วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2552

This Kind of Pain Shouldn't Exist in the World!


ต้องขอโทษด้วยหากเอนทรีก่อนหน้าไม่ใคร่จะเริงรื่น
ทำให้เพื่อนๆที่เข้ามาเยี่ยมเยียนต้องอ่านสิ่งที่ไม่สำราญตาเข้า
ตอนนี้โอเคแล้วค่ะ ขอบคุณมากเลยสำหรับความเป็นห่วงของใบตองและมุกกุ
แต่ยังไง ตอนนี้ก็ยังเจ็บปวดเกินบรรยายอยู่ดี
เจ็บแบบทนไม่ไหว ทำไมเราต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วย
ถึงกับน้ำตาไหล หมดเรี่ยวแรงไปเลย
เจ็บจนหมดกำลังใจ ไม่ไหวแล้ว
.
.
.
.
ทำไมเราต้องผ่าฟันคุดด้วยโว้ยยยยยยย

เรื่องของเรื่องคือ นราเคยเอกซเรย์ฟันแล้วหมอบอกว่ามีฟันคุดสี่ซี่
แต่มันไม่เจ็บหนิ ก็เลยไม่ใส่ใจ ช่างมัน
ทีนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว ไอ้ซี่ล่างซ้าย มันก็สาระแนโผล่หัวปุ๊ดขึ้นมานิดนึง
มาพร้อมกับอาการเจ็บตุบๆ เป็นจังหวะ ปึดๆ ปึดๆ
ก็เลยเริ่มกลัวขึ้นมา
กอปรกับคนอื่นๆ ขู่แล้วขู่อีกว่า

"ไปผ่าซะ เกิดไปปวดที่อังกฤษจะทำยังไง แพงนะ"
"ไม่ผ่าตอนนี้เดี๋ยวเป็นหนองนะ"
"ทิ้งไว้จนมันผุแล้วจะยิ่งเจ็บนะ ไปเอาออกเถอะ"

นราก็เลยหลวมตัว รับนัดหมอเพื่อผ่าฟันไปได้ไงไม่รู้
.............................

วันนี้นราก็ขอลางานมาเพื่อพบหมอฟัน
กลัวมาก กลัวมากๆ มือเย็นไปหมด เพราะได้ฟังประสบการณ์สยองมาเยอะ
เข้าห้องไป หมอก็ชี้ๆ ว่า เออ มีฟันคุดสี่ซี่นะ ด้านละซี่
วันนี้ผ่าสองซี่ก็แล้วกัน

หม๊อออออออออ ไม่ถามหนูหน่อยเหร้อออ
สองซี่น่ะ สองซี่เชียวนะ ถือว่าไม่ใช่ฟันตัวเองใช่ไหมเนี่ย ห๊า
แต่สายไปแล้ว ก็ขึ้นเตียง (เขียง) ไปแล้วนี่ ผู้ช่วยพยาบาลก็เร็วจนน่าใจหาย
ขนเครื่องมือผ่าตัด ทั้งมีด คีม เข็ม ที่กรอ มาวางเตรียมอย่างรวดเร็ว

ไปๆ มาๆ กลับกลายว่าการฉีดยาชา เป็นอะไรที่เบบี๋ที่สุด
โดนไปสองเข็มมั้ง ตรงเพดานปากนี่เจ็บสุดยอด เจ็บฉิบหาย
แต่พอปากมันชา เราก็ไปดิ๊งๆมันเล่น เพลินดี เหมือนไม่ใช่ปากตัวเอง
จิ้มเหงือกก็ไม่เจ็บ โอ้ว อารมณ์ตอนนี้คือมาเล้ย ไม่เจ็บ ไม่กลัวแล้ว
แต่
แต่
แต่
ยาชาไม่ได้แปลว่า ไม่รู้สึกอะไรเลย
ตอนที่หมอเขาเอามีดแหวกเหงือก รู้สึก แต่ไม่เจ็บ
ตอนที่เขาเอาที่กรอ กรอเนื้อเหงือกออกไป แล้วก็ขูด แคว่กๆๆๆ ก็รู้สึก แต่ไม่เจ็บ
รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นปลาบนเขียง โดนขอดเกล็ด แคว่กๆๆ
แต่ตอนที่หมอเอาอุปกรณ์อะไรสักอย่าง แซะลงไปในนั้น
เพื่องัด ดัน และกระชากไอ้ฟันเจ้าปัญหาออกมานั่น
สุดโคตรของความปวดเลย
คือไม่เจ็บไง แต่ปวดอ่ะ ปวดตรงรากฟัน แปล๊บขึ้นขมับ
ทั้งมือทั้งเท้า หงิกงอเหมือนคนเป็นง่อยไม่มีผิด
นักศึกษามาเห็นเราตอนนี้นี่ มีหวังได้ฮากันขี้แตก
............................

ขอตัดภาพหลังผ่านพ้นวิบากกรรม
หมอกำลังร้อยเหงือกเราด้วยไหมสีดำสวยงาม ชื้ดๆ ชื้ดๆ
รู้สึกอีกแหละ ไม่เจ็บ แต่สยอง รู้สึกถึงด้ายที่มันกำลังร้อยผ่านเนื้อเรา
เสร็จเรียบร้อย นราเดินหน้าบวมไปจ่ายตังค์
พบว่าต้องมาผ่าอีกสองซี่ที่เหลือเดือนหน้า โอ๊ยยย
มาแล้วหลอกหมอให้อุดฟันแทนได้ไหมเนี่ย

แล้วทีนี้ เรื่องสนุกๆ ก็เกิดขึ้น
เมื่อยาชาเริ่มหมดฤทธิ์ตอนอยู่บนรถไฟฟ้า สถานีอโศก
จากปวดมึนๆ ก็เริ่มปวดตุบๆ แล้วก็ปวดร้าวไปทั่วกระโหลกด้านซ้ายอย่างรวดเร็ว
นรากัดผ้าก็อซในปากแน่น ยิ่งกัดยิ่งปวด โอ้วสะจายจริงๆ
พอถึงโลตัสที่สถานีอ่อนนุช ก็ปวดจนทนไม่ไหว
ปวดจนจะเป็นลม ตัวเกร็งจนสั่นไปหมด ไม่ไหวแล้วน้ำตาไหลเลย
นราน่ะบอบบางนะจะบอกให้
เดินกุมหน้าบวมๆ หน้าหงิกเหมือนโบผูกกล่องของขวัญ
ให้ชาวบ้านร้านตลาดเขาสงสัยกันว่าอีนี่เป็นอะไร
คุณแม่ก็แสนดี ให้กำลังใจตลอดเวลา
ส่วนน้องสาวก็ยิ้มย่อง "พุ่ย (พี่+อุ้ย = พุ่ย) พูดไม่ได้ ก็ด่าเอมไม่ได้อะดิ"
รอยยิ้มของมันนั้นแฝงความนัยที่น่ากลัวไว้เหลือเกิน
............................

ถึงบ้าน นราพุ่งไปกินยาก่อนเลย มือสั่นเหมือนเป็นโรคพาร์กินสัน
เหมือนคนติดยา จะลงแดงตาย ไม่ไหวแล้วๆ
คายผ้าก็อซออกมา ไม่มีสีแดงนะ มีแต่สีม่วงมังคุด
คือเลือดมันซึมแล้วซึมอีกจนโชกไปหมด น่ากลัวมาก
พอจะกินยาก็มือสั่น ทำยาหล่นอีก ฟายจริงๆ

ตอนนี้ก็เหมือนคนพิการ
ปวดหน้าครึ่งซ้ายไปหมด กลืนน้ำลายทีแสนลำบาก
เพราะมันเจ็บ และเป็นน้ำลายรสเลือด
เมื่อไหร่จะพ้นจากสภาพนี้หนอกรู ดีนะที่เมื่อเช้ายัดซิสเลอร์และไอติมจนเต็มที่
ไม่งั้นคงไม่ได้กินอะไรดีๆ ไปอีกนาน เพราะตอนนี้โจ๊กคนอร์จะเป็นเพื่อนสนิทของเรา
...........................

ใบตองคะ
ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจ
ก็ผิดใจกันนิดหน่อยนั่นแหละค่ะ
เคยผ่าฟันคุดแมะคะ

มุกกุ
ดีใจจังที่มุกแวะมา
การบ้านเยอะเหรอ สู้ๆน้า
ช่วงนี้นราก็ยุ่งกับเรื่องเรียนต่อเหมือนกัน
ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย ขอบคุณสำหรับกำลังใจด้วยค่ะ

3 ความคิดเห็น:

  1. มุกกุเครียดสอบจนหัวฟู15 สิงหาคม 2552 เวลา 11:48

    ฮ่าๆๆ ดีใจที่มันเป็นเรื่องฟันนะคะ
    แต่ว่าเรื่องผ่าฟันนี่ มุกกุก็ขอบายคะ
    นี่ก็ต้องผ่าเหมือนกัน แต่แค่ซี่เดียวนะ (ที่เหลือถอนออกไปแล้ว)
    มุกกุก็หลบหนีคุณพี่หมอ(รู้จักกัน)ประจำของมุกอยู่คะ หลบมาสามปีหว่าๆแล้ว
    ข้อหาคดีฟันเอนแล้วไม่รีบถอน
    ตอนนี้ทราบข่าวว่าคุณพี่หมอก็หายตัวไปเรียนต่อเช่นกัน ฮ่าๆๆๆ มุกคงรอดตัวไปอีกนานอยู่
    แต่ถ้าจำเป็นต้องถอนจริงๆ มุกก็จะรอพี่หมอคะ เพราะคนอื่นน่ากลัวสราดดดดดด

    พี่หมอของมุกใจดี แล้วก็มือนิ่งมาก ถอนฟันคุณน้องเบานิ่ง ยังกะเจียระไนเพชร กแต่ถึงจะอย่างนั้นมุกก็กลัวอยู่ดี

    อ้อ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะคะว่าพี่หมอนี่เป็นผู้ชาย พี่หมอของมุกเป็นผู้หญิงนะคะ รู้จักกันมาตั้งแต่พี่เค้าเรียนที่มศว.แล้ว ตั้งแต่เป็นนิสิตอยู่เลย
    จนพี่เค้าจบ ฝึกงาน มุกก็มีโอกาสได้ไปตรวจฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน กับพี่เค้านะคะ ตั้งแต่ทำกับพี่หมอคนนี้แล้ว มุกกรีดเลือดสาบาญไว้ว่าจะไม่ให้หมอฟันคนอื่นมาวุ่นวายกับปากมุกอีกเลยคะ ฮ่าๆๆ (มีอดีตปวดร้าวฟังใจ เรื่องขูดหินปูน)


    แต่ก็นะคะ ถึงจะเจอหมอทีดีแล้ว แต่มุกก็ยังกลัวเรื่องถอนฟันอยู่นะคะ นี่ก็ปล่อยมันเอนนอนมาหลายปีละ แอบกลัวว่าฟันที่เคยจัดไว้มันจะล้มซะก่อนนะคะ

    .................

    ขอให้นราหายปวดในเร็ววันนะคะ

    คิดถึงเสมอ แม้วันมามาก ฮ่าๆๆๆ
    ไปละคะ วันจันทร์กับอังคาร มีสอบมิดเทอม
    ป่านนี้ยังอ่านหนังสือไม่ถึงไหนเล๊ยยยย
    ไปละค๊า บิ้ว

    ตอบลบ
  2. ฮือออออ เค้ากลัวววววว
    ไม่เคยผ่าฟันคุดอ่ะ
    โดนถอนฟันยังไม่เคยเลย
    ประสบการณ์เลวร้ายกับหมอฟันมีแค่ขูดหินปูน T__T

    ไม่อ๊าววว
    นราเล่าซะเห็นภาพเลยอ่ะ

    ยังไงก็หายเร็วๆนะ
    กินอะไรไม่ได้ก็ถือซะว่าลดน้ำหนักไปในตัวไงคะ

    ตอบลบ
  3. ตนนี้เป้นยังไงมั่งอ่ะนรา....
    ยังปวดมากอยู่มั๊ย??? ขอให้หายไวๆเน้ออออ
    แกก็คิดซะว่ามันจะทำให้ผอมลงเยอะๆ
    หน้าเพรียวลง เหนียงหายแล้วกัน
    จะได้ไม่ต้องไปคิดมาก เหอะๆๆๆ

    หวานเคยผ่าออกนะ ฟันคุดอ่ะ
    แต่จะเรียกว่าผ่าก็ไม่ได้แฮะ เรียกว่าถอนน่าจะดีกว่า
    เพราะว่ามันยังไม่ถึงวัยที่ต้องเอาออก
    แต่หวานก็บังคับขู่เข็ญเอามันออกก่อน เพราะกลัวต้องผ่านั่นแหละ

    แต่ปัญหาของหวานคือ หมอเขาเป็นเกย์...และท่าทางเขาอาจะไม่ชอบชะนี ฮ่าๆๆๆ
    (ล้อเล่นนะอันนี้ - -")
    จะว่าหมอมือเบาก็เบานะ คือคงเบากว่าคนอื่น
    แต่สำหรับหวาน เหมอืนเขามาลงก่อสร้างในปากอ่ะ
    คือมันมีทั้งขุม เจาะ เซาะ แซะ ดึง ทึ้ง.....
    และที่สำคัญ เห็นด้วยกับแกว่ายาชาไม่ได้ช่วยไรเลย - -"

    ตอบลบ