วันเสาร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2553

[Hengsuay Life Series] 1


นาร่าอินเตอร์โพรดักชั่น

ภูมิพุงเสนอ

"กับดักมาร ณ อัมสเตอร์ดัม"

....


สมตุ้ย หญิงสาววัยกระเตาะเอ๊าะๆยี่สิบสองขวบก้าวเข้าสู่สนามบินชิปโฮลในอัมสเตอร์ดัมในชุดเสื้อยืดสีขาว "สบายดีประเทศไทย" เพื่อรอเที่ยวบินไปยังแมนเชสเตอร์หลังวันหยุดพักผ่อนช่วงอีสเตอร์จบลง สมตุ้ยมองดูบอร์ดเที่ยวบิน เครื่องออกบ่ายโมง ตอนนี้ยังเก้าโมงเอง นอนงีบเอาแรงสักหน่อยดีก่า
(ครึ่งชั่วโมงต่อมา)
สมตุ้ยงัวเงียเมาขี้ตาตื่นมาดูบอร์ดเที่ยวบิน เอ๊ะ ทำไมถึงมีคำว่าแคนเซิลต่อจากเที่ยวบินของเราล่ะ ที่ร้ายกว่านั้นคือทุกเที่ยวบินที่ไปอังกฤษล้วนแต่ถูกแคนเซิลทั้งสิ้น สมตุ้ยใจไม่ดี แต่ยังคิดปลอบใจตัวเองว่าสมสัยเครื่องรวนมั้ง แต่เพื่อความแน่นอน เดินไปดูที่บอร์ดใหญ่ตรงโต๊ะบริการของเคแอลเอ็มดีกว่า
เมื่อสมตุ้ยไปถึง พบว่าบริเวณนั้นได้กลายเป็นเขตจราจลย่อมๆไปเสียแล้ว ผู้โดยสารกำลังหน้าดำคร่ำเครียดเถียงกับพนักงานสายการบินสาวร่างยักษ์ แถมที่โต๊ะบริการก็มีต่อคิวยาวเหยียด สมตุ้ยเริ่มเห็นเค้าลางความซวยมาเยือนจางๆอยู่เบื้องหน้า ชิบหายละกู สมตุ้ยคิด เที่ยวบินโดนยกเลิกจริงๆเหรอเนี่ย สมตุ้ยผู้ซึ่งไม่รู้เลยว่าก่อนหน้านั้นแค่ครึ่งวัน ภูเขาไฟชื่ออะไรสักอย่างยาวสาดๆเสือกระเบิดบู้มในไอซ์แลนด์ แถมไม่ได้กลายเป็นโกโก้ครั้นช์ด้วย แต่เป็นกลุ่มควันขนาดมหึมาที่ลอยสูงขึ้นไปบนฟ้า ปกคลุมน่านฟ้าแถวนั้น รวมไปถึงอังกฤษ สวีเดน และเดนมาร์กดวงซวย ตอนนั้นสมตุ้ยคิดแต่ว่า สงสัยม่างประท้วงหยุดงานกันอีกแล้ว เพราะมีประสบการณ์กับความเป็นลูกอีช่างประท้วงของอังกฤษตั้งแต่ตอนส่งพัสดุไปรษณีย์แล้วมันนัดกันหยุดงานโดยมิได้นัดหมายมาก่อน
แถวๆนั้นมีเจ้าหน้าที่สายการบินเหี่ยวๆยืนอยู่คนหนึ่ง สมตุ้ยเดินเข้าไปหาเพื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้น ได้รับคำตอบว่า วันนี้จะไม่มีเครื่องบินเที่ยวบินไหนไปอังกฤษทั้งสิ้น เพราะแม่งปิดสนามบินกันทั้งประเทศเลย แล้วหล่อนก็ให้เบอร์โทรศัพท์ของสำนักงานเคแอลเอ็มมา บอกว่าให้โทรไปจองตั๋วใหม่ซะ แล้วหล่อนก็เดินจากไป ทิ้งสมตุ้ยให้งุนงงเคว้งคว้างกลางทะเลผู้โดยสารอารมณ์บูดต่อไป
สมตุ้ยมึนงงสับสนตกใจย่ำแย่เครียดปวดท้องเงินไม่มีช่วยด้วยทำไงดีเนี่ยแย่แล้ว สมองหมุนติ้วเหมือนหมาไล่งับหางตัวเอง เลยเดินโต๋เต๋ขึ้นๆลงๆไปดูว่ากรูจะทำอะไรดีวะเนี่ย ว่าแล้วก็เดินหาโซนอินเตอร์เน็ท เพื่อจะต่อเน็ทแล้วใช้สไกป์โทรไปจองตั๋วใหม่ แน่นอนว่าโลกนี้ไม่มีอะไรฟรี เน็ทชั่วโมงครึ่งราคา 12 ยูโร (ขณะนี้ยูโรละประมาณ 43 บาท) หนึ่งวัน 16 ยูโร สมตุ้ยจึงกัดฟันจำใจรูดการ์ดปื้ดซื้อชั่วโมงเน็ท หัวใจเต้นตูมตามเพราะรู้ว่าโน้ทบุ๊กตัวเองแบ็ตหมดไวมาก ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับเวลาและความฉับไวทั้งสิ้น (เปิดเพลงมิชชั่นอิมพอสสิเบิ้วประกอบ)
(ตัดภาพมาอีกครึ่งชั่วโมงถัดมา)
สมตุ้ยโทรศัพท์ไปหาตาหมูด้วยเศษเงินกร๋องแกร๋งที่ได้มาตอนแลกเงินพร้อมร้องไห้สะอึกสะอื้น ตาหมูก็แสนดีช่วยปลอบใจแล้วโทรไปบอกที่บ้านต่อให้ ทำเอาแตกตื่นกันหมด แม่สมตุ้ยถึงกับนอนไม่หลับต้องไปแอบนอนต่อที่ที่ทำงาน แต่สมตุ้ยไม่อยากร้องไห้ให้ที่บ้านตกใจกว่านี้เลยยังไม่ได้โทรหา
เอาละสิ สมตุ้ยตกพุ่มซวย โทรไปสำนักงานเคแอลเอ็มก็ไม่มีคนรับ ได้แต่ถือสายรออย่างเบื้อใบ้ ฟังเพลงรองเง็งเฮงซวยของมันไปแสนกว่ารอบ ลองเปลี่ยนไปโทรด้วยโทรศัพท์สาธารณะก็คือกัน ต่างตรงที่ทุกๆห้านาทีจะมีเสียงผู้หญิงบอกว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่ว่างเลยนะคะ ขอบคุณที่ถือสายรอ ซื้อบัตรไปโทรศัพท์ไปยี่สิบยูโร หมดเกลี้ยงไม่เหลือหลอ สมตุ้ยโซซัดโซเซกลับไปที่โต๊ะบริการของเคแอลเอ็ม พบว่าประชากรครึ่งโลกยังเข้าแถวรออยู่และเคลื่อนตัวด้วยความเร็ว 0.1 เซนติเมตรต่อชั่วโมง
สมตุ้ยไม่มีทางเลือก เลยเข้าแถวยืนรอหลังจากเทียวไปเทียวมาดูลาดเลาหลายครั้งจนพนักงานจำหน้าได้ จะไม่เล่าความทรมานในการเข้าคิวรอให้ยืดยาว แต่หลังจากยืนขาแข็งมาหกชั่วโมง สุดท้ายสมตุ้ยก็ได้เปลี่ยนตั๋วเป็นเที่ยวบินวันเสาร์เช้า เดินออกมาพอดีว่าเห็นเจ้าหน้าที่แจกบัตรอะไรสักอย่างอยู่ เลยไปขอเขาด้วย ปรากฏว่าเป็นเวาเชอร์สำหรับผู้โชคดีที่ได้ติดอยู่ที่สนามบิน มีบัตรโทรศัพท์อะไรไม่รู้ฟรีห้านาที บัตรค่าอาหารสิบยูโร แล้วก็คะแนนไมล์กับส่วนลดครั้งต่อไปสิบยูโร สมตุ้ยสนแต่บัตรค่าอาหารแหละ หลังจากนั้นก็โทรศัพท์บอกตาหมูและที่บ้านด้วยสไกป์กับแบ็ตที่เหลืออยู่ในโน้ทบุ๊กจนหมดเกลี้ยง คิดว่าพรุ่งนี้จะไปซื้ออแดปเตอร์มาเสียบเอา
ลืมบอกไปว่า สมตุ้ยมีอาการป่วยมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว คือไอแค้กๆแบบไม่มีการเตือนล่วงหน้า เหมือนภูเขาไฟที่อยู่ๆก็บู้มแบบเบรกไม่อยู่ แถมจะไอหนักมากแบบห้ามตัวเองไม่ได้เป็นพิเศษเวลากลางคืนและขณะนอนหลับ ก็ไม่รู้มันจะไอตอนตื่นไม่ได้หรือไงวะ บางทีไอจนขย้อน อ้วกไปก็หลายครั้งหลายหน อย่างเมื่อคืนสมตุ้ยก็อ้วกใส่แขนเสื้อตัวเอง ทรุดโทรมเหลือทน อย่าว่าแต่คนอื่นเลย สมตุ้ยยังสมเพชตัวเองอยู่เนี่ย
หกโมงกว่าแล้ว แต่พระอาทิตย์ไม่ยอมตก ข้างนอกยังสว่างไสว ท้องฟ้าแทบไม่มีเมฆเป็นสีฟ้าครามอ่อนๆบนชมพู ในสายตาสมตุ้ยท้องฟ้าสวยงามนั้นแม่งดูโคตรหาเรื่องเลย หนอย เยาะเย้ยกรูหรอ ถ้าฟ้ามันเต็มไปด้วยควันหรือเป็นสีดำครึ้มอะไรแบบนี้สมตุ้ยคงรู้สึกดีขึ้น แต่เอาเหอะตอนนี้สมตุ้ยหิวข้าวแล้ว ไม่ค่อยมีอารมณ์จะกินเลยเอาจริงๆแล้ว แต่ในท้องมันโหวงๆเหวงๆ เลยต้องออกหาอะไรใส่ท้องเพื่อจะได้กินยา ยาแก้ไอเหลือแค่สามสี่เม็ด หนังสือที่เอามากะจะอ่านฆ่าเวลาบนเครื่องก็เหลือแค่สองเล่ม อ่านหมดเมื่อไหร่ไม่มีอะไรทำแน่
มีร้านอาหารไม่ถึงกับมากมายแต่ก็มีให้เลือก มีสลัด พาสต้า พิซซ่าชิ้นเท่ากระเบื้องมุงหลังคา แซนด์วิชยาวๆ แมคโดนัลด์ บาร์และคาเฟ่ ราเม็ง ซูชิบาร์ เดินเลือกอยู่นานสุดท้ายก็ตายรังที่แมคโดนัลด์จนได้ แมคที่นี่ชุดละเกือบ 7 ยูโร ที่มีเหมือนบ้านเรามีแค่แมคฟิชกับบิ๊กแมค ที่เหลือเป็นอะไรหน้าตาประหลาดๆ สมตุ้ยสั่งชุด Big Tasty หน้าตาเหมือนแฮมเบอร์เกอร์ใหญ่ๆไส้ผักกับชีส น้ำตาปริ่มกับความแพงมหาโหดของมัน แต่เปิดถุงออกมาดูก็รู้ว่าทำไมแพง เบอร์เกอร์ชิ้นโคตรใหญ่ ใหญ่เท่าแผ่นซีดี หนาประมาณนิ้วนิดๆ สมตุ้ยเดินหาที่นั่งที่จะกลายเป็นที่นอนของคืนนี้ด้วย จนมาหยุดอยู่ที่ริมหน้าต่างบานใหญ่ที่มองออกไปเห็นลานจอดเครื่องบินกว้างขวาง วิวสวย แต่สมตุ้ยรู้สึกเหมือนแมวเห็นปลากระป๋องเล็กน้อย คือเห็นเครื่องบินอยู่ตรงหน้าแต่กรูขึ้นไม่ได้
ประมาณสองทุ่มกว่าฟ้าถึงมืด สมตุ้ยกระเดือกแมคไม่หมด เอาใส่ถุงวางไว้ที่พื้นกับขวดน้ำเปล่าที่ได้รับแจกฟรีมา อย่างน้อยเขาก็ดูแลดีในระดับหนึ่งนะ สมตุ้ยคิด มีเจ้าหน้าที่เอาน้ำกับขนมเล็กน้อยมาแจกเรื่อยๆ ห้องน้ำอะไรก็สะอาดดี คนไม่แออัดถึงกับต้องเบียดเสียดแย่งที่กัน แต่จะให้ดีช่วยพากรูกลับอังกฤษเร็วๆได้ไหม สมตุ้ยนั่งอ่านหนังสือ คิดโน่นนี่ไปจนเริ่มง่วง ประมาณสี่ทุ่มสมตุ้ยก็เข้านอน โซฟานิ่ม แต่เสือกมีที่เท้าแขนเด่ออกมาตรงกลาง จึงสามารถนอนได้แค่สองท่ามาตรฐานเท่านั้นคือ 1) ตะแคงเอาพุงหลบและ 2) นอนหงายลอดใต้ที่วางแขน ท่านี้อึดอัดโคตร
เที่ยงคืน สมตุ้ยสะดุ้งตื่นเพราะหนาวเท้ามาก มองไปรอบๆเห็นศพผู้เสียชีวิต เอ๊ย เพื่อนร่วมชะตากรรมเกลื่อนกลาดตามโซฟาและเก้าอี้ต่างๆ สมตุ้ยหันไปเห็นสาวฝรั่งคนหนึ่งถือผ้าห่มสีแดงมาสองม้วน เลยรีบถามแบบลืมอายว่าเอามาจากไหน สาวฝรั่งบอกว่าเขามีแจกผ้าห่มอยู่ตรงเกทจี สมตุ้ยไม่รอช้าคว้าเป้เดินไปเอาบ้างทันที โดยไม่ลืมทิ้งหนังสือกับถุงของกินไว้จองที่ เกทจีไกลกว่าที่คิด แถมเดินหลงทางอีก กว่าจะไปถึงผ้าห่มล็อตแรกก็หมดแล้ว ต้องเราเจ้าหน้าที่ไปเอาให้ใหม่ ในนั้นมีเตียงแบบทหารกางไว้เต็มไปหมด สมตุ้ยคิดเสียดายว่าไม่น่าทิ้งของไว้ตรงเมื่อกี๊เลย ขี้เกียจเดินไปเอาแล้วกลับมาใหม่ มันไกล เลยรับแค่น้ำดื่มกับผ้าห่มแล้วเดินกลับที่เดิม
ก่อนจะนอนรอบสอง สมตุ้ยมองท้องฟ้าสีดำสนิทไกลๆ เครื่องบินที่จอดสงบนิ่งอยู่ข้างนอก และคิดว่า...
...พรุ่งนี้ไปซื้อแปรงสีฟันดีกว่ากรู...
To be continued...

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ17 เมษายน 2553 เวลา 19:05

    หมูเราเป็นห่วงหมูนา ทางบ้านหมูก็เป็นห่วงเหมือนกันนะ ยังไงก็ขอให้หมูได้กลับอังกฤษไวๆน้าหมู ถ้ามีอะไรก็โทรหาเราได้ตลอด 24 ช.ม. ไม่ต้องคิดว่าเราหลับอยู่หรือทำอะไรอยู่โทรมาได้ตลอด ที่หมูโทรมาแล้วเราไม่ได้รับเพราะว่ามันไม่มีเสียงตอบกลับมา แล้วเราก็นึกว่าหมูใช้สไกโทรเลยมาออนเอ็มข้างล่างแต่ก็ไม่เจอ ยังไงจองตั๋วเสร็จแล้วโทรมานะ เรารออยู่

    ป.ล. เป็นห่วงจริงๆ
    ป.ล. สมตุ้ยคืออะไรเหรอหมู???
    ป.ล. ถ้าเป็นสมใจนึกพอรู้จัก

    ตอบลบ
  2. เอ๊ะ ทำไมพิมพ์แล้วแฮงค์ฟร่ะ
    นรา เป็นกำลังใจให้เธอ เป็นกำลังใจให้คุณ เป็นกำลังใจให้อยู่เส-มออออออ ให้ภูเขาไฟชื่อยาว หยุดพ่นควันเร็วๆโน๊ะ โลกยิ่งร้อนอยู่ยังจะปล่อยควันอีก เฟอะๆๆๆ

    กัมบัตเตะ ไฟโต๊ะนะคะ

    ตอบลบ