วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553
Thunderstorm
วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
Curry Night
.
วันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
Afternoon Tea at Betty's
เดือนนี้ก็ปาเข้าไปเดือนที่สิบแล้ว
ไม่เคยสักทีที่จะได้ลองดื่มชายามบ่ายแบบผู้ดีอีงกฤษกะเขา
ไปแต่ร้านอาหารจีน ร้านติ่มซำสนองตัณหาตัวเอง
พอดีว่าเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา แดน เพื่อนคนอเมริกันที่เคยมาเรียนที่ยอร์กเทอมนึงแล้วก็กลับนิวเจอร์ซีย์เขากลับมาเที่ยว นราก็ไปรอรับที่สถานีรถไฟ แล้ววันนี้ก็เลยนัดกับเพื่อนๆหลายๆคนไปเป็นผู้ดีอังกฤษที่ร้านชาที่ดังที่สุดในยอร์ก เบ็ตตี้ ที รูม
เคยพูดถึงตอนมาถึงใหม่ๆ ไปหาอ่านเอาเองนะขี้เกียจไปย้อนดูว่ามันอยู่เอนทรี่ไหน อิอิ
ปกติแถวต้องยาวตวัดหางออกมานอกร้าน ประหนึ่งว่าเป็นชาเทพ สโคนทิพย์ กินแล้วเขียนวิทยานิพนธ์เสร็จในสองสัปดาห์
แต่ถ้ามันกินแล้วเสร็จได้เร็วอย่างนั้น ชุดละพันปอนด์นราก็เอาค่ะ
ทุกคนเรียกเบ็ตตี้ว่าเป็นร้านชา แต่จริงๆมันก็เป็นเหมือนคาเฟ่อะนะ
คือไม่ได้มีแต่ชา แต่มีขนมที่ไว้ทานกับน้ำชา แล้วก็อาหารเบาๆไม่หนักมากให้เลือกเยอะเหมือนกัน ทั้งแซนด์วิช สลัด แล้วก็ย่างๆแบบบิสโทร
พนักงานก็เลยพาไปนั่งชั้นใต้ดินแทน ได้บรรยากาศสลัวๆหรูหราไปอีกแบบ
ชอบชุดพนักงานอ่ะค่ะ เป็นเสื้อเชิ้ตขาวติดกระดุมถึงคอ มีกระดุมทองแบบป้าแก่ๆโบราณติด แล้วก็ผ้ากันเปื้อนสีดำ ส่วนใหญ่เป็นป้าแก่ๆ เท่าที่เห็นไม่มีพนักงานเอเชียหัวดำเลยนะ สงสัยเดี๋ยวเสียบรรยากาศมั้งเนอะ
เมนูน่ารักมากมาย
นราก็ไม่ค่อยรู้จักหรอก ชาเชออะไรชื่อประหลาดๆ
แต่เอาวะ กระเหรี่ยงไทยวันนี้จะขอเป็นผู้ดีจิบชาไฮโซซะหน่อย ว่าแล้วก็สั่ง "อะ โพะ ออฟ ถี" ทันที
เพราะส่วนใหญ่พวกนี้เขาเป็นเด็กป.ตรีกัน ก็สนุกอะไรกันไปตามประสากลุ่มเพื่อน ใคร้เขาจะมาสนใจยายแก่ๆอายุ 22 จะ 23 อย่างเรา
แต่พอดีว่าแดนมา ก็เลยดรีมทีมรวมตัวกันเป็นการพิเศษ
ซ้ายสุด แดน จากนิวเจอร์ซีย์ ที่ก้มหน้าก้มตาอ่านเมนูไม่สนใจใครก็นิค สวีเดนส่งเข้าประกวด สาวแว่นชื่อเทเรซา มาจากสิงคโปร์ แล้วก็อเล็กซ์ หนุ่มอังกฤษ
นั่งอยู่ไม่นานก็มีพนักงานมารับออเดอร์ สักพักที่มาก่อนก็ชาเลย
จะเป็นผู้ดีแร้นเค่อะ
เกือบหน้าโง่เอากาเล็กมาเทกินเปล่าๆแล้วสิ ดีนะยั้งไว้ทัน
มีนมใส่เหยือกอันจิ๋วมาให้เติมในชา แล้วก็น้ำตาลก้อนที่น่าจะทำเอง เพราะมันไม่เป็นสี่เหลี่ยมป็อกล็อกเหมือนที่เห็นตามร้านทั่วไป แต่เป็นเหมือนน้ำตาลอัดก้อนหยาบๆ อารมณ์เหมือนน้ำตาลทรายที่บ้านเราเวลาเปิดป๋องมาใช้แล้วเสือกปิดไม่สนิท อากาศเข้า น้ำตาลเลยจับเป็นก้อน ประมาณนั้น
.
ครีมทีที่สั่ง มาแล้วจ้า
คิดว่าเป็นชาใส่ครีมใช่มั้ย ต้องมีคนคิดแน่ๆ เพราะเมื่อก่อนก็คิดเหมือนกัน
มาเห็นคนที่นี่กินแล้วถึงเข้าใจว่ามันไม่ใช่ชาใส่ครีมเลี่ยนๆ แต่เป็นชุดน้ำชา ที่เสิร์ฟมาพร้อมสโคนสองชิ้นผ่าครึ่งมาให้ แยมสตรอเบอร์รี แล้วก็ Clotted Cream ที่เหลืองๆเหมือนเนยนั่นแหละค่ะ มีคำแปลภาษาไทยไหม?
เนื้อออกร่วนๆหน่อย แต่ไม่ถึงกับกัดแล้วร่วงกราว ในเนื้อแป้งผสมลูกเกดด้วย พอดีนราไม่ปลื้มลูกเกดเท่าไหร่เลยเฉยๆ แต่สโคนของเบ็ตตี้หอมเนยมากๆ เสียดายว่ามันไม่ร้อน ไม่งั้นคงอร่อยกว่านี้
1) ทาครีมก่อน แล้วค่อยทาแยม วิธีนี้ให้ผลว่าทาแยมไม่ติด เพราะครีมมันหนาเตอะลื่นแพร่ดไปหมด ดังนั้นก็เลย 2) ทาแยมแล้วค่อยทาครีม
คราวนี้แจ่มเลย
แยมสตรอว์เบอร์รีหวานไปหน่อย เข้าใจว่าเป็นโฮมเมดเลยหนืดซะขนาดนั้น ส่วนครีมก็รสชาติอธิบายไม่ถูกดีค่ะ มันจะรสชาติคล้ายเนยตอนแรก แต่พอเคี้ยวไปสักพักรสมันจะจางลงเป็นรสเย็นๆมันๆ บอกไม่ถูก
นราทำให้เพื่อนฝรั่งตกตะลึงด้วยการปาดครีมทีนึงหนาครึ่งนิ้ว มอริทซ์ คนเยอรมันถามว่า กินเข้าไปได้ไงไม่เลี่ยนเหรอ
แหม ถ้ากินแล้วเลี่ยนกรูก็คงไม่หน้าบานเป็นลานจอดคอปเตอร์ยังงี้หรอกจ่ะ
.
ไม่รู้นิคสั่งอะไร น่ากินสุดโคตร อยากขอกินแต่ไม่กล้า
หน้าตาเหมือนเป็นไอศกรีม ราดซอสสตรอว์เบอร์รีกับครีม ปะด้วยสตรอว์เบอร์รีลูกมโหฬารมาก เจ็บใจว่าทำไมเราไม่สั่งอย่างนั้นมั่งฟะ น่ากินกว่าหนมปังทาครีมตั้งเยอะ หมายมั่นปั้นมือไว้แล้วว่าโดนแน่เมนูนี้ คราวหน้าถ้ามีบุญได้มาอีกจะสั่งมากินซะให้หายแค้น
.
อเล็กซ์ที่ตัดผมแล้ว เมื่อก่อนไว้ยาวสลวยมาก นราสุดเซ็กซ์ แล้วก็มอริทซ์
อเล็กซ์นี่ โปรดสังเกต เป็นฝรั่งที่ชูสองนิ้วทุกรูป แปลกมาก
ปกติมีแต่คนเอเชียที่ชอบทำ ฝรั่งไม่ค่อยทำ
บางทีเพื่อนก็ถามนรานะ ว่าทำไมยูต้องชูสองนิ้วด้วย แปลว่าอะไร
เอ ไม่รู้แฮะ แปลว่านราขอสองมั้ง อิ๊อิ๊อิ๊
คือเรื่องส่งไฟล์จากมือถือเข้าคอมผ่านบลูทูธ
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยโอนไฟล์จากมือถือเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ได้เลย มันจะขึ้นมาบอกว่าส่งไม่ได้ เฟลตลอด ส่งได้แต่จากคอมเข้ามือถือ
วันนี้ดวงตาเห็นธรรม ว่าต้องไปกดตรงไอ่บลูทูธไฟล์วิซาร์ด แล้วเลือกก่อนว่าจะให้คอมรับหรือส่งไฟล์
แหมมมมม แล้วก็ไม่บอกกันก่อนว่าเป็นได้ทั้งฝ่ายรุกและฝ่ายรับ
ปล่อยให้น้องโมฯเป็นฝ่ายรับอยู่คนเดียวมาเป็นปี โทรมกันพอดี
ว่าแล้วก็ให้ดูความอุดมสมบูรณ์ของนรา นมเล็กรู้แล้วไม่ต้องทัก
แล้วที่เห็นแขนงอๆ ไม่ได้ดันนมด้วยความพยายามอยากจะใหญ่นะ ถือไอติมอยู่แล้วมันละลายย้อยลงมาเลยหมุนข้อมือหนีค่ะ
วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2553
Welcome Home, England!
วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2553
British Pub
ในที่สุดวันนี้พระอาทิตย์ก็มีอารมณ์ออกมาเฉิดฉายเสียที
พยากรณ์อากาศก็บอกว่าแดดจะออกไปทั้งสัปดาห์ อาจมีเมฆมาก
แต่เอาเหอะ ฝนไม่ตกก็ดีแล้ว หนาวจะตาย ไปไหนก็ลำบาก
.
วันนี้ฟ้าสวยค่ะ
อังกฤษนี่นะ วันไหนคิดจะอากาศดีก็ดีแบบน่าตกใจ แดดแรง ลมเอื่อยๆ
แล้ววันนั้นก็จะเป็นวันที่คนออกมาจากบ้าน มาเดินเล่น มาเลื้อยกันเต็มสนามหญ้า เอาผ้ามาปู กลิ้งเกลือกอ่านหนังสือตามเนิน ประหนึ่งว่าชาตินี้ไม่เคยเห็นพระอาทิตย์มาก่อนเลย แต่นราก็ว่ามันยังเย็นๆอยู่ดีถึงช่วงนี้พระอาทิตย์จะตกตอนสามทุ่มครึ่ง พอสักห้าโมงอากาศก็จะเริ่มเย็นลงอยู่ดี
ถ้าไม่มีเสื้อแจ็กเก็ตก็หนาวสั่นได้เหมือนกันนะ
แต่ไอ้เพื่อนฝรั่ง มันก็พากันขำนรา ว่าขนาดนี้แล้วเมิงยังหนาวอีกเหรอ
พวกกรูเหงื่อตกกันจะตายห่า
.
นี่เป็น Central Hall ของมหาลัยยอร์กค่ะ
ตอนนี้มันกลายเป็นลูกเชอร์รีแดงๆหมดแล้ว
ไม่ถึงกับพราวเต็มต้น แต่คนไม่เคยเห็นอย่างเราก็ตื่นตาเหมือนกัน
ตอนแรกมันเป็นเม็ดกลมๆ เขียวๆ ก่อน แล้วค่อยๆเหลือง ส้ม แดง
กะว่าเดี๋ยวมืดเมื่อไหร่ จะแอบออกไปเก็บกิน อยากรู้อร่อยไหม
อารมณ์เดียวกับตอนที่มาถึงใหม่ๆ แล้วไปเดินเก็บเม็ดเกาลัดที่ร่วงๆตามพื้น กะเอามาลองคั่วกินเลย ฮ่าาา พูดแล้วก็คิดถึง วันเวลานี่มันผ่านไปเร็วจังเลยนะ
อากาศเจือกลิ่นหอมหวานจางๆ บอกไม่ถูก ดมแล้วชื่นใจดี
ตอนนี้กุหลาบบานกันเยอะมาก บานตั้งแต่เดือนพฤษภาคมแล้ว เห็นเขาว่าพ.ค.นี่เป็นเดือนดอกกุหลาบนะ ออกเยอะมาก ตอนนี้ก็ยังมีอยู่ แต่เริ่มเลยช่วงที่สวยที่สุดของมันแล้ว
.
ดอกสีเหลือง ขึ้นอยู่ริมทางเดิน เลื้อยเกาะผนังอาคารในหมู่บ้านเฮสลิงตัน เห็นตั้งแต่มาใหม่ๆ
ตอนนั้นมันเป็นกิ่งก้านแห้งๆแกร็นๆ เหมือนคุณยายอายุแปดสิบซักน้ำสองครั้งแล้วบิดเอาไปตากแห้ง
ตอนนี้ออกดอกออกใบสวยงาม ดอกนึงใหญ่เกือบเท่าแผ่นซีดีแน่ะ

เป็นบ้านเตี้ยๆ เล็กๆ น่ารักดี เหมือนบ้านในนิยายที่เคยอ่านเลย
บ้านนี้เขาสวนสวยมากเลย ยิ่งกุหลาบสีชมพูหน้าบ้านนี่ดอกมันใหญ่จนย้อยออกมาข้างนอก เลยแอบมั่วถ่ายรูปมาได้
นราช้อบชอบกุหลาบเลื้อยสีแดง มันแดงสดดูนุ่มนิ่มเหมือนกำมะหยี่เลย
แถมเลื้อยขึ้นไปบานตรงริมหน้าต่างอีก อยากได้ห้องนอนแบบนี้มาก
แบบว่ามองออกมาแล้วเห็นดอกกุหลาบสวยๆบาน คงสดใสดีนะตอนเช้า
ตอนนี้ห้องนรา ตื่นมา เห็นต้นไม้ที่จะตายมิตายแหล่ของตัวเอง เหี่ยวๆเหลืองๆต้นเดียว
กำลังวิเคราะห์อยู่ว่ากรูทำไรผิด รดน้ำก็รดทุกวัน ทำไมจู่ๆใบมันเหลืองหมดต้นเลย
เรื่องของเรื่องคือ เล่าให้แม่ฟังว่าชอบไปนั่งเล่นที่ผับ กินโน่นนี่ เจอเพื่อน
แล้วแม่เป็นห่วง ไม่อยากให้ไป เพราะเข้าใจว่าผับฝรั่งคงเหมือนผับไทย แบบว่าคนถือเหล้าเดินกันว่อน แดนซ์กันกระจาย มีแต่ฝรั่งเลวๆจ้องจะงาบลูกสาวแม่ตาเป็นมัน
หารู้ไม่ว่ากรูนี่แหละ ภัยรายวันของหนุ่มอังกฤษ โดยเฉพาะผมบลอนด์ กร๊ากกก
เพื่อเป็นการแก้ไขความเข้าใจ และให้แม่สบายใจ วันนี้เดี๋ยวพาไปเที่ยวผับนะ
ผับนี้ชื่อชาร์ลส์ค่ะ เป็นที่รู้กันว่าทำอาหารนานฉิบหาย
ประมาณว่าสั่งตอนไม่หิว กว่าอาหารจะมาก็หิวแทบจะแดกขาโต๊ะได้
ชาร์ลส์เป็นผับที่ยึดมั่นในมาตรฐานมาก คือเมื่อสิบปีที่แล้วมีพนักงานหน้าบาร์ไม่เกินสามคน ทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่เท่านั้น ไม่ว่าลูกค้าจะเยอะแทบเหยียบหัวกันตายยังไงก็จะมีไม่เกินสามคน คงเส้นคงวามากกก
เวลาจะสั่งอาหารและเครื่องดื่ม ก็ต้องไปสั่งตรงบาร์นี่แหละค่ะ ไม่มีใครเดินมารับออเดอร์เหมือนร้านเจ๊แอ๊วแถวบ้านนะ สั่งเสร็จก็จ่ายเงินเลย เขาจะให้ขวดไวน์เปล่าติดเบอร์มาขวดนึง เหมือนเป็นบัตรคิวไว้รอรับอาหาร
โค้กจ้าโค้ก ที่อังกฤษเวลาสั่งเครื่องดื่มมันจะมีสองไซส์ให้เลือก คือไพนท์ กับครึ่งไพนท์ วันนี้หิวน้ำเลยสั่งแก้วใหญ่ไพนท์นึงไปเลย
ข้างหลังคือเมนูเครื่องดื่ม มีเบียร์ ไซเดอร์ เอล เหล้าผสม อะไรก็ว่าไป
โดยเฉพาะวันที่อังกฤษเตะกับอเมริกา โอ้โหผับทั่วประเทศแทบระเบิด
ฝรั่งทาหน้าทาตัวเป็นสีขาวแดง เดินร่อนทั่วเมือง
บอลเตะทุ่มครึ่ง แม่งเมาแอ๋กันตั้งแต่เที่ยง อังกรี๊ดอังกฤษ
แต่วันนี้คนน้อย มีที่ให้เลือกนั่งได้ตามสบาย
ปราศจากขี้เมาหรือจิ๊กโก๋หรือเพลงแดนซ์อะไรทั้งสิ้น
โคตรนานเลย แอบไปชะโงกดูในครัว เจริญ มีคนทำอยู่สองคน
วันหลังมากินแนะนำให้เอาเต๊นท์มาตั้งด้วย
นราสั่ง Southern Fried Chicken พร้อมมันทอดแบบม้วนๆ ของดังของร้าน
พอมาถึงก็บางอ้อว่ามันคือไก่ไม่มีกระดูกของผู้พันแซนเดอร์สนั่นเอง
อาหย่อย
ผับอังกฤษส่วนมากจะเป็นแบบนี้แหละ ขายเหล้าเบียร์ แต่จะเลือกไม่กินก็ได้ มีที่นั่งดีๆให้นั่งคุยกัน ยืดแข้งขาได้สบายๆ
ถ้าจะไปแดนซ์ ไปเที่ยวกลางคืน อันนั้นเรียกว่าไนท์คลับค่ะ
เปิดตั้งแต่ประมาณสี่ทุ่มครึ่งถึงตีสอง-สาม-สี่ แล้วแต่ที่ ค่าฝากกระเป๋าหรือเสื้อโค้ทอยู่ที่ชิ้นละหนึ่งปอนด์-ปอนด์ครึ่ง หน้าประตูจะมีเบาน์เซอร์หรือผู้รักษาความปลอดภัยตัวบวมๆยืนขวางอยู่เหมือนยักษ์วัดแจ้ง
เอ๊ะ ทำไมรู้ดีจัง โฮะๆๆ
.
อันที่จริงวันก่อนไปผับนอกเมืองกับเพื่อนมาด้วย ชื่อผับ Riverside เป็นผับใหญ่สวยมาก น้องๆร้านอาหารเลย เสียดายไม่ได้เอากล้องไป
เป็นครั้งแรกที่ตูดมีโอกาสได้สัมผัสเบาะหนังรถสปอร์ต โตโยต้าเซลิก้า ล้อแม็กสิบเจ็ดนิ้ว ร้อยเก้าสิบแรงม้า ลำโพงเซอร์ราวด์รอบด้าน
เพื่อนมารับที่ในเมือง แล้วขับพาไปผับที่ว่าเนี่ย
ระหว่างนั่งโอ้โหเหงื่อกาฬแตกพลั่ก ภาวนาว่ากรูไม่อยากตายๆๆๆๆ
โอ้โหขับโคตรซิ่ง เหมือนอยู่ในหนังเรื่องโตเกียวดริฟท์ อันนี้เป็นยูเคดริฟท์
มารู้ทีหลังว่าพ่อคุณท่านขับรถแข่งมาก่อน ขอบคุณมาก ทำไมเมิงไม่บอกกันก่อน
กรูจะได้เอาเข็มขัดนิรภัยส่วนตัวอีกอันมาคาดเพิ่ม
ลงจากรถมา พูดภาษาอังกฤษไม่ออกเลย
ไอ้คนขับ ขำนะขามมมมเข้าไป ฟาย
.
เพิ่งทำได้คร่าวๆ ยังไม่ถึงไหนเลย
ช่วงนี้ยุ่งมากๆ ยุ่งแบบไม่เคยคิดว่าจะยุ่งได้ขนาดนี้
ก็ค่อยๆทำไปเนอะ
บุญรักษาทุกท่านค่ะ จุ๊บๆ
วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
BITS of Asia: ASEAN night
คนไม่มากนัก ไม่ใช่งานใหญ่อะไร
แต่ก็ดีใจที่มีคนมา อิอิ
ตอนแรกนราแอบคิดนิดหน่อย ว่างานมันเงียบจัง
ไม่เห็นเขาค่อยโปรโมทเลย คนจะรู้เหรอ
แต่ถึงเวลาก็อุ่นหนาฝาคั่งดีค่ะ
คาดว่าคงจะมาเพราะอาหารฟรี
วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2553
(100th Entry!!) Chinese Dimsum
แล้วก็มีเนม (ขาประจำ ไม่ต้องพูดถึงแล้วก็ได้มั้ง กั้กๆ) แล้วก็น้องปลา คนนี้ไม่เคยมากิน กะมาล้างแค้นเหมือนกัน
ภาพบนถ่ายก่อนอาหารมา
ภาพล่างคงไม่ต้องบอก กล้องยังไม่อยากจะมองเลยนั่น
เอาละ ร่ายเดิ้ม เริ่มได้
ถ้าตอนสั่งอาหารยังไม่หิว ตอนรอจนอาหารมาก็หิวพอดี
คิดว่าน่าจะเป็นเทคนิคของทางร้าน ทำช้าๆ เสิร์ฟช้าๆ ลดปริมาณการขาดทุน
อันนี้จำชื่อไม่ได้
แต่เป็นประมาณ ซุปเกี๊ยวแบบจีน อะไรทำนองนี้
น้ำซุปอร่อยดี เกือบจะเค็มแต่ไม่เค็มนะ
ตัวเกี๊ยว ไส้ข้างในเป็นหมูสับผสมกับผักสับ กุ้ง เห็ดหอม
เสียอย่างเดียว ถั่วลันเตาเหม็นเขียวมาก แถมใส่มามันทั้งชิ้น ไม่ลอกเส้นข้างออก เห็นกรูเป็นม้ารึยังไง พิถีพิถันหน่อยเด้
ที่ไม่แน่ใจว่ามันเป็นหมูหรือกุ้ง เพราะจำได้ว่าตอนกิน เจอทั้งสองอย่าง
เลยไม่รู้ว่ามันไส้อะไรแน่ แต่อร่อยนะคะ หวานนนนชุ่มฉ่ำ
เทียบกับติ่มซำสี่เม็ดหกสิบบาทของเอ็มเค ติ่มซำสี่เม็ดร้อยของที่นี่คุ้มกว่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ สดใหม่ และได้เนื้อได้น้ำ แบบกินแล้วน้ำตาจะไหล
ที่นราเล็งไว้ตั้งแต่ครั้งแรกที่มา หมายมั่นปั้นมือว่าคราวนี้แกต้องเสร็จฉันแน่อีดาวเอ๋ย ฮ่าๆๆๆ (หัวเราะแบบตัวร้ายช่องเจ็ดตอนวางแผนไปฉุดนางเอก) จำได้ว่าสั่งมาห้าเข่ง นรากินเยอะมากมาย กินแบบชีวิตนี้ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว