วันจันทร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2553

[Hengsuay Life Series] 2

ความเดิมจากตอนที่แล้ว...ไปอ่านเอง ขี้เกียจเล่าใหม่
.
เช้าวันศุกร์ที่ 16 สมตุ้ยลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้งเวลาประมาณตีสี่กว่าตามเวลาท้องถิ่น อันที่จริงนี่ไม่ใช่การตื่นครั้งแรกของคืนที่ผ่านมา เพราะก่อนหน้านั้นสมตุ้ยตื่นมาไอกลางดึกทุกสามชั่วโมง โคตรจะทรมาน สมตุ้ยเดินอมขี้ฟันไปดูที่บอร์ดประกาศเที่ยวบินอย่างมีความหวัง ก่อนจะหน้าจ๋อยลงอย่างรวดเร็วเมื่อพบว่าทุกเที่ยวบินยังคงถูกยกเลิก ผู้โดยสารดวงซวยที่โดนออกตั๋วให้ใหม่เป็นเช้าวันเสาร์เริ่มมาต่อแถวกันอย่างรวดเร็วเพื่อขอตั๋วใหม่ สมตุ้ยคิดว่าตัวเองช่างโชคดีที่ไม่ต้องไปยืนตูดห้อยแบบนั้นให้เมื่อยตุ้มเพราะตั๋วตัวเองเป็นของวันเสาร์ จึงเฝ้ามองดูคนเหล่านั้นพลางร้องเพลงสมน้ำหน้ากะลาหัวเจาะอยู่ในใจ
.
สมตุ้ย ถึงแม้โดยเนื้อแท้แล้วจะเป็นคนสกปรกซกมก แต่ไม่แปรงฟันมาหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆนี่ คนอย่างสมตุ้ยก็เริ่มหยะแหยงตัวเองขึ้นมาเหมือนกัน ดังนั้นหลังจากที่สมตุ้ยเอาขนมปังไส้แฮมที่ได้รับแจกเมื่อคืนมากินแทนอาหารเช้าด้วยความหวังว่าจะช่วยประหยัดเงินแล้ว สมตุ้ยก็ออกเดินทางหาร้านขายยา ในแผนที่บอกไว้ว่าเป็นร้านใหญ่มาก หันหลังไปก็เห็น แต่สมตุ้ยไม่เห็น เห็นแต่ร้านแว่นตากับเหล้า เดินกลับไปกลับมาตั้งนานก็หาไม่เจอ หวิดจะโดนตำรวจสนามบินบนไอ้เครื่องนั่นน่ะ ที่มันมีสองล้อแล้วก็แท่นให้จับอ่ะ มันเรียกว่าอะไร จะชนตายเอา แม่งบรื้นกันมาเหมือนเล่นหนังเรื่องโตเกียวดริฟท์ แล้วไม่ใช่แค่ไอ้เครื่องสองล้อนี่นะ ทั้งคนขับรถยกของ รถแคดดี้คันเล็กแบบในพารากอน ม่างขับกันแบบซิ่งสุดฤทธิ์ เฟี้ยวฟ้าวกันน่าดูชม บางทีดูเพลินๆ นึกว่าดูเปิ้ลนาครแข่งเจ็ทสกี
.
ขอโทษทีนอกเรื่อง เอาเป็นว่าสุดท้ายสมตุ้ยก็หาร้านยาเจอจนได้ บอกว่าเป็นร้านยา แต่เห็นขายแต่น้ำหอมแบรนด์เนม ไอ้ของสำหรับร้านยาจริงๆมีชั้นเดียวเอง สมตุ้ยกัดฟันฝืนใจซื้อแปรงสีฟัน ยาสีฟัน แล้วก็แชมพูมาหลอดหนึ่ง สิริรวมทั้งหมดเกือบสิบปอนด์ (จ่ายด้วยเงินปอนด์ก็ได้) พนักงานขายหน้าตายิ้มแย้ม คงคิดในใจว่า สมน้ำหน้าไอ้พวกนักเดินทางหน้าโง่ ไม่รู้จักเตรียมตัว อะเหอๆ แถมถุงพลาสติกใสมาให้ใบนึง สำหรับใส่ยาสีฟันตอนขึ้นเครื่อง ขาเดินออกมาเห็นชาวเวอร์ออยล์เมล็ดอัลมอนด์ของลอคซิทาน ไปจับๆดูพบว่ามีบางขวดไหลเยิ้ม สมตุ้ยเป็นคนมัธยัสถ์ จึงเอามือถูขวดที่เลอะชาวเวอร์ออยล์จนมือหอมนุ่มนวลและดูไฮโซดี สวยจังตังอยู่ครบ สมตุ้ยวางขวดไว้ที่เดิมก่อนจะสะบัดบ๊อบและปฏิบัติการเอาตัวรอดต่อไป
.
สมตุ้ยไปร้านขายเครื่องไฟฟ้า มองหาอแดปเตอร์สำหรับมาเสียบชาร์จโน้ทบุ๊ก พนักงานจับกลุ่มกันเม้าธ์แตกไม่สนใจสมตุ้ยเลย จนในที่สุดหนุ่มพนักงานคนนึงเดินมาถามว่าหาอะไรครับ อยากจะตอบไปว่าหาพ่อเมิงอะแหละคุยกันอยู่ได้ แต่กลัวจะไม่ได้กลับประเทศแบบครบสามสิบสองเลยบอกไปเรียบๆว่า หาอแดปเตอร์ค่ะ แต่บอกไม่ถูกว่าขาปลั๊กเราหน้าตาเป็นยังไงเลยล้วงเป้จะเอาปลั๊กออกมาให้ดู ระหว่างนั้นหนุ่มพนักงานเดินนำไปตรงชั้นขายอแดปเตอร์แล้ว แต่พอสมตุ้ยดึงปลั๊กออกมาให้ดู พนักงานบอก อ้าว จะซื้ออแดปเตอร์ไปทำไมล่ะครับ ก็ที่ถืออยู่มันเหมือนปลั๊กที่ใช้ในเนเธอร์แลนด์แล้วหนิ สมตุ้ยเลยรู้ทันทีว่าเมื่อวานกรูนี้หนอช่างโคตรโง่ มัวแต่กรี๊ดกร๊าดจิตตกว่าแบ็ตโน้ทบุ๊กจะหมดแล้วๆๆต้องรีบโทรๆๆ เสียพลังงานไปเปล่าๆปลี้ๆจริงๆ แต่เอาเถอะสรุปแล้วสามารถประหยัดเงินไปได้อีกหน่อยนึง สมตุ้ยสุขใจ
.
(เปิดเพลงมิชชั่นอิมพอสสิเบิ้วประกอบ)
สมตุ้ยคันกบาล อยากสระหัวอย่างมาก เพราะสมตุ้ยเป็นคนผมมัน สระผมตอนกลางคืน เช้ามาก็เริ่มมันอีกแล้ว แล้วนี่ไม่ได้สระเลยตั้งหนึ่งวันหนึ่งคืน ไม่แปลกที่หัวสมตุ้ยจะเริ่มจับกันเป็นกระจุกเขรอะๆ แป้ๆลีบติดหนังหัว หลังจากที่สมตุ้ยไปซื้อแชมพูมาแล้ว ก็ตั้งใจแน่วแน่ว่าวันนี้แหละกรูจะสระหัวให้ได้
.
อันที่จริงตรงชั้นบนเหนือส่วนที่เป็นคาสิโน มันจะมีห้องอาบน้ำฟรี สมตุ้ยจะไปอาบที่นั่นก็ได้ แต่สมตุ้ยยังไม่มีอารมณ์ สมตุ้ยไม่มีผ้าขนหนูหรืออะไรทั้งสิ้น หลังจากคิดอยู่สักพักหนึ่ง สติของความเป็นคนดีของสมตุ้ยก็ขาดดังผึง ช่างแม่งแล้วโว้ย สระผมมันในส้วมนี่แหละ
.
สมตุ้ยเข้าห้องน้ำชั้นล่าง เพราะจำได้ว่าคนไม่ค่อยมี เหมาะแก่ปฏิบัติการสระผมในอ่างล้างหน้าเป็นอย่างยิ่ง แต่โผล่เข้าไปปั๊บเจอแม่บ้านกำลังล้างห้องน้ำพอดี แหม อะไรจะเหมาะเจาะขนาดนี้ สมตุ้ยทำเป็นเนียนยืนแปรงฟันไปก่อน พอแม่บ้านออกไปแล้วสมตุ้ยรีบเปิดก๊อกแรงๆ แหย่หัวเข้าไปใต้ก๊อก บีบแชมพูใส่มือ ถูหัว ล้างฟอง ถอยออกมายืนน้ำหยดแหมะๆ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงสามนาที จริงๆอยากจะเอาหัวไปแหย่ใต้เครื่องเป่ามือด้วย แต่ยังเกรงใจอยู่บ้างเลยเอามือบีบน้ำออกจากผม ดีว่าผมสั้นเลยไม่เปียกโชกมากมาย Mission Accomplised! เดินออกไปฝรั่งมองกันตึม
.
พอได้ล้างหน้าแปรงฟันสระผมแล้ว สมตุ้ยค่อยรู้สึกว่าเป็นคนกะเขาหน่อย ไม่ใช่ถุงขยะเปียก ข้างล่างแถวๆเคานเตอร์ของเคแอลเอ็มมีร้านราเม็งอยู่ร้านนึง สมตุ้ยสั่งมิโสะราเม็งแซลมอนกับชามะลิ โดนไปอีกสิบเจ็ดยูโร (ทุกคนโปรดสงบนิ่งไว้อาลัยแก่กระเป๋าตังสักครู่)
.
.
.
วันนั้นที่เหลือทั้งวันผ่านไปแบบเฉื่อยๆ สมตุ้ยไม่ได้ทำไรเลยนอกจากต่อเน็ทเล่นคอมโทรหาที่บ้านและตาหมู แม่สมตุ้ยก็คลายความเป็นห่วงไปเยอะแล้ว แต่ก็ยังห่วงอยู่นะจะบอกให้ ช่วงนี้มันเป็นฤดูใบไม้ผลิย่างเข้าร้อนมั้ง ฟ้ามันไม่ยอมมืดอ่ะ สองทุ่มครึ่งไปโน่นแล้วแหละถึงจะเริ่มเป็นสีเทาๆ ทำให้สมตุ้ยหลงเวลายังไงชอบกล จำไม่ได้ว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว เช้าหรือเย็น ชีวิตหมดไปอีกวันแบบไร้คุณค่ามากๆ มองฟ้าแล้วสมตุ้ยก็น้ำตาไหล คิดถึงบ้าน คิดถึงทุกคน อยากกลับบ้านนน
.
สมตุ้ยยัดตัวลงนอนในโซฟาตัวเดิมที่นอนเมื่อคืน ข้างๆเป็นชายชาวญี่ปุ่นนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ สมตุ้ยนอนอ่านหนังสือเล่มที่สองที่เอาติดตัวมาด้วยจนเคลิ้มหลับไป ก่อนจะถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงโรงสีนิปปงข้างๆตัว กรนเสียงดังชิบหาย เสียงแบบ ฮอกกก หืดดดด ฮอกกก หืดดดด นอนไม่หลับ ลุกขึ้นมานั่งนิ่งๆมองหน้ามัน ในใจนึกอยากจะเอาหนังสือพิมพ์ฉบับที่มันอ่านเมื่อกี๊ยัดคอหอยม่างจัง
.
คืนนี้ก็หนาวอีกแล้ว สมตุ้ยคิดขณะทำหูทวนลมกับเสียงโรงสีเฮงซวยข้างๆ พรุ่งนี้ พรุ่งนี้แหละ...
สมตุ้ยจะอาบน้ำ!

โปรดติดตามตอนต่อไป...

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ19 เมษายน 2553 เวลา 12:29

    เป็นยังไงบ้างหมูวันนี้ตื่นสายแน่ๆเลย นี่จะบ่ายโมงของบ้านเราแล้วนายังไม่ตื่นมาคุยกันอีกเหรอ

    หมู กอต ออฟ วอร์ 3 มันมาก

    ป.ล. หมูดู Mini Sex Game ของมันยัง แหะๆ เราดูแล้วนะ

    ตอบลบ
  2. นะราาา นึกว่าหายไปไหน
    ขอให้ได้กลับอังกฤษเร็วๆ หายไอเร็วๆด้วยน้าาา

    ตอบลบ