะจ๊ะ ถูกใจยิ่งนัก
ได้มาสองวัน รวมสถิติการเล่นแล้วประมาณยี่สิบชั่วโมงเห็นจะได้
เล่นจนเมาส์แฉะ ตาฉ่ำ
เล่นจนเริมจะขึ้นปากเอา เพราะนอนน้อยเกินไป
เอาน่า เดี๋ยวหายเห่อแล้วก็จะเล่นให้พอดีๆแหละ(มั้ง)
แม่มาอ่านเจอไม่ต้องเป็นห่วงนะ เค้าแบ่งเวลาด๊ายยย
.............
บางคนไม่เข้าใจ ว่ามันดีอะไรนักหนาไอ้ดอทเอเนี่ย
นราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่รู้สึกว่าเวลาได้ยินเสียงโป๊งเป๊งๆ เอื๊อก อ๊าก วิ้งๆ เวลามันสู้กันในเกมแล้วจะมีความสุขมาก
เหมือนชีวิตถูกเติมเต็ม ว่าเข้าไปนั่น เหะเหะ
รู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ตรงเสียงพูดของตัวละครแต่ละตัว สกิลต่างๆ ไอเท็มโน่นนี่ เล่นไม่เก่ง ตายบ่อยๆ แต่ก็ยังชอบเล่น ไม่รู้เป็นห่านอะไร
ช่วงนี้ก็จะโทรม แต่มีความสุขมาก ได้ระบายความอัดอั้นตลอดสองเดือนอย่างต่อเนื่อง
ใครมีแฟนเล่นดอทเอนะ ไปลองเล่นให้เป็น จะสานสัมพันธ์ระหว่างกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ จริงจริ๊ง
.....................
วันนี้มีนัดกับเทา คีซ็อก แล้วก็แดน
สามคนนี้จะกลับบ้านช่วงคริสต์มาสนี้แล้ว เพราะมาแลกเปลี่ยนแค่เทอมเดียว
ฮือๆ ทิ้งกรูไปกันหมดเลย
ถึงจะไม่ค่อยได้เจอกันพักหลังๆ แต่ด้วยความที่กลุ่มนี้เป็นเพื่อนคนแรกๆ โดยเฉพาะเทา เจอกันตั้งแต่ที่สนามบิน ก็เลยรู้สึกว่าน่าจะอำลาสักหน่อย นัดเจอกันตอนห้าโมงครึ่งที่หอสามคนนี้ คุยกันไปคุยกันมาก็ไปหาอะไรกินกันที่โรงอาหาร สปาเก็ตตี้รสชาติหมาเมินมาก (แต่เรายังกิน ตกลงเราเป็นอะไรกันเนี่ย)
นราพกพวงกุญแจรูปช้างมาสามตัว เป็นช้างทำด้วยไหมพรมสีๆ ก็แจกเขาไปคนละตัว
เสียดายนะ จะไปกันแล้ว
แล้วกรูจะพูดอังกฤษกับใคร ทุกวันนี้ภาษาอังกฤษห่วยขั้นวิกฤติ
แปลกแต่จริงๆ อยู่อังกฤษแท้ๆ แต่ไม่ค่อยได้พูดภาษาอังกฤษเลย
เห็นชัดเจนเมื่อวันจันทร์ เขาให้อธิบายเนื้อหางานของตัวเอง พูดอะไรไปไม่รู้แกรมมาร์มั่วสุดๆเลย
อ๊าย อย่ามองหน้านรานะ หน้าเน่า หน้าหนอนมาก
ทำไมก่อนเมนส์มา สิวต้องปะทุเหมือนลาวาพิโรธด้วย ใครรู้บอกที

.................
อันที่จริงก็แอบซีเรียสเรื่องงานตัวเองเหมือนกัน
เป็นคนที่หมดสมาธิง่ายมาก อ่านแป๊บเดียวมันต้องหาอะไรทำละ เปิดยูทูปมั่ง กินขนม กลิ้งบนเตียง มันเลยไปไม่ถึงไหนไง
แต่อย่างน้อยตอนนี้ก็มีเอาท์ไลน์ของเรื่องที่จะเขียนแล้วละ ก็ค่อยๆเก็บข้อมูลต่อไป ก็มีเค้าโครงในหัวละว่าจะแย้งจะสนับสนุนอะไร แต่เขียนจริงคงยากกว่านี้
เพื่อนแนะนำให้ทุบคอมทิ้ง ไม่ก็ให้มันเอาคอมไปซ่อน เราจะได้ไม่เล่นเกม
ฟาย
เอาคอมไปซ่อน แล้วจะทำงานยังไง ฮ่วย พูดไม่คิด
...................
ใบตองคะ
ได้เล่นดอทเอสมใจแล้วค่ะ ชีวิตนี้มีสุขสมใจ
มุกกุ
ชีสอร่อยนะคะ แต่อ้วนอ่า
หนูแนน
ตอนนี้ขานราเหมือนท่อนไม้ผุๆ โคตรแห้งเลย
จะพยายามโบกครีมต่อไปค่ะ







วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Christmas Bankruptcy

วันนี้เกือบเอาชีวิตไปทิ้งในส้วมเสียแล้ว
ปวดอึ เข้าไปอึ แต่อึไม่ออก
เข้าใจไหม คือมันค้างเติ่งอยู่ระหว่างอิสรภาพและตรูดของเรา
นราก็พยายามเต็มที่ให้น้องอึ๊น้อยได้ไปสู่โลกที่ดีกว่า รวบรวมกำลังลมปราณเบ่งอึจนตะคริวกินช่วงอก โอ้โหสุดโคตรความทรมาน หายใจไม่ออก เจ็บปวดเหมือนโดนหนีบ
ตั้งใจมั่นว่าพรุ่งนี้ต้องซื้อส้ม ซื้อผักผลไม้มากินมั่งแล้ว
ระบบขับถ่ายทรุดโทรมฝืดเคืองยิ่งกว่าเศรษฐกิจปี 2540 อีก
...................
ช่วงนี้ใกล้คริสต์มาสแล้ว
นราได้รับคำเตือนมาว่า ไม่จำเป็นอย่าเข้าเมือง อาจตายได้ เพราะคนเยอะมาก
เยอะแบบเดินเบียดกันอย่างกะผัวกะเมีย เพราะเขาก็ไปหาซื้อของขวัญกัน
แต่ช่วงที่ของลดราคาอย่างนี้ ใครจะอยากพลาดคะ
วันนี้นราก็ไปห้าง Outlet กับเนม ปุ้ย แล้วก็บุ๊กมา
ขนเงินไปเกือบร้อยปอนด์ กะว่าวันนี้ไม่หมดตัวไม่กลับ เล็งรองเท้าไว้ล้วนๆ เสื้อผ้าอาภรณ์ไม่สนใดๆทั้งสิ้น
....................
Outlet นี่ ถ้าให้เปรียบเทียบก็คงเป็นเหมือนตลาดติดแอร์ ข้างบนมีฟู้ดคอร์ทด้วย ขายพวกแมคโดนัลด์ พิซซ่า ขนมปัง แซนด์วิชอะไรต่างๆ ข้างล่างเป็นร้านค้าล้วนๆ ทั้งแบรนด์และไม่แบรนด์ เรียงรายกันเป็นตับ
ช่วงนี้รองเท้าผีบอก (Reebok) ลดครึ่งราคา เสียดายโปรโมชั่นก่อนหน้าที่ซื้อหนึ่งแถมหนึ่งมันหมดไปแล้ว แต่ไม่เป็นไร อันนี้ก็โอเคพอกัน นราเดินดูนานมาก รองเท้าเยอะมาก ดมกลิ่นหนังใหม่ๆจนเวียนหัว
ไปซะแล้ว แบงค์ยี่สิบกรู
ผีบอกสีดำ ลดราคาจากหกสิบเหลือสิบห้าปอนด์
เอาไว้ใส่เล่นแบดมินตัน ทุกวันนี้เล่นแบดใช้รองเท้าส้นเตี้ยคล้ายๆนันยางเล่น เข่าเจ๊งหมดแล้ว

คู่นี้ ผีบอกเหมือนกัน ซื้อมาด้วยความเจ็บใจ
ซื้อมาทำไมวะเนี่ย
ใส่ก็ยาก สีขาวเลอะก็ง่าย เก็บตังเอาไปซื้ออาดิดาสสวยๆดีกว่าอีก
แต่เอาเหอะ ซื้อมาแล้วอ่ะนะ ราคายี่สิบปอนด์ ลดจากแปดสิบ
อันนี้ซื้อให้ตามคำบัญชาตาหมูจอมเรื่องมาก
กว่าจะเลือกได้ เฮียจะเอาสีออกแนวชมพูๆแดงๆ ไม่เอาหัวทู่แบบไนกี้แอร์ เอาไม่ไนกี้ก็อาดิดาสนะ สีขาวล้วนมันจืดไม่เอาๆ คู่นี้ยี่สิบเจ็ดปอนด์ จากเท่าไหร่ไม่รู้ ไม่รักไม่ตามหาให้ทั่วเอาท์เล็ทหรอกนะจะบอกให้ ฮึๆ
(จริงๆชอบ แอบอยากเก็บไว้ใส่เอง ฮ่าาา มันเป็นลายดวงๆสีม่วง ส้ม แดง ชมพู สวยดี)
ซื้อกางเกงขาสั้นไว้ใส่ในห้องกับเสื้อแขนยาวไว้ใส่ข้างในอีกตัวจากมาร์กแอนด์สเปนเซอร์ด้วย ขากลับตัวเบาโหวง หมดไปแปดสิบปอนด์ถ้วนกำลังดี เงินที่เก็บมาทำไม๊มันละลายหายไปไวยิ่งกว่าหายใจเข้าออกอีกนะ
บ่นไปงั้นแหละ ตอนนี้รู้สึกเหมือนมีอะไรขาดหายไปจากชีวิต กลับมานั่งคิด เอ...อะไรน้อ อ๋อออ นึกออกแล้ว ยังไม่มีรองเท้าใส่เดินเล่นของตัวเองเลย ใช่ๆ ต้องไปเอามาอีก ฮ่า ฮ่า ฮ่า
มีความเป็นไปได้สูงว่าวันอาทิตย์จะกลับไปซื้ออีกรอบ คราวนี้ซื้อของตัวเองและซื้อของฝากที่บ้าน ประเดี๋ยวจะงอนกันไป
พอนั่งรถเมล์เป็นก็ชักซ่าละ ฮิ ฮิ
..............
ตอนนี้ก็ยังกระวนกระวายใจ รอพัสดุอยู่
ไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไงบ้าง จะโดนศุลกากรดักตรวจ หรือส่งช้าเพราะคริสต์มาส หรือช้าเพราะเมื่อปลายเดือนพ.ย.ไปรษณีย์อังกฤษมันหยุดงานประท้วงก็ไม่ทราบได้ รู้แต่ว่ามาส่งเร็วๆเถอะขอร้อง ได้โปรด จะลงแดงอยู่แล้ว อยากเล่นเกม อยากเล่นดอทเอ อยากเกรียนนนน
ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมบ่อยๆนะคะ
อำลาด้วยภาพแสนอร่อย
ราสป์เบอร์รีกับชีสเกาด้า
นี่แหละน้าทำไมมันไม่ผอมซะที
เอวัง งัง งัง

วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2552

A Poem Out of Sanity

ทุกวันนั่งอยู่ห้อง เดียวดาย
เปล่าเปลี่ยวเอกากาย อย่างเศร้า
การบ้านท่วมเต็มห้อง ทุกที่ ทุกแห่ง
มีแต่ยูทูปนั้น ช่วยแก้ ทุกข์มลาย
..................
วู่หวูเสียงลมเหี้ยม บาดลึก เนื้อนวล
ยามเมื่อลมพัดหวน ย่ำย้ำ
ยัดเสื้อแม่งไปเถอะ สามสี่ ห้าตัว
แทบเท่งทึงมอดม้วย ช่วยด้วย หนาวจัง
....................
ทุกข์กายยังอยู่ได้ อดทน แน่เอย
หากแต่ทุกข์ใจเฮย อย่างเหี้ย
ดอทเออยู่ที่ไหน เมื่อไหร่ จะส่ง
ท่านพี่ไปรษณีย์กล้า ส่งช้า เหรอมึง
......................
ตาหมูเขาส่งมา นานแล้ว
แต่แม่งทำไมแคล้ว หายจ้อย
ดอทเอแผ่นก็อปปี้ ทรงค่า ค่อดค่อด
หากพี่ไปรษณีย์รู้ อย่าช้า มาไว

วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2552

National Father's Day Party

อัพเอนทรี่ใหม่ทันใจวัยโจ๋ใน 24 ชม. วี้ดวิ้ว
แบบว่าว่างจัด การบ้านมีแต่ไม่อยากทำ ฮ่าๆ โทรศัพท์กลับบ้านไปหาป๋า สวัสดีวันพ่อ ป๋าเริงร่าไปเที่ยววังน้ำเขียวและ ทิ้งแม่ให้หน้าบูดอยู่บ้าน นี่ก็ได้ข่าวว่าต้องรบกะปลวกอีกละ น่าสงสาร
..............
วันนี้ออกไปตีแบดตอนเช้ามา เสาร์นี้คนมากันเยอะเชียว
ตีเสร็จประมาณสิบเอ็ดโมง กำลังคิดว่าสุขภาพดีจัง ไม่ทันไรงานเข้าเลย พี่เกรียงกัปตันชมรมแบดเขาขาดคู่ไปตีแบดคู่ผสมวันอาทิตย์นี้ เลยบอก นรา พรุ่งนี้ว่างมั้ย ไปช่วยพี่ตีแบดหน่อย
จริงๆพี่เขาเคยชวนแล้ว สองครั้ง ครั้งแรกพี่เขามึนงงกับเดย์ไลท์เซฟวิ่งปรับเวลาถอยหลังเลยไปไม่ทันแข่ง ส่วนครั้งสองนราเกิดป่วยหลังไปเที่ยวลิเวอร์พูล โชคดีไป คราวนี้หนีไม่ได้แล้ว ช่วยด้วย เอาแม่มาตีแทนได้ไหม แม่นราเป็นแชมป์แบดมินตันของธนาคารกรุงไทยหลายสมัยนะจะบอกให้ ที่บ้านมีถ้วยด้วย เอ้อๆ
ถ้าเล่นเก่งๆจะไม่ว่าเลย
ก็เพราะเล่นไม่เก่งนี่สิมันถึงไม่มั่นใจ อาย ต้องไปแข่งกับนักกีฬาของแต่ละหอเนี่ยนะ เอานราไปแพ้ชัดๆพี่เกรียงจ๋า แต่เอาเหอะถ้าเลือกได้พี่เขาคงไม่อยากได้นราเท่าไหร่หรอก ตูดใหญ่ย้ายไปตีลูกไม่ทัน เหอะๆ
รอชมผลได้วันอาทิตย์นี้นะคะ
เล่นเสร็จ ไปซื้อกับข้าวเข้าบ้าน(อีกแล้ว)
เสียไปยี่สิบปอนด์กว่า กรี๊ด อย่าได้คิดเป็นเงินไทยเชียว
เย็นนี้ชมรมนักเรียนไทยในยอร์กจะจัดงานวันพ่อแห่งชาติ สังสรรค์กัน ต่างคนก็แบ่งๆกันเอาโน่นนี่มา นราซื้อของสดกลับมาเยอะยัดใส่ตู้เย็นไม่หมด เลยต้องเอาของเก่ามากำจัดก่อน ทำบร็อกโคลีผัดกุ้งค่ะ
กินเสร็จ เกิดปัญหา คืออิ่ม
ไม่น่าเลยกู
งานเริ่มหกโมง คนก็ทยอยๆกันมา แบกอาหารคาวหวานมาร่วมเฮฮา นราไม่ได้ทำกับข้าวอะไรเลยซื้อช็อกโกแลตมาเป็นของหวานสองกล่อง แพงนะยะตั้งเจ็ดปอนด์แน่ะ
ถ่ายกับเนม เป็นสักขีพยานช็อกโกแลตสองกล่องเจ็ดปอนด์
คนอื่นๆก็เอาอาหารมาแบ่งกันเยอะเลย มีแกงจืดหัวไชเท้า เป็ดย่างน้ำผึ้ง ไก่ต้มโค้ก เกี๊ยวซ่า ซูชิ เครื่องดื่มอีกบาน ส้ม คัสตาร์ดแบบโปรตุเกสอีก แถมตอนหลังๆยังสั่งไก่กับพิซซ่ามาเพิ่มอีก โอย นราก็กินเอาๆจนลุกไม่ขึ้น ท้องจะแตกตาย แต่วันนี้สนุกมากค่ะ ได้กินได้เมาท์กับเพื่อนๆ นราหลังจากอยู่ในห้องมาสามวันติดๆก็เลยคึก เหมือนหมาเจอคนแล้วคึก หัวเราะบ้าบอมันมากๆ

บางทีก็คิดเหมือนกันนะว่า เออเราหัวเราะเสียงดัง โม้เรื่องตลกเสียงลั่นแบบนี้ คงต้องมีคนไม่ชอบแน่เลย แต่ก็ไม่รู้จะแก้ยังไงเพราะมันก็เป็นนิสัยเราไปแล้ว แบบชอบเล่นตลกให้คนดู ตอแหลดัดจริตเท่าไหร่ใส่ได้ก็ใส่หมดอ่ะ ประมาณว่ากล้าแสดงออกแบบเต็มร้อย คิดปรามๆตัวเองเหมือนกันว่าอย่าพูดมาก อย่าเว่อร์มาก เดี๋ยวมีแฟนคลับไล่แจกส้นตรีน แต่พอมันฮา มันสนุกก็ลืมหมดทุกทีอ่า
............

เราฉลองกันที่ห้องนั่งเล่นของหอเวนท์เวิร์ธ จองไว้ตั้งแต่หกโมงถึงสี่ทุ่ม แต่ถึงขนาดจะมีป้ายติดเอาไว้หน้าห้องแล้วว่าวันนี้ชมรมนักเรียนไทยจองใช้ ก็ยังมีฝรั่งเด๋อด๋าเปิดประตูเข้ามาเอ๋ออยู่สองสามราย น่าสงสารเหมือนกันนะ เปิดเข้ามา โพละ เจอกระเหรี่ยงยี่สิบกว่าคนเต็มห้องไปหมดเลย ต้องถอยทัพกลับไปด้วยความมึนงง เสียศูนย์ไปแน่ๆ

พอใกล้ๆจะจบงานก็มีการปรึกษากันเรื่องงานแสดงนานาชาติที่จะจัดขึ้นช่วงเดือนกุมภา นราก็เสนอ เออ ชั้นรำไหว้ครูมวยไทยให้ได้นะ ชั้นว่ารำเคียวก็ดี ง่ายดี ชั้นว่าฝรั่งมันเบื่อแล้วละรำๆ เอาโชว์แบบอัลคาซาร์มั่ง ไปๆมาๆตกร่องกลายเป็นหัวหน้างานการแสดงไปได้ไงวะเนี่ย รับตำแหน่งมาแบบงงๆมึนๆ

กลับห้องมา ท้องจะแตก จริงๆ รู้สึกเหมือนกางเกงยีนลั่นออดแอด
ที่ตีแบดเมื่อเช้า ลดไปร้อยกว่าแคลอรี่ ตอนนี้มันเพิ่มขึ้นมาอีกกี่หมื่นเนี่ย ไม่ได้มีประโยชน์เล้ยออกกำลัง ตราบใดที่ยังกินเป็นยัดห่านแบบนี้นราก็คงต้องอดทนก้มหน้าเลี้ยงดูไอ้ลูกกลมๆที่หน้าท้องนี่ต่อไปค่ะ

ตอนนี้ปวดเข่ามาก สงสัยโดดตบลูกมากไป ขอยายไปทายาก่อนนะเอ้ย...

วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Beauty Secret

ไม่สบายมาสองวัน วันนี้ดีขึ้นหน่อยลากสังขารไปเรียนได้
แต่บอกตามตรง เรียนไม่รู้เรื่องหรอก ฟังๆไปงั้นแหละ
กลับมาที่ห้องหลังเรียนวิชาแรกจบ ได้คุยกะตาหมู (วันนี้มาช้านะ ฮึ)
ตาหมูเอาหนูแมวมาคุยด้วยยย อ๊าย น่าร้าก
หนูโชคดีกับหนูทอง แป๋วแหววๆ
ฮ้า แมวน้อยน่ารัก เห็นแล้วชื่นใจสุดๆ
คุยกันพักนึงนราก็ต้องไปเรียนต่อตอนบ่าย เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า วันนี้ได้ความรู้ใหม่ว่า หมาจีนเห่า ว้อง ว้อง หมาเกาหลีร้อง ม้อง ม้อง หมาบังกลาเทศร้อง กิวกิ๊ว กิ๊วกิ๊ว ฮ่าๆ
................
ค่ำวันนี้ อาบน้ำแล้วนึกขึ้นได้ ว่าตั้งแต่มาอยู่นี่เราใช้เครื่องประทินผิวเยอะมาก
ช่วงฤดูใบไม้ร่วงเข้าฤดูหนาวนี่นอกจากจะหนาวแล้ว อากาศยังแห้งได้อย่างเหลือเชื่อ ตอนนราแรกเดินทางมาก็ว่าจะเอาครีมทาผิวมาด้วย แต่มันหนักกระเป๋าเลยไม่เอามา คิดว่าอังกฤษฝนตกบ่อยมันคงชุ่มชื้น ชื้นแฉะ อากาศจะแห้งได้ยังไง สุดท้ายหนังลอกเป็นจั๊กจั่นถอดเปลือก ต้องไปซื้อครีมจากซูเปอร์มาโบกจนได้ ขวดละ 2.69 ปอนด์ แพงอิ๊บอ๋าย ซื้อจากบ้านถูกกว่าไม่รู้กี่เท่า
ตั้งแต่เกิดมา สาบานได้ว่าไม่เค้ย ไม่เคยประทินโฉมอะไรตัวเองขนาดนี้ อย่างดีก็ทาๆครีมตอนหน้าหนาว หมดไปขวดก็เลิก สิวขึ้นก็ทายาหมอ จบ จะให้มาแต้มหน้า แต้มหลัง ลูบไล้อะไรน่ะไม่มีหรอกเค่อะ แต่พอมาอยู่นี่ชีวิตเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว
ทุกวันหลังอาบน้ำ นราก็จะเริ่มด้วยการล้างหน้าด้วยบาลานซิงคลีนเซอร์ของอาร์ทิสทรีขวดซ้ายสุด น้ำก๊อกก็โคตรเย็นเลย ล้างเสร็จมาเช็ดหน้า แต้มยาหมอขวดเล็กฝาเทาบริเวณสิวบวมๆปูดๆ (ซึ่งอุดมสมบูรณ์บนผิวหน้ามาก) รอให้แห้งแล้วใช้โทนเนอร์ขวดสองปะทั่วหน้า ตามด้วยครีมปรับสภาพผิวเบอร์สามละเลงให้ทั่ว ตบท้ายด้วยการแต้มอายครีมกันตาห้อยย้อยเล็กน้อย
จบ หมวดหน้า
ต่อไป ใช้โลชั่นอะลาโนของแอมเวย์ที่แม่ส่งมาให้ทาถู ทาถูให้ทั่วตัว ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณสิบนาที แล้วทามือด้วยครีมกลิ่นมะลิใบเตยกันมือแห้ง เพราะเวลาออกไปข้างนอกแล้วใส่เสื้อโค้ทมือมันจะเป็นส่วนที่โผล่ออกมา ปิดกระบวนการทั้งสิ้นด้วยการทาลิปมันราสเบอร์รีให้ทั่วปากอันอิ่มย้อย เอ๊า อย่าทำเป็นเล่นไป เคยตื่นมาปากแห้งจนเป็นเกล็ดเลือดซึมมาแล้วนา อากาศมันแห้งปานนั้นเลย
..............
หลังจากทำแบบนี้มาหลายสัปดาห์ ผิวมันก็ดีขึ้นนะ ไม่ถึงกับเต่งตึงดึ๋งดั๋งเหมือนในโฆษณาหรอก แต่อย่างน้อยมันก็เลิกแสบๆคันๆแล้ว โหยคุณขาอยากจะบอก เวลาที่หนังมันแห้งจนตึงเปรี๊ยะนี่นา พอเอื้อมมือหรือเอี้ยวตัวที แสบไปทั้งแถบ แถมชอบไปคันๆแสบๆกะยุกกะยิกตรงแถวๆก้นกบ สะโพก ต้นขาไรงี้ จะเกาก็ไม่ได้ โคตรทรมานอ่ะ คันจนนราเกาหนังแหกไปเลยตรงน่อง
แล้วที่สำคัญ เสือกแพ้อากาศ ผื่นขึ้นอีก เอ้า ดีจริงๆ
ขึ้นที่คอไม่เท่าไหร่ มองไม่ชัด มันดันไปขึ้นตรงข้างๆจมูกดิ เป็นปื้นหนาๆสีแดงๆสองข้าง เหมือนหมาเลย น่าอายมากๆ หลังจากบำรุงผิวหนังหมูของเราแล้วไอ้รอยผื่นนี่ก็นิ่มเรียบลง แต่ยังแดงจางๆอยู่นิดหน่อย ใครจะมาก็อย่าชะล่าใจนะจ๊ะ
....................
ปิดท้ายด้วยความงามหลังประทินโฉมแล้วกัน เด็กและคนชราอย่ามอง คนขวัญอ่อนอย่าร้องทักนะ
ตุ๊กตาหมูผี
ผมแห้งมาก ย้อมสีน้ำตาลเทามาตอนนี้มันกลายเป็นสีเผือกอะไรแล้วก็ไม่รู้
ตัดหน้าม้าแล้วมีแต่คนบอกว่าหน้าเด็กลง ฮิ ฮิ
แต่เบื่อมากพวกที่บอกว่า เออ วันหลังให้ตัดให้ดีกว่า
หน้ากรูเหมือนสมศักดิ์ ชลาชลเหรอไง แค่หน้าม้านี่มึงมีกรรไกรกะมือก็ตัดได้แล้ว ยากตรงไหน เรียกใช้กรูยังกะหน่วยบริการตัดขนสุนัขเคลื่อนที่

ปล. วันนี้หนาวมาก ฝนตกแนวทะแยง 25 องศาทั้งวันเลย
ขอบคุณสำหรับทุกคำอวยพรนะคะ ขอบคุณมากๆเลย

วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

Happy Birthday to Me and Mom

วันนี้สุขสันต์วันเกิดของนราและแม่ 29 พ.ย.
ปกติจะไปฉลองพร้อมกัน ด้วยกันตลอด เพราะเกิดวันเดียวกันเลยประหยัดไม่ต้องไปหลายรอบ ปีนี้นรามานั่งพุงหลามอยู่อังกฤษก็เลยเหงาๆ อดไปฉลองกินซิสเลอร์กับครอบครัวเลย
วันเกิดฝนเสือกตกอีก อากาศอึมครึมตั้งแต่เช้า ตอนเช้านราก็คุยกับคุณหมูอู๊ดอี๊ด ขอบคุณนะจ๊าสำหรับคำอวยพร บ่ายๆนราก็ออนเอ็มรอที่บ้านกลับมาจากกินข้าววันเกิด แล้วก็เปิดกล้องคุยเอ็มเอสเอ็น ระหว่างคุยน้องสาวก็อบเค้กบราวนี่ไปด้วย สลับกับอุ้มแมวมาโชว์แล้วให้ทายว่าเป็นใคร ก่อนจะเอาเค้กมาเซอร์ไพรส์เรา แต๊แน
นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เป่าเค้กออนไลน์ข้ามประเทศกับแม่ค่ะ
เป่าเสร็จก็ร้องห่มร้องไห้กันตามระเบียบ นราเหงาอ่ะ อยากกลับบ้านมากๆ
วันเกิดปีนี้เป็นวันเกิดที่เงียบเหงาที่สุดเลย ตื่นมาแล้วมันหนืดๆ เหงาๆ ไงไม่รู้
ทีนี้เขาก็ตัดเค้กกินกัน
นี่ๆ แม่ป้อนนราด้วย อ้าม
ป๋าโชว์หอมแก้มแม่ กร๊ากๆๆ สองผู้เฒ่าโชว์สวีท ดิ่วดิ้ว
เอนทรี่นี้ต้องติดเรท ฉ มั้ยเนี่ย (รายการเฉพาะไม่เหมาะแก่เด็กและเยาวชน)

พอรู้ว่าปีนี้แม่ตัวเองอายุเท่าไหร่ ตกใจ มากๆ ไม่คิดว่าแม่จะ...เอิ่ม...ตัวเลขเยอะขนาดนี้ เพราะสำหรับเราแล้วเหมือนแม่เพิ่งจะสามสิบกว่าๆเมื่อวันวาน จริงๆนะเนี่ยไม่ได้ยอเพราะได้ตังค์ร้อยปอนด์นะขอบอก เพราะแม่เค้าผอมลงขาวขึ้นดูแลสุขภาพ(ด้วยแอมเวย์)มากขึ้นละมั้งก็เลยดูไม่เหมือนจะอายุเท่านั้นเลย แม่นราวัยรุ่นนะขอบอก เด่อๆ มีแต่นราเองนี่ดิทำไมหน้ามันล้ำหน้ำช่วงอายุไปหลายเลยฟะ หน้าแก่ไม่เกรงใจใคร กรูเพิ่ง 22 แต่บอกใครว่า 28 ก็มีคนเชื่ออ่ะ
รักแม่มากๆนะจ๊ะ คิดถึงด้วย อุ้ยกลับบ้านไปแล้วขอดังนี้
1. มารับที่สนามบินต้องมีราดหน้าเส้นหมี่ทะเล ขอหมึกกับกุ้งเยอะๆ
2. พาไปฉลองวันเกิดย้อนหลังทันที
3. พาไปกินอาหารญี่ปุ่นเยอะๆ
4. นึกยังไม่ออก แหะๆ ขอโน่นขอนี่แต่จุดประสงค์ก็อยากเจอแม่ไวๆนั่นแหละ
ขอบคุณที่บำรุงอุ้ยตั้งแต่อยู่ในท้องแล้วก็เบ่งปรุ๊ดออกมานะ จุ๊บๆ
............................

วันนี้มีเรื่องซาบซึ้งใจอีก คือเหน่มเน้มพาไปกินเลี้ยงวันเกิด ไปกะพี่ออยและบุ๊กในเมือง ตอนแรกว่าจะไปผับแถวบ้านพี่เบียร์ชื่อวิคตอเรีย แต่มันขายหมดแล้ว เลยเดินเตร็ดเตร่เข้าไปหาร้านกินกัน มาจอดป้ายที่ร้าน The Old White Swan เป็นร้านเล็กๆ เห็นว่าเป็นร้านเก่าแก่มีมานาน โต๊ะเต็มเกือบหมด ต้องลากโต๊ะกลมมาต่อกันนั่งข้างเตาผิง

ร้านนี้ ถ้าเป็นที่เมืองไทยนะมีหวังไม่ได้เกิด เพราะไม่มีพนักงานมาต้อนรับ หาที่นั่งเอง ถ้วยชามที่แขกชุดก่อนทิ้งไว้ก็ไม่มีคนมาเก็บต้องเก็บเอง จะสั่งอาหารหรือ? ขอโทษไม่มีคนมารับออเดอร์นะจ๊ะ ต้องเดินไปสั่งเองที่บาร์ สั่งแล้วจ่ายเลย แต่ที่น่ารักก็คือเขาจะคอยเดินมาถามเรื่อยๆว่าเป็นยังไง อาหารโอเคไหม เอาอะไรอีกไหม ถึงร้านนี้จะขายเหล้าเบียร์ด้วยแต่ก็สะอาดไม่เสียงดังเลย มีแบ่งโซนสูบกับไม่สูบบุหรี่ด้วย

ช่วยบอกทีว่านั่นหน้าฉัน ไม่ใช่กระด้ง กรี๊ด หน้าอ้วนมาก
หน้าม้าน่ารักม่ะ ฮิ ฮิ ตัดฉลองวันเกิดเลย แหว่งๆวิ่นๆ
นราสั่งฟิชแอนด์ชิป เนมใจดีเลี้ยงค่าอาหารเป็นของขวัญวันเกิด
คนอื่นๆสั่งไส้กรอกเมนูเด็ดของร้านกัน
พออาหารมา พระเจ้าาาา นี่คืออะไรรร โคตรเยอะเลย
ปลาทอดหนาๆสองชิ้น มันฝรั่งทอด แล้วก็ Mushy Peas มันเหมือนถั่วลันเตาบดหยาบๆ มันคืออะไรใครบอกได้บ้างเนี่ย
จานนี้ 6.7 ปอนด์ คุ้มของโคตรๆคุ้ม เพราะที่ห้องอาหารของม.ขายชิ้นเดียวสี่ปอนด์กว่า คิดว่าใหญ่แล้วพอมาเจอที่นี่ถึงกับช็อกไปเลย ฝรั่งมันตัวโตก็เลยต้องกินทีละเยอะๆสินะ อืมๆ
อันนี้ของคนอื่นเขาสั่งมา ไส้กรอกสามชิ้น มันบดราดน้ำเกรวีกับหอมใหญ่ทอดกรอบ ลองชิมดูเป็นไส้กรอกเนื้อนิ่มๆหยาบๆ มีกลิ่นสะระแหน่ อร่อยแปลกๆดี

กินเกือบไม่หมด อิ่มจะทะลักออกจมูก แต่ก็นะ ก็ยังอยากกินของหวาน
นราหม่ำ Apple Crumble เป็นคล้ายๆพายหรือทาร์ทไส้แอปเปิลแหยะๆ หวานๆ เปรี้ยวๆ ราดคัสตาร์ดครีม เคยไปกินที่ผับกับพี่ๆเขาแล้วติดใจ จานนี้ประมาณสามเกือบสี่ปอนด์

(กรุณาใช้สายตาโลมเลียของหวานจานนี้ได้ตามใจชอบ)
อ๊ายยย อร่อย คัสตาร์ดมันจืดไปหน่อย แต่พอกินกับไส้แอปเปิลแล้วมันอร่อยจังเลยอ่ะ
มันโรยเกล็ดน้ำตาลไว้บนหน้าขนมด้วย กรุบๆ กรุบๆ
ถ้าเป็นของผับที่เคยไปกิน คัสตาร์ดงี้ท่วมมิดขนมเลย แต่ที่นี่ราดมาเฉยๆ
วันหลังจะลองขอเพิ่มดู อุอุ
..................
เดินพุงโย้กลับหอ เอิ๊ก อิ่มค่อดๆ
วันนี้อากาศก็หนาวอีกแล้ว ลืมเอาถุงมือออกไปทุกทีสิน่า มือแข็งจนปวดเลย
พอเข้าหอมา เดินถึงชั้นสอง เจอเจ้าตัวนี้
แต๊แน
จริงๆเห็นตั้งแต่ขาออกมาแล้ว ยังงงๆว่าแมวใครวะ เข้ามาได้ไงเนี่ย เห็นมันนอนซุกๆอยู่ตรงหน้าประตูก็อดไม่ได้ไปลูบๆเกาๆมันเล่น ขนนุ้มนุ่ม น้าหนา ฟู้ฟู อริ๊งอร๊างน่าดู ข้างๆมีขวดยาคูลท์ตกอยู่ พอนราหยิบมาเทๆมันก็พุ่งเข้ามาชาร์จขวด น่าสงสาร สงสัยจะหิว นรากลับเข้ามาก็ยังเจอมันนอนอยู่ชั้นเดิมแต่เปลี่ยนมุม น่าร้าก
ด้วยความที่นราเป็นคนรักแมว มากๆ ก็สงสารมัน เป็นห่วงมัน
พอเข้าห้องไปวางกระเป๋าแล้วก็จะออกไปหาอะไรให้มันกิน แต่นมเพิ่งหมดเมื่อเช้า นราเลยเดินข้ามมหาลัยไปซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อจะไปซื้อนมมาให้มัน แต่ดันลืมคิดไปว่าวันนี้วันอาทิตย์ เหอะๆ ร้านปิดไปสองชาติกว่าแล้ว เลยเดินกลับโดยไม่ได้อะไรติดมือมา
พอมาถึงหน้าหอ เห็นแมวตัวนี้วิ่งออกมาข้างนอก คงโดนไล่ออกมาแล้ว งือออ สงสารอ่ะ นราเลยเดินตามมันไปเรื่อยๆ ดูว่ามันมีที่นอนที่ซุกอุ่นๆไหม เดินไปไกลพอสมควรเลย พอมันไปตรงมืดๆก็เลยเลิกตาม กลัว
น้องแมวตัวนี้ไม่น่าใช่แมวจรจัด หน้าตาสะอาดดี หูไม่สกปรก ไม่ผอมด้วย ไม่รู้แมวใครหลงมาหรือเปล่า อยากให้มันมีที่นอนอุ่นๆตอนกลางคืน เราอยู่ในตึก ใส่เสื้อผ้าหลายๆชั้นยังหนาวเลย มันมีขนชั้นเดียวจะไม่หนาวได้ไง
เอ๊ะ กลายเป็นเอนทรีคนรักแมวได้ไงเนี่ย
มุกกู้ ใบตอง และแนนโกะ ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะคะ หวังว่าคงสบายกันดี
เป็นกำลังใจให้นราเลิกดูยูทูปแล้วไปทำงานทำการซะทีด้วยนะคะ จุ๊บๆ

ปล. นับถอยหลังรอแผ่นดอทเอและแผ่นเสริมซิมส์สามจากตาหมู้สุดเลิฟ กริ๊บกริ้ววว (เจริญละกรู งานการไม่ต้องทำพอดี)

วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

Happy Birthday in Advance

เมื่อวานเข้าเมืองไปตอนค่ำๆ ไปหิ้วฮีตเตอร์แบบพัดลมมาจากร้านอาร์กอส ตัวละสิบสองปอนด์ เพราะทนไม่ไหวแล้วกับสมรรถภาพโหลยโท่ยของฮีตเตอร์ในห้อง ร้อนน่ะร้อน ร้อนแต่ตัวมันเองนะ ห้องนี่เย็นเจี๊ยบเลย มีดีอย่างเดียวคือเอาไว้ตากผ้าขนหนู
นอกจากนี้ยังได้มาม่าต้มยำมาอีกห้าหกซอง เครื่องต้มยำสำเร็จรูป แล้วก็ข้าวหอมมะลิมาโลนึง ตั้งแต่มีหม้อหุงข้าวนี่กินอะไรๆอิ่มขึ้นเยอะเลย ขนมปังซื้อมาก็แทบไม่ได้แตะ กลัวๆเหมือนกันว่าราจะขึ้นก่อนทันกิน ซื้อของเสร็จก็หอบข้าวของรุงรังไปร้านอาหารอิตาเลียนชื่อ STRADA นราสั่งพาสต้าครีมกอร์กอนโซลากับแฮมรมควัน แฮมอร่อยมากมาย ตบท้ายด้วยของหวานอีก จำชื่อไม่ได้แล้วเพราะเป็นภาษาอิตาเลียน แต่มันเป็นคล้ายๆทาร์ทครีมชีสโรยไพน์นัทกินกะไอศครีมวานิลา อย่อยยย
อีกไม่กี่วันก็จะวันเกิดแล้ว เลยซื้อดอกไม้สำหรับไหว้พระมาช่อนึง สองปอนด์ แบ่งมาใส่ขวดหัวเตียงสองดอก เป็นคาร์เนชั่นซ้อนซ้วยสวย หอมแปลกๆดีนะ
ในมหาวิทยาลัยยอร์ก จะมีพระพุทธรูปอยู่องค์หนึ่ง เป็นแบบจีน สลักป้ายไว้ว่าเป็นของที่ระลึกจากเซ่อร์อะไรสักอย่าง พระรูปนี้ตั้งอยู่ตรงทางเดินระหว่างอาคารเรียน เป็นป่าๆหน่อย มีซุ้มเล็กๆไว้กำบัง เท่าที่เห็นก็มีคนเอาดอกไม้มาถวายตลอดนะ วันนี้มีกล้วยกับเมล่อนด้วย
วันเกิดนราวันอาทิตย์ แต่กลัวดอกไม้เหี่ยวก่อน บวกกับไม่แน่ใจว่าวันอาทิตย์จะออกไปไหนไหม เลยไหว้พระขอพรวันเกิดเอาวันนี้ซะเลย รู้สึกจิตใจแจ่มใสขึ้นเล็กน้อยถึงปานกลาง
วันนี้อากาศก็หนาวอีก หนาวมากๆ กำมือแล้วก็ไม่รู้สึกเพราะมือมันชาเดี้ยงไปเลย แต่ไม่ลืมสัญญานะเรื่องต้นเชอร์รีที่กำลังออกดอก อุตส่าห์เดินอ้อมไปถ่ายมาให้เลยนะเนี่ย ต้นมันอยู่ตรงเชิงสะพานข้ามไปหอเวนท์เวิร์ธ หน้าหอแวนเบรอห์หอหลัก ดอกเล็กๆสีชมพูกำลังทยอยบานน่ารักดี ถ้าบานทั้งต้นคงดูสวยกว่านี้ ตอนนี้ยังดูโกร๋นๆอยู่ๆ

พยายามจะซูมแล้ว แต่ลมมันเฮงซวย พอยกกล้องปุ๊บมันรีบพัดใหญ่เลย กิ่งไม้ก็แกว่งไปไกวมาถ่ายไม่ได้ซะที นี่ขนาดเอามือจับให้อยู่นิ่งๆแล้วนะ ยังออกมามัวๆ เฮ้อ ไว้คราวหน้าเอาใหม่แล้วกัน

ขากลับแวะไปรับกล่องพัสดุจากเมืองไทย ที่บ้านส่งมาให้ ไชโย
ตอนแรกก็แกะกล่องแบบถนอมมาก ค่อยๆเอากรรไกรแซะ แงะ ตัดเชือก ปรากฏแกะไม่ออก เลยสติแตกฉีกกล่องกระจาย ฮ่าๆ นี่ของขวัญที่บ้านพร้อมใจส่งมาให้กู้ภัยหนาวค่ะ

ซุปไข่ผสมผักโขมอบแห้งสองกล่อง
โคอาล่ามาร์ชจิกล่องยักษ์หนึ่งกล่อง
เกาลัดอบสองถุง (ตอนนี้หมดแล้ว)
ครีมทาผิวของแอมเวย์หนึ่งกระป๋อง
ที่ห้อยมือถือรูปหมีสีชมพูจากเอิร์ธหนึ่งอัน
การ์ดวันเกิดจากเอิร์ธ จากเอม และจากป๋ากะแม่
ตุ๊กตาหมีมีซิปสำหรับใส่ของจุกจิกหนึ่งตัว
ปฏิทินปีห้าสามจากธนาคารกรุงไทยหนึ่งเล่ม
.........
น้องๆเขียนการ์ดกันน่ารักดี อ่านแล้วก็ขำนะ ตลกๆ
แม่ก็เขียนซะซาบซึ้ง มีการใบ้คำเล็กน้อยว่ามีของขวัญอีกอย่างให้ด้วยอยู่ในตัวหมี แต่ทำไมป๋าเขียนแค่สามบรรทัดเองฮึ
นราไปคุ้ยๆไส้หมี คิดว่าคงมีพวกแฮนดีไดรฟ์ หรือของใช้มีประโยชน์เล็กๆอะไรเทือกนี้ซ่อนอยู่ ล้วงออกมาเป็นกระดาษม้วนๆเหมือนลักลอบขนส่งยาเสพติด กรี๊ดดดด ร้อยปอนด์ ร้อยยย ปอนด์ ตกใจมาก เพราะเคยคุยกะแม่เล่นๆว่าส่งของมาน่ะ เอาของเบาๆอย่างเงินก็ได้จะได้ไม่เปลืองค่าส่ง ไม่คิดว่าจะเอาจริง ขอบคุณแม่มากๆเลยน้า ไม่น่าลำบากเลยเงินตั้งเยอะ แต่ได้ก็ดี อิอิ
คุ้ยเสร็จ กินขนมในกล่องเสร็จ ก็ตั้งสติให้มั่นแล้วโทรไปหาแม่เพื่อบอกว่าได้ของแล้วนา
สรุป ตั้งสติทำไมวะ สุดท้ายก็ร้องไห้อยู่ดี ฮ่วย
มันเหงามากๆเลย เห็นของจากที่บ้านแบบนี้ยิ่งรู้สึกใหญ่ว่าเราอยู่คนเดียว อยู่ห่างจากครอบครัวมากๆ ออกไปทำข้าวไข่เจียวกินก็เอาอีก คลาสสิค นึกถึงตอนอยู่บ้านเราทำกับข้าวกิน มานั่งดูทีวีไปกินไป ข้างๆมีแม่รีดผ้าไปบ่นไป ป๋านั่งอ่านเว็บการเมือง เอิร์ธก็โซโล่กีตาร์น่ารำคาญ ส่วนเอมก็นอนเล่นอยู่ตรงโซฟา แล้ววันนี้กรูมาทำอะไรที่นี่ นั่งกินข้าวไข่เจียวเค็มๆคนเดียวหน้าจอคอม เหงาจังน้อ
อาทิตย์หน้า อาจารย์กลับจากโรงพยาบาลแล้ว นราต้องตายแน่ๆ
เพราะเขาอัดคลาสที่ขาดสอนไป เช้าเย็น เช้าเย็น
ฮือออ การบ้านไปไม่ถึงไหนเลย
ใครก็ได้ช่วยด๊วยยย

วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

Winter Is on Its Way

อากาศหนาวลงอีกแล้ว
เมื่อวานนี้มองมาจากหน้าต่าง เหมือนเกมไซเลนท์ ฮิลล์เลย หมอกลงหนามากๆ จนถึงประมาณเที่ยงกว่าๆถึงจะสลายไป ลมก็ยังพัดแรงอยู่เหมือนเดิม เดี๋ยวนี้สี่โมงครึ่งก็มืดตึดตื๋อแล้ว บรรยากาศอึมครึมทั้งปีทั้งชาติ แต่วันไหนถ้าฟ้าไม่มีเมฆก็สวยดี
ต้นไม้ทิ้งใบกันเกือบหมดแล้ว เหลือแต่ต้นโกร๋นๆ แต่ก็มีดอกไม้บางอย่างยังบานอยู่
นี่ดอกอะไรไม่รู้ สีขาวอมชมพูจุ๋มจิ๋มน่ารักดี
จริงๆมีต้นเชอร์รีด้วย ดอกกำลังบานสวยมากๆ เดี๋ยววันหลังเดินผ่านไปแถวนั้นจะถ่ายรูปมาให้ดูนะ
ช่วงนี้ชีวิตนรากำลังเหน็ดเหนื่อย หนังสือตั้งอยู่สิบกว่าเล่ม แตะบ้างไม่แตะบ้างตามประสาสันดานคนขี้เกียจ ตอนนี้นราเริ่มวางแผนเขียนเทอมเปเปอร์สองเรื่องแล้วค่ะ ก็หาข้อมูลไปเรื่อยๆ หัวข้อที่เขาให้มาก็ตีความยากมากมาย ต้องเจาะให้ตรงประเด็นว่าเขาถามว่าอะไร ไม่งั้นตอบไม่ตรงคำถามก็โดนหักคะแนน ดีไม่ดีตกอีก ที่นี่เขาไม่แบ่งเป็น A B+ B C+ อะไรแบบนี้เหมือนบ้านเรา แต่เป็น Distinguished (ดีมาก) Good (ดี) Fair (พอทน) แล้วก็ Fail อันนี้คงไม่ต้องบอก
อาการอีกอย่างคือกำลังลงแดง อยากเล่นเกม อยากเล่นนน อยากเล่นดอทเอ อยากเล่นก็อดออฟวอร์ ทรมานมากๆ จริงๆนะเนี่ย ใครก็ได้ส่งเครื่องเพลย์กับทีวีมาให้หน่อยได้มั้ยยย ตาหมูส่งแผ่นดอทเอมาไวๆนะพลีสสส
จะว่าไปเวลาก็ผ่านไปรวดเร็วเหมือนกันนะ แป๊บๆก็สัปดาห์ที่เจ็ดแล้ว อีกเดี๋ยวก็ครบสิบ แล้วก็ปิดเทอมช่วงคริสต์มาส แล้วก็เปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิ คริสต์มาสนี้เพื่อนๆเขาจะไปเที่ยวลอนดอนกัน แต่นราคงไม่ได้ไป เพราะใช้เงินเยอะเลย อาจจะไปเที่ยวต่างเมืองนิดหน่อย เวลาที่เหลือก็ปั่นรายงานแล้วก็ฉลองคริสต์มาสเดียวดาย อะฮึๆ
วันนี้ไปซื้อของที่ร้าน Aldi มาค่ะ
มันเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆ จะไปต้องเดินตัดทุ่งวัว ตัดค่ายทหาร แล้วก็ข้ามถนนไปหน่อย
ตอนที่ต้นไม้มีใบคงจะสวยกว่านี้อ่ะนะ ทุ่งนี่มันเป็นทุ่งกว้างๆ ไม่รู้ของใคร
คราวก่อนไป Iceland ไม่เจอวัว วันนี้เจอเพียบ
กลิ่นโชยมาแต่ไกลเลย
วัวน่าร้ากกก เป็นวัวสีช็อกโกแล็ตน่าอร่อย วัวมีขนหยอยๆด้วย
ลูกวัว น่ารัก แต่เหม็น พุงงี้กางเบ้อเริ่มเทิ่มเลย

ตอนเดินผ่านค่ายทหาร เจอพี่ทหารสองสามคน หน้าตาดีเชียว ทำให้สงสัยว่าทหารอังกฤษจะต้องผ่านการคัดหน้าตามาก่อนหรือเปล่าหว่า หรือเป็นเพราะมันขาวๆ ผิวดี พอหนาวแล้วแก้มเป็นสีแดงๆเลยดูดีกว่าทหารทั่วไป พอเราเดินผ่าน เชอะ ทำมายิ้มๆ รู้ย่ะว่าสวยไม่ต้องมากะลิ้มกะเหลี่ยเลย
ทำไมผู้ชายใส่เครื่องแบบแล้วถึงดูดี สาวกรี๊ด สาวหลง ไม่ว่าจะหน้าหนอนขนาดไหนก็ตาม สงสัยจัง ใครทำวิจัยวานบอกที

บอกลาด้วยอาหารยาจกประจำสัปดาห์
สลัดไก่ใส่ข้าวโพดกับถั่วลันเตา
ทำเอง กินเอง อิ่มเอง
ทำไมข้าวโพดกระป๋องที่นี่มันอร่อยจังก็ไม่รู้ ซื้อมาสามป๋อง สองวันหมดละ กินล้างกินผลาญจริงๆ แต่คิดว่าเป็นเพราะไม่มีข้าว ทำให้ต้องกินเนื้อกินผักเยอะขึ้น ไม่งั้นไม่อิ่ม
คิดถึงทุกคนที่บ้าน คิดถึงตาหมูอู๊ดอี๊ด
อยู่คนเดียวนี่ใกล้บ้าเข้าไปทุกที
เฮ้อ จะวันเกิดแล้วด้วย
ต้องเป็นวันเกิดที่เหงาที่สุดแน่เลย

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

Good Friends, Good Time

รู้หรอกว่ารอกันนานแล้ว
รูปหนุ่มซูชิห่อไนลอนในลิเวอร์พูลค่ะ เอาไปขยายใหญ่แล้วเล็งกันตามอัธยาศัย นราได้ปรับแสงไบรท์ให้แล้วเพื่อให้สะดวกแก่การเล็งหาของแต่ละท่าน ถ่ายออกมาแล้วกางเกงมันสีเข้มมองไม่ชัด ก็ตั้งใจเพ่งหน่อยละกัน อย่ามาทำเป็นวี้ดว้ายลามกรับไม่ได้ รู้น่าว่าอยากดู ฮ่าๆ
รูปนี้ไม่ใส่เครดิตตัวเองเพราะไม่ได้ถ่ายเอง เป็นรูปถ่ายของกอล์ฟ ณ English Literature นะคะ ขอบคุณที่เอื้อเฟื้อภาพมา ณ ที่นี้
...................
ช่วงนี้อากาศก็หนาวขึ้นเรื่อยๆ ลมแรงมากๆ เดินไปเรียนเห็นเป็ดซุกตัวกลมๆเต็มสนามหญ้า
คราวที่แล้วที่บอกว่าซื้อเสื้อโค้ทมาแล้วอยากเอาไปคืน ขอถอนคำพูดนะคะ เพราะใส่ๆไปแล้วรู้สึกว่าอุ่นดี กันลมด้วย แถมปกก็จับตั้งขึ้นกันลมเข้าข้างในคอเสื้อได้อีก รู้สึกดีที่ซื้อมาในราคาแค่ 15 ปอนด์ ตอนนี้เสื้อผ้าคงไม่ซื้อแล้ว แต่ต้องรอดูว่าช่วงคริสต์มาสมันจะหนาวโหดแค่ไหน อาจจะได้ซื้ออีกเพราะตอนนี้ปากก็เริ่มเขียวแล้ว คาดว่าจะเขียวทั้งตัวด้วยความหนาวเย็นในไม่ช้า
เฮะเฮ้ แต่อย่างน้อยในห้องนราก็อบอุ่นนะจ๊ะ เพราะได้เพื่อนใหม่มานอนด้วย
เป็นชาวญี่ปุ่น หน้าตาน่ารัก น่ากอดอย่าบอกใคร
ชื่อคุมะค่ะ ฮ่าๆ
ของขวัญวันเกิดล่วงหน้าจากตาหมูอ้วน ขอบคุณมากๆเลยน้า จุ๊บๆ
มาถึงคุมะก็นั่งขัดสมาธิมาเลย อึดอัดแทน
คุมะตัวนิ่มๆ กอดมันดี เอาไว้ฟัดตอนนอน
วันก่อนนอนน้ำลายไหลเปรอะไปนิดนึง แต่ไม่เป็นไรไม่เสียหาย
มีคุมะแล้วรู้สึกเหมือนห้องสว่างสดใสขึ้นมาหน่อย เวลานอนก็เอามากอด จะออกไปข้างนอกก็เอาคุมะมานอนแล้วห่มผ้าให้ เหมือนเด็กๆเลย
เมื่อคืนนี้นราไปนอนค้างที่บ้านรุ่นพี่คนไทยมาค่ะ
เพราะตอนเย็นออกไปทานข้าวกันในเมืองแล้วกลับค่ำที่ ชื่อร้าน Red Chili เป็นร้านอาหารจีน ทำหมี่ผัดอร่อยมากๆ เป็นหมี่เส้นแบนผัดใส่กุ้งยักษ์และหน่อไม้ มีปลาเปรี้ยวหวาน ปลาหมึกผัดเกลือและพริกไทย ไก่ต้มซีอิ้ว ผัดมะเขือ
แต่อาหารจีนร้านไหนร้านนั้น ต้องทานร้อนๆ พอเย็นแล้วทั้งเลี่ยนทั้งมัน ยิ่งไส้หมูผัดต้นหอมนี่กินแทบไม่ลง (แต่ก็กิน) ค่าอาหารตกคนละเจ็ดปอนด์ครึ่ง ถือว่าคุ้มเพราะนรากินเหมือนเครื่องย่อยขยะเลย กั่กๆ
กินเสร็จก็ย้ายขบวนมาทั้งเล่นกันที่บ้านพี่ยุ้ย มานั่งดูเอ็กซ์แฟคเตอร์กัน แต่นราดูได้นิดหน่อยก็ออกมาอ่านหนังสือข้างนอก
ในรูปจากซ้าย พี่ยิ้ม (ถ้าบอกว่าเป็นคนแต่งหนังสือของแจ่มใสชุด ความรู้สึกดีๆที่เรียกว่ารัก ก็คงจะอ๋อกันใช่มั้ย ที่นั่งอ่านก็หนังสือที่เขาแต่งนี่ละ) เนม แล้วก็พี่เบียร์ พี่เบียร์เป็นอาจารย์ที่นี่นะจ๊ะจะบอกให้ แต่หน้าเด็กจนนรารู้สึกอายที่ตัวเองหน้าแก่ล่วงหน้าไม่ปรึกษาใคร
นรากะพี่ยุ้ย

จริงๆมีหลายคนมากกว่านี้ แต่ถ่ายรูปกันมาไม่หมด
พี่ๆที่นี่ใจดีกับนรามากๆ ดูแลเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี คอยให้คำแนะนำดีๆอีกด้วย
รู้สึกว่าตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกยอร์ก ถึงสำเนียงมันจะแปลกๆก็เหอะ
เมื่อคืนก็นั่งดูทีวี ดูหนัง ฟังพี่เบียร์เล่นกีตาร์กันจนดึก
นรากลับมาถึงหอตอนประมาณ 10 โมงเช้า

ช่วงนี้นราการบ้านเยอะจัง เหนื่อย
อยากทำ แต่ขี้เกียจ สลัดไม่หลุดซะทีเนี่ย
อย่างนี้ตอนเขียนรายงานสองเล่ม เล่มละห้าพันคำต้องตายแหงๆ หนังสือนรายังไม่อ่านสักกะเล่ม แอร๊กกกก
เข้าเรื่องนี้แล้วเครียด ไปนอนดีกว่า

คำคมวันนี้
ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา

ปล. อยาก เล่น เกม โว้ย อะไรก็ได้ ดอทเอก็ได้ God of War ก็ได้ แอร๊ยยสติจะแตกแล้ว