วันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Because Life is Random#1

ช่วงนี้ไม่ได้อัพบล็อกเลย
งานเยอะมาก ไม่คิดว่าสอนหนังสือมันจะยุ่งอย่างนี้
ทุกวันกลับบ้านมาก็พุ่งหลาวใส่เตียงนอน หลับกู้ก้าๆน้ำท่าไม่ได้อาบเป็นประจำ (อายจัง)
ทำงานมาไม่ได้ไปเที่ยวไหน หรือทำอะไรหนุกๆเหมือนตอนอยู่อังกฤษเลย ก้มหน้าก้มตาปั๊มเงิน รอกลับไปอังกฤษลูกเดียว
คิดถึงยอร์กมาก คิดถึงอังกฤษมาก
อยากขนครอบครัวไปไว้ที่โน่นให้หมด
อยากกลับไป แล้วไม่ต้องกลับมาอีกเลย
ทนหนาวหน่อย แต่ไม่ต้องทนกับอากาศร้อนเหงื่อตกกีบ
ไม่ต้องทนกับคนไทยใจแคบบางคน
.

วันนี้มาแบบปรัชญา
เพราะอารมณ์ไม่ค่อยดี ตลกแดกไม่ไหว
แน่นอน ปรัชญายอดนิยมมันต้องเป็นเรื่องความรัก
คนเราเนี่ยนะ เวลารักใครแล้วเนี่ย มันมีสองแบบ
แบบแรกคือรักเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ รักเป็นเจ้าชีวิต
ไอ้รักน่ะมันรักแน่ แต่รักก็ต่อเมื่อคนที่เรารักเขาเป็นอย่างที่เราอยากให้เขาเป็น วันใดที่เขาเผยด้านที่เรารับไม่ได้ออกมา เราก็พร้อมจะหันความรู้สึกด้านลบใส่เขาทันที

อีกแบบคือรักเพราะรัก รักมีพื้นฐานจากความปรารถนาดี
แม้ว่าความรักฉันท์คู่รักมันจะหมดไปแล้ว แต่ความรักแบบนี้มักจะทิ้งความรักแห่งความปรารถนาดีเอาไว้ด้วยเสมอ ปรารถนาที่จะเห็นคนที่เราเคยรักมีความสุข ปรารถนาที่จะเห็นเขามีชีวิตที่ดี

น่าเสียดาย คนส่วนใหญ่ยังก้าวไม่พ้นรักแบบแรก
เมื่อถึงวันแตกหักกันไป ก็เหลือแต่ความคับแค้น
ถึงเวลาที่ตัวละครเอกนามว่าอัตตา หรือชื่อภาษาอังกฤษว่าคุณ Ego จะออกมาแสดงบทบาท
ใครอัตตาน้อยหน่อย ก็ไม่คิดอะไรมาก จบก็จบ
ใครอัตตาสูงหน่อย จะเกิดอาการทุรนทุราย ทนไม่ไหว ต้องการการแก้แค้นเอาคืนอย่างมาก เพราะถือว่าอัตตากูโดนเหยียบย่ำ
เกิดเป็นการถากถาง เสียดสี อะไรร้ายๆที่เมื่อก่อนไม่เคยพูด วันนี้ไม่เคยกลัวที่จะปล่อยมันหลุดจากปาก

คนเคยรักแบบแรก คอยเฝ้าดูแต่ความฉิบหาย ความหายนะ ความลำบากของอีกฝ่าย รอหัวเราะเยาะและเหยียบย่ำด้วยความสะใจ
คนเคยรักแบบสอง อยากรู้ข่าวคราวความเป็นไป นึกถึงด้วยความปรารถนาดีเสมอ คอยติดตามข่าวดีของอีกฝ่ายเพื่อจะได้ดีใจอยู่เงียบๆ

น่าเสียดาย
อยากเป็นเพื่อนกันต่อไป
แต่มุมมองมันต่างกันเสียแล้ว
ก็ขอเป็นคนเคยรักแบบใหม่ แบบที่สามจะดีกว่าไหม
ทีวีไดเร็กขอเสนอ
คนเคยรักแบบที่สาม
"เราเคยรู้จักกันด้วยเหรอ"
อะไรดี อะไรไม่ดี คราวนี้ตัดทิ้งออกไปจากชีวิตให้หมด ไม่ต้องเก็บเผื่อเลือก
วิน-วิน กันทั้งคู่
ถ้าไม่อยากเจอกันอีกแล้วชาตินี้ ก็ไม่ต้องเจอ ต่างคนต่างอยู่
ส่วนฝ่ายที่ยังทำใจลำบากที่ชาตินี้จะไม่ได้เป็นแม้แต่เพื่อน ก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาคร่ำครวญหวนไห้ถึงความหลัง
ถือเป็นการให้เกียรติฝ่ายที่ไม่อยากเจอด้วยนะเนี่ย
เดี๋ยวจะหาว่ามีสิทธิ์อะไรมาเอาเขาไปคิดถึง
คิดถึงวันนี้เป็นวันสุดท้าย
ร้องไห้วันนี้เป็นวันสุดท้าย
แล้ววันต่อไป คนคนนี้ก็คือคนแปลกหน้าสำหรับเรา
วันต่อไปก็จะมีคนรู้จักลดลงไปอีกหนึ่งคน

เอาวะ
อย่างน้อย
ฝ่ายรีไซเคิลขยะของยอร์กก็คงดีใจ
ที่ได้กระดาษการ์ดดีๆจากเมืองไทยไปหมุนเวียนใช้
ถือว่าทำบุญ ชาติหน้าจะได้ไม่ต้องโดนทิ้งหรือทิ้งใครไง

1 ความคิดเห็น:

  1. เวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยน ว่าจะไม่แขวะเรื่องนี้แต่อ่านๆไปแล้วขำมากยิ่งมาเจอเอนทรี่นี้ยิ่งต้องขุดคุ้ย ไม่มีอะไรมากแค่อยากให้นางสาวนราย้อนกลับไปอ่านไดอารี่ของตัวเองช่วงก่อนมายอร์คและช่วงมายอร์คใหม่ๆ นางแบนชีครำ่ครวญไม่อยากเรียนนอกไม่อยากจากบ้านโน่นนี่นั่น ตอนนี้จะมาอพยพครอบครัวซะละ ฮาาาาาาาาาาาาา

    จากเหตุการณืข้างบนเลยชวนให้คิดว่าเออเนอะ บางทีเวลาเราทำอะไรที่ขัดใจๆผลลัพธ์มันอาจจะออกมาเก๋เริ่ดเกินคาดก็ได้

    ตอบลบ