วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2553

Going Solo in London #3

สวัสดีจ้า ขอเสียงหน่อย วู้ฮู้
ทำเป็นร่าเริงกลบเกลื่อน แง งานยังไม่เสร็จเลย
เดี๋ยวนี้นอนตีหนึ่งตีสอง ตื่นสิบโมงกว่าทุกวันเลย ทรุดโทรมอย่างมาก
อยู่ในห้องอุดอู้เหมือนหนูในรูตุ่น
กินอาหารแช่แข็งยัดใส่ไมโครเวฟแล้วอุ่น
มีใครได้ยินเสียงโหยหวนจากแดนไกลบ้างงง โฮๆๆๆ
......
วันที่สาม วันพุธที่หกมกรา ตื่นตั้งแต่เก้าโมงครึ่ง
ร่ำลาเพื่อนและพี่ๆป้าๆที่บ้านเรียบร้อยก็ขึ้นรถไฟใต้ดินสายเขียว ตรงจาก Ealing Broadway มาลง Tower Hill เช้านี้กะว่าจะไปลอนดอนทาวเวอร์ เสร็จแล้วก็ไปขึ้นรถไฟกลับยอร์กตอนบ่ายสองสิบห้า เดินทำเวลาสุดๆ
ลอนดอนทาวเวอร์ อะฮ้า มันก็คือสถานที่สุดดังที่มีคนเห็นผีของแอนน์ โบลีน เมียของเฮนรี่ที่แปดเดินอยู่บนหอคอยไง้ ใช้เป็นทั้งที่พักกษัตริย์ คุก แล้วก็โกดังเก็บชุดเกราะ เครื่องเพชร บลาๆๆ
ถึงแย้ว Tower of London มีหิมะขาวๆก็สวยไปอีกแบบนะ

ใหญ่โตเหมือนกัน เห็นแล้วนึกถึงวัดพระแก้ว แต่ของเขาเป็นอิฐทึมๆเยอะกว่า ก็เข้าใจว่าบ้านเมืองเขาอากาศหนาว คงจะสร้างให้โปร่งๆแบบของเราไม่ได้มั้ง นราจองตั๋วไว้ล่วงหน้าทางเน็ทแล้วค่ะ ค่าเข้า 13.50 ปอนด์ โคตรแพง เดินไปรับตั๋วเสร็จก็ลุยกันเล้ย
ตรงทางเข้ามีตาลุงยืนตรวจกระเป๋าผู้เข้าชมอยู่ นราแบกเป้ใส่เสื้อผ้าเข้าไปด้วยเขาก็เลยขอตรวจ ก็เข้าใจว่าต้องเข้มงวดเพราะเป็นพื้นที่ราชฐาน แต่แม่ง ควักเสื้อผ้ากรูออกมาหมดเลย ถ้ากางเกงในใช้แล้วหล่นออกมามรึงจะทำยังไง พอเจอสายชาร์จกล้องก็ถามใหญ่ว่านี่อะไรๆ ตื่นเต้นไปได้เด่อ ที่น่าเจ็บใจคือพอควักเสื้อผ้าออกมาเสร็จแล้วมันไม่เสือกเก็บให้ดิ ฟายยย จับยัดๆเป็นก้อนๆ แล้วผลักกระเป๋าเราไปอีกทาง กว่านราจะม้วนจะยัดกลับเข้าไปให้กระเป๋ามันรูดซิปปิดได้ก็ตั้งนาน
.
ข้างในจ้า
คนเยอะเหมือนกันนะ
เข้าไปแล้วก็นึกถึงว่าเมื่อหลายร้อยปีก่อนมันจะเป็นยังไงน้อ หินที่สร้างกำแพงนี่มันอยู่ตรงนี้มากี่ปีแล้วน้อ เกิดอะไรในนี้บ้าง ฮ่า ฟุ้งซ่านใช้ได้

เขาจะมีบันไดให้ขึ้นไปเดินดูบนกำแพงป้อมตามทาง ทะลุผ่านทาวเวอร์ต่างๆไปเรื่อยๆ จากตรงนี้มองเห็นสะพานนี่ด้วย โอ๊ยลืมชื่อไปแล้วอ่า แต่ที่ดีใจที่ได้เห็นก็เพราะว่ามันเป็นสะพานที่เขาถ่ายหนังเรื่อง เดอะมัมมี่ 2 ไง้ ฮ่าฮ่า โคตรไร้สาระเลย ตรงนี้เมื่อก่อนถือว่าเป็นวิวที่ดีที่สุด ห้องนอนของกษัตริย์ก็จะมองออกมาเห็นวิวริมแม่น้ำนี่แหละ

เห็นตึกแตงกวาด้วย วู้ว มันคืออะไรไม่รู้ จำได้ว่าเคยอ่านในรีดเดอร์ไดเจสต์
สวยดีค่ะ เห็นจากที่ไกลๆ
ที่ดังอีกอย่างของทาวเวอร์ออฟลอนดอนก็คือ กา ใช่แล้ว อีกา ดำๆ ก๊าๆ
เขาเรียก Ravens ไม่ใช่ Crows คิดว่าเพราะมันตัวใหญ่กว่าเยอะ จิกทีลูกตาหลุดแน่ กาที่นี่ปีกแหว่งค่ะ เขาตัดมันไม่ให้มันบินหนีไปที่อื่น
กาพวกนี้ไม่ได้มาอยู่ตามใจชอบนะคะ แต่เป็นกาที่รัฐบาลเลี้ยงไว้เลยแหละ เพราะมีตำนานว่าที่ลอนดอนทาวเวอร์ต้องมีอีกาอยู่เสมอ ไม่งั้นทั้งราชบัลลังก์และบ้านเมืองจะล่มสลาย อีกาต้องมีอยู่สิบตัวเสมอค่ะ และมีตำแหน่ง Ravenmaster สำหรับคนดูแลกาให้เป็นพิเศษเลยอีกด้วย
ประติมากรรมดุกดุ๋ยเหล็กหล่อ จำลองตำแหน่งนักรบเวลาออกศึกป้องกันปราสาท
ทำไมนรารู้สึกว่ามันน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้อ่า
ข้างในแต่ละหอ บางทีก็มีพวกหมวกเหล็ก หน้าไม้ให้ลองถือด้วยละ

จำชื่อหอคอยไม่ได้อ่ะ โฮๆ ขอโทษ มันผ่านมาหลายวันแล้ว แถมต้องรีบเดินแบบทำเวลาด้วย เพราะนัดเจอเพื่อนสมัยมัธยมไว้ตอนเที่ยงครึ่งค่ะ แต่จำได้ลางๆว่ามันใช้เป็นคุกเก่านะ ข้างในก็เป็นอิฐเก่าๆทึมๆเหมือนที่อื่นๆทั่วไป แต่ตามผนังยังมีลายมือนักโทษที่สลักอะไรไว้เยอะแยะ เขาก็รักษาเอาไว้ให้ดูนะ ส่วนใหญ่เป็นข้อความสลักชื่อตัวเองแล้วก็ข้อความเชิงศาสนา

สงสัยจังเอาเอาอะไรสลักหว่า ช้อนหรอ ลายเส้นคมกริบเชียว

นี่ White Tower ค่ะ
สัญลักษณ์อีกอย่างของลอนดอนทาวเวอร์
William the Conqueror สั่งสร้าง หินที่ใช้สร้างสั่งมาจากฝรั่งเศส ส่วนที่ได้ชื่อว่าเป็นไวท์ทาวเวอร์เพราะพระเจ้าเฮนรี่ที่สามสั่งให้กัดสีผนังหินด้านนอกทั้งหมดให้ขาวสวย ปัจจุบันเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงพวก Armoury ชุดเกราะคน เกราะม้า ชุดออกศึกของพระเจ้าเฮนรี่ที่แปด อุปกรณ์ต่อสู้ในสงคราม
จากพิพิธภัณฑ์นี้ทำให้เราได้รู้ว่า ตัวจริงของพระองค์ ทรงบึ้บบั้บมาก
จริงๆนราเข้าไป Jewellery House ด้วย แน่นอนห้ามถ่ายรูป
ออกมาตาพร่าพรายเดินไม่ตรงทางกันเลยทีเดียว
โอ้ยโหยย เพชร ทอง ล้วนๆ ปิ๊งปั๊งเปล่งปลั่งเต็มไปหมด
ข้างในจัดแสดงพวกมงกุฎ คฑา ดาบ เสื้อคลุมทองคำ
เพชรยอดมงกุฎเม็ดเท่าไข่ไก่ จริงๆไม่ได้อุปมา อุปลักษณ์ใดๆทั้งสิ้น
สมแล้วที่เขาบอกว่าประตูเซฟหนักข้างละสองตัน
.
ก่อนจะออก หิมะก็เริ่มลงบางๆ
แต่นราไม่ยอมกลับโดยไม่ได้เห็น Bloody Tower ร้อก
มันเป็นหอคอยที่ใช้ขังบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์เยอะแยะ ตายไปก็เยอะแยะ อย่าง Sir Walter Raleigh คนที่เป็นกวีก็โดนขังตั้ง 13 ปี ที่เขาบอกว่าถ้าคนนี้ไม่ตายก่อนนะเชคสเปียร์ไม่ได้เกิดหรอก
ริชาร์ดที่สามก็มีข่าวลือว่าคุมขังหลานที่มีสิทธิ์ในการขึ้นครองราชย์ไว้ที่นี่จนหลานตายไปตัวเองถึงได้ขึ้นครองราชย์แทน
Traitor's gate ประตูสำหรับนำตัวนักโทษเข้ามา
แต่ก่อนใช้สำหรับเป็นทางน้ำไหลสมัยพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่หนึ่ง แต่ต่อมาก็กลายเป็นประตูรับนักโทษที่มาทางเรือผ่านแม่น้ำเทมส์ เห็นเขาว่าบางทีก็มีการเอาหัวนักโทษที่ตัดคอแล้วมาเสียบประจานบนเหล็กแหลมๆด้วย แอนน์ โบลีนผู้โด่งดังก็ผ่านประตูนี้มาเหมือนกัน ก่อนจะถูกประหารที่ Tower Green

ยังดูไม่ค่อยทั่วเลย แต่ต้องไปแล้วเพราะนัดกับเพื่อนไว้ นัดเจอกันที่ Tottenham Court Road เพื่อนบอกจะพาไปกินร้านเกาหลี แต่อุแม่เจ้าเอ๊ย โผล่ขึ้นมาจากใต้ดิน ก็เจอแบบนี้ มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ปกติลอนดอนหิมะไม่ตกไม่ใช่เรอะ

หิมะตกหนักมาก แถมเพื่อนมาช้าด้วย นราก็ยืนรอด้วยความกระวนกระวายใจ กว่าเพื่อนจะมาก็เกือบบ่าย สรุปมีเวลากินข้าวกันแค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แทนที่จะได้ไปกินร้านเกาหลีก็กลายเป็นแมคโดนัลด์แทน แต่ก็ยังดีได้เจอเพื่อนที่ไม่ได้เจอมานานนะ กินเสร็จนราก็รีบขึ้นรถไฟไปคิงส์ครอสทันที แต่แหมโว้ย หิมะตก รถไฟช้า รถไฟไม่วิ่งโว้ย กว่าจะไหวตัวทันเปลี่ยนสาย เวลาก็ลดน้อยลงทุกที
(จากตรงนี้ไปให้ตัดภาพเข้าโหมดสโลโมชั่น)
นราโผล่ขึ้นมาจากรถไฟใต้ดิน-นรามองหาชานชาลา-โอ้โน่ว รถไฟกรูไม่ได้อยู่คิงส์ครอส แต่มันอยู่เซนต์แพนคราส-นราวิ่งหาชานชาลา-เจอแล้วมีโลโก้รถบัสที่เราขึ้นขามาด้วย-นราเหลือบมองนาฬิกา ฉิบหายบ่ายสิบหกแล้ว รถออกบ่ายสิบห้า-นรากระโจนเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ ถามว่า "Excuse me, where is the train for Megabus passengers?"-เจ้าหน้าที่หันมาตอบ "อิ๊ทส์ ก๋อน"-It's gone มันไปแล้วโว้ยยย
แอร๊ยยย ตกรถไฟ นาทีเดียวมรึงก็ไม่รอหรอเนี่ย เครียด
สรุป ต้องร่อนเร่กลับไปหาเพื่อน ขอนอนอีกคืนเด่ะ แถมเสียตังค์ค่ารถไฟใหม่ 23 ปอนด์ ฮือๆๆ
นี่แหละเรื่องตื่นเต้นที่บอกค่ะ
.
ไหนๆก็ตกรถ ต้องอยู่อีกคืนแล้ว นราเลยไปที่ที่ยังไม่ได้ไปซะเลย
National History Museum ค่ะ ลงสถานี South Kensington บัตรรถไฟแบบใช้วันเดียวนี่เจอนราใช้แบบโคตรคุ้มอ่ะ 6.30 ปอนด์นี่ใช้จนบัตรเจ๊งไปรอบต้องไปขอให้เขาออกบัตรใหม่
วันนั้นเข้ามีลานไอซ์สเกตเปิดให้บริการด้วย แต่เราเล่นไม่เป็นขอดูเฉยๆแล้วกัน เห็นหนุ่มสาวจูงมือกันเล่นสเกต กระดี๊กระด๊า ทำเป็นหกล้ม อ๊าย ทับกันหวานชื่น ยึ่ย เห็นแล้วอยากเอาน้ำร้อนราดแม่ง (อิจฉาตาร้อน เป็นนิสัยที่ไม่ดีนะคะเด็กๆ Don't try this at home)
พิพิธภัณฑ์นี่เข้าฟรีไม่เสียเงินจ้า ยกเว้นส่วนที่เป็นนิทรรศการภาพถ่ายสัตว์ป่า

บอกตามตรง British Museum น่าสนใจกว่าเยอะ ที่นี่เขาเน้นพวกเกี่ยวกับโลก แผ่นดิน ระบบนิเวศน์อะไรทำนองนี้มากกว่า แต่ป๋าน่าจะชอบ มีพวกแร่อัญมณีเยอะแยะเลย นราก็ดูผ่านๆแหละเพราะไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้ แต่คราวนี้เดินสบายหน่อยเพราะเอากระเป๋าไปฝากไว้แล้ว เสียไปอีกปอนด์ยี่สิบ เด่อ
.
นราชอบห้องเกี่ยวกับสัตว์มากฝ่า
ห้องแรกเป็นห้องนก นกสตัฟฟ์เยอะมาก บางตัวก็น่ากลัวดี แต่งานเขาทำดีมากนะคะ บางตัวเหมือนยังมีชีวิตอยู่เลย
ต่อไปเป็นห้องฟอสซิล ถึงบัดนี้นราก็ยังไม่รู้ว่าที่เขาโชว์ๆไว้อ่ามันของจริงหรือเปล่า เห็นติดป้ายไว้ว่าซื้อมาจากไหนเมื่อไหร่ด้วย ก็น่าจะเป็นของจริงละเนอะ โครงกระดูกใหญ่ๆนั่นเขาว่าเป็นโครงสล็อธโบราณค่ะ ใหญ่ค่อดๆ
ทำไม้ทำไมเวลาเข้าพิพิธภัณฑ์ นราเข้าผิดด้านทุกทีเลยให้ตายเถอะ เดินมาเรื่อยๆถึงรู้ว่า อ่อ ข้างหน้ามันอยู่ตรงนี้นี่เอง โถงสวยมากกกก มีโครงกระดูกไดโนเสาร์คอยาวตามแบบฉบับพิพิธภัณฑ์ทั่วไป
แต่นราประทับใจกับโถงจริงๆ ศิลปกรรมการก่อสร้างนราไม่รู้หรอกเขาเรียกว่าอะไร แต่สวยจังเลย ใหญ่โตอลังการมาก ยิ่งตรงบันไดทอดขึ้นไปชั้นสองนะแจ่มสุดๆ เสียดายถ่ายรูปมาไม่ได้ ติดอีญี่ปุ่น แม่งถ่ายกันอยู่นั่นน่ะไม่เลิกไม่รา นราเลยช่างมันไว้มาใหม่ก็ได้
บนเพดานมีภาพวาดดอกไม้ต่างๆด้วยนะ แต่ละช่องไม่ซ้ำกันเลย ให้นราเอาเต๊นท์มากางนอนดูดอกไม้บนเพดานทั้งคืนยังได้เลยนะเนี่ย
ก่อนกลับเสียตังค์ซื้อโปสการ์ดมาอีกสี่ใบ สวยดี
และก่อนกลับก็แรดไปไชน่าทาวน์อีกแล้ว ฮ่า กินโฟร์ซีซั่นอีกแล้ว
แต่ไม่ได้กินเป็ดเพราะงบหมด เอาไปซื้อตั๋วหมดแล้ว กินแต่บะหมี่เกี๊ยวกุ้งอย่างเดียวแล้วกลับบ้านไปหาบี ซิกๆ ซิกๆ บีขาเพื่อนกลับมาแล้ว
เช้าวันต่อมาก็เหมือนรีเพลย์เทปใหม่ บีไปส่งที่สถานี กอดร่ำลากัน แล้วนราก็กลับสู่โลกใบเดิมที่ยอร์กค่ะ
...และตั้งแต่นั้นมา นราก็ไม่ได้ออกจากห้องอีกเลย โฮๆๆๆ...
.
ใบตอง
วันหลังพานราไปกินจิคะ
เมื่อไหร่จะได้ดูรูป
.
มุกกุ
โหยฟิตใหญ่เลยนะคะ ขอให้เพรียวสวยสมใจไวๆ อย่าลืมเอารูปให้ดูด้วย นราเองก็ผอมลงนิดหน่อย แต่เป็นผอมโทรมค่ะ ซิกๆ
.
แนนโกะ
รายงานยังอยู่ค่ะแต่ไม่รู้อยู่มุมไหนของบ้าน
เรื่องทิป นราก็ไม่รู้เหมือนกัน ทุกวันนี้ก็หน้าด้านไม่ให้ทิปไปเรื่อยๆค่ะ
.
มะแอ้
ไม่ต้องเสียใจไป เดี๋ยวอุ้ยเรียนจบกลับไปแล้วเราไปแรดที่ฮ่องกงด้วยกัน เดี๋ยวพาไปจับตูดมิกกี้เม้าส์นะ ช่วงนี้อุ้ยยุ่งมากๆเลย ขอโทษทีน้าไม่ได้โทรหา เดี๋ยวเคลียร์งานต้นเดือนนี้หมดแล้วจะโทรหาแน่ไม่ต้องห่วงจ้า
.
ตาหมู
ไม่อยากเม้นท์มั่งหรอไง

7 ความคิดเห็น:

  1. ไปหลายที่จังเลย ไม่เหนื่อยหรอคะ
    ไอ้เรื่องพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 นั่น เราก็เรียนแหละ
    เล้วเลว เลวได้ใจจริงๆ

    ว้าย รูป...ขอหารูปหนังหน้าดีๆก่อนนะนรา

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ15 มกราคม 2553 เวลา 22:26

    เมน เม่น เหม็น ให้หมู เอารูป รูปเยอะๆ สวยมากเลยหมู ถ้าได้ไปเที่ยว
    กับหมูก็คงจะดี อยากจับหิมะ อยากลงไปไถด้วย เอาตัวไปกลิ้งบนหิมะ
    ยังไงก็ตั้งใจทำงานจะได้เสร็จไวๆ แล้วรีบกลับบ้านนะ

    ตอบลบ
  3. นะราาาาาาาาา
    เราอัพบล็อกแล้วนะ ตามไปดูรูปเร้ววว 555

    ตอบลบ
  4. นรา บ้านเมืองมันทึมๆโน๊ะ แต่ก็สวยนะ สวยแบบทึมๆ
    ทำไมบล็อกนี้ไม่มีของกินอ่ะคะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
    อย่าลืมไปดูบล็อกตองนะ อุตส่าห์อัพเพื่อนราเลยเนี่ย

    ตอบลบ
  5. มุกกุแห่งอณาจักรอู้วฮัชช่าๆ17 มกราคม 2553 เวลา 01:05

    เห็บแบบนี้แล้ว นึกถึงชุดฟูฟ่องสมัยก่อน ที่ผู้หญิงเค้าต้องใส่ไอ่ที่มันรัดติ้ว จนหน่มน้มทะลักนะคะ
    มันใช่สมัยเดียวกันอะเป่า ฮ่าๆๆๆ

    เมืองสวยมาก ชอบทุกที่ที่นราพาไป

    .........
    วันนี้เม้นท์สั้นๆนะคะ หมดแรง
    เหนื่อยมากเลยคะ ขนาดแค่ถ่ายรวมรุ่นนะคะ
    เดินส้นสูง ชุดครุยดำ ยืนกลางแดดนานๆแล้วเพลียสุดยอดเลยคะนรา

    ตอบลบ
  6. พี่อุ้ยยยย

    หวัดดีค่า หุหุ ตอนแรก เม้นไม่เป็น....

    งม หาตั้งนาน แหน่ะ โฮะๆๆๆๆ


    อยากไปเที่ยวมั้งอ่า

    นี้ๆๆๆ ใกล้ วันเกิด เอม แล้วว ตื่น เต้นนๆๆๆ

    กรั่ก ๆๆ ๆๆๆ

    ตอบลบ
  7. อุ้ย.....มะ...มะแอ้ อยากเม้นท์มั่ก ๆ เลย แต่มีภาระกิจที่ต้องรีบไปทำก่อน แล้วค่อยกลับมาเม้นท์นะจ๊า
    ******
    แล้วจะรอให้อุ้ยพามะแอ้ไปจับตูดมิกกี้เมาส์ที่ฮ่องกงน๊า อย่าลืมสัญญาล่ะ
    *****
    วันนี้เมนท์สั้น ๆ แต่ก็สนุกไปกับทัวร์ของอุ้ย กับเหตุการณ์ตื่นเต้นที่ลอนดอน คิดเสียว่า ตกรถไฟก็ดี ทำให้ได้ไปเที่ยวอีกที่หนึ่ง ไปก่อนนะ

    ตอบลบ