วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552

I'm in Need of Someone...

เดี๋ยวนี้ห้าโมง ฟ้าที่นี่ก็มืดสนิทเหมือนสักสองทุ่มแล้ว
เดินไปไหนต้องระวัง เมื่อคืนนี้ปวดหัวมากๆ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร กินยาก็ไม่หาย จนทนไม่ไหวเลยเดินไปซื้อน้ำผลไม้ที่คอสต์คัตเตอร์มากิน เผื่อจะได้สดชื่นแล้วรู้สึกดีขึ้น ระหว่างทางเดินมืดๆ เราก็มัวแต่มองทางเดิน กลัวสะดุดล้ม เลยมองไม่เห็นไอ้ห่านเวรที่มันหลบอยู่แถวนั้นตัวนึง พอเดินเข้าไปไกล้ อยู่ดีๆมันก็เห่าใส่ ตกใจสุดๆ หัวใจหยุดเต้นไปสามวิ บ้าชะมัด

ช่วงนี้กำลังเข้าสู่อาการคิดถึงบ้าน โฮมซิกสุดๆ
ซึ่งก็แปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกัน แทนที่จะเป็นช่วงแรกๆที่มา กลับกลายเป็นว่าช่วงแรกๆยังพอรับมือไหว ไม่คิดถึงมันก็จะไม่ฟุ้งซ่าน แต่พอมาถึงตอนนี้ดันเป็นหนักซะงั้น เป็นเพราะอากาศมันชวนเศร้าละมั้ง
รู้สึกว่า เรามาที่นี่ทำไม นี่เรากำลังทำอะไรอยู่
ทำไมมันเหงาจัง ทำไมรู้สึกเหมือนไม่มีใครเลย อยากจะคุยกับคนที่เมืองไทยเขาก็ไม่ว่างกันทั้งนั้น ด้วยทั้งเวลาและชีวิตประจำวันที่ต่างกัน ตอนนี้นราไม่มีใครเลยจริงๆ ไม่มีเพื่อน ไม่มีคนจะคุยด้วย
กลับเข้าห้องมาก็ทำอย่างเดิมๆ วางกระเป๋า เปิดคอม หาอะไรกิน ทักทายเพื่อนร่วมแฟลตนิดหน่อยตามประสา แต่สุดท้ายเมื่อกลับเข้าห้องมา สิ่งเดียวที่รออยู่ก็คือความเงียบกับหนังสือกองโต ราวๆเที่ยงคืนก็เข้านอน รอตื่นเช้าไปเรียน
พยายามจะขยัน พยายามจะไปอ่านหนังสือที่หอสมุด แต่ไม่ไหว ยิ่งเหงาใหญ่ เมื่อก่อนเคยมีคนนั่งอ่านหนังสือ นั่งหลับด้วยกัน เดี๋ยวนี้เราอยู่ตัวคนเดียว อยากมีคนมาโอบเวลาเหนื่อย มาคุยด้วยหลังเลิกเรียนกลับมา มาช่วยตามหาไอ้เวรที่ขโมยกระทะนราไปด้วย ตากไว้อยู่ดีๆหายไปเฉยเลย

วันนี้พระจันทร์โผล่ออกมาให้เห็นเหมือนแตงโมผ่าครึ่ง สีเงินๆลอยอยู่ในเมฆดำๆบนฟ้า
พอเปิดม่านออกไปมองอีกที พระจันทร์ก็หายไปแล้ว โดนเมฆกลืนจนมองไม่เห็น
เรื่องธรรมดาๆของธรรมชาติ ทำไมวันนี้มันเศร้าจังน้อ
อ่านหนังสือเรียนไปก็น้ำตาแหมะไป น้ำตาร้อนๆออกมาเจอลมหนาวแล้วเย็นจัง
อย่างนี้คงโดนป๋าด่าว่าอ่อนแอ ไม่รู้จักเข้มแข็งสู้ชีวิต เป็นเด็กเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ แค่นี้ท้อแล้ว
แต่นรากำลังพยายามอยู่นะ ฝ่าทั้งกำแพงภาษา กำแพงความรู้ และกำแพงความขี้เกียจของตัวเอง
แม่ ป๋า เอิร์ธ เอม คิดถึงจังเลย อยากกลับไปหาเร็วๆ
คิดถึงเติ้ลด้วย คิดถึงมากๆเลย ไม่อยากอยู่คนเดียวแบบนี้เลย

เมื่อวาน ดีใจมากๆที่ในที่สุดพัสดุจากตาหมูก็มาถึงจนได้
เดินกอดห่อของยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มาตามทางเดิน เห็นแค่ลายมือก็มีความสุขแล้ว
ลายมือคนบอกอะไรได้หลายอย่างนะ ดูจากตัวอักษรจ่าหน้าซองที่ตรง เส้นหนัก และทื่อไม่เป็นธรรมชาติ สันนิษฐานได้ว่าคนเขียนตั้งใจเขียนอย่างสุดๆ เห็นแล้วก็ชื่นใจน้อ นั่งเป่าปี่สก็อตใส่ซองพัสดุอยู่พักนึงแล้วถึงจะแกะออกมาดู

ดีใจมากๆ มากๆ ได้อ่านนิยายภาษาไทยแล้ว เบื่อภาษาอังกฤษเหลือเกิน
คินดะอิจิเล่มสิบเจ็ด ตอนหนึ่งและสองค่ะ ค่าส่งแพงมาก ขอบคุณตาหมูมากๆนะ ตอนนี้อ่านเล่มหนึ่งจะจบแล้ว นี่เป็นข้อเสียของคนอ่านหนังสือเร็ว แป๊บๆก็หมดเล่ม พอหมดสองเล่มก็ไม่รู้จะอ่านอะไรต่อหละ แม่ก็อย่ายอมเค้านะ รีบส่งมาๆๆ จริงๆมีหนังสือต้องอ่านเป็นสิบ แต่นึกดูซิว่าถ้าหนังสือแต่ละเล่มมันประมาณ Research in Education, Language Learning Methods, Psychology for Language อะไรงี้ แถมเป็นภาษาอังกฤษ คุณจะหลั่นล้าหยิบมาอ่านเองมั้ยจ๊ะ

ถึงหอสมุดจะใหญ่ แต่นักศึกษาก็เยอะมาก เลยต้องแย่งหนังสือกันอ่าน
พวกที่เป็น key text หรือหนังสือที่ต้องอ่านสำหรับแต่ละคอร์ส ไม่เคยอยู่บนชั้นหรอก เวียนกันยืมตลอด นราเลยซื้อเล่มหลักๆมาไว้อ่านเอง จะได้ไม่ต้องไปแย่งใคร สั่งซื้อจากอเมซอน.โค.ยูเคค่ะ ได้เร็วเหมือนกันนะ สั่งคืนวันที่ยี่สิบห้า วันนี้วันที่ยี่สิบแปดได้แล้วอ่ะ
หมดค่าหนังสือไปเจ็ดสิบปอนด์ สามเล่มเองนะ แต่เมื่อเทียบกับทุนค่าหนังสือที่ม.กท.ให้มาแล้วยังจิ๊บจ๊อย เอาเถอะก็ใช้แบบประหยัดๆนั่นแหละ เผื่อเอาไปทำอย่างอื่นได้
กระเป๋านี่ก็ซื้อจากอเมซอนเหมือนกัน สั่งพร้อมหนังสือแต่มันมาก่อน เป็นกระเป๋าที่ซื้อบ้านเราได้ในราคาไม่เกินร้อยเก้าเก้า แต่นราต้องจ่ายแปดปอนด์เพื่อซื้อมัน เพราะใบที่มีตูดจะขาดแล้วอ่ะ แอบแรดเล็กน้อยถึงปานกลางด้วยแถบสีทองอลังการ

จริงๆวันนี้ไปกินข้าวที่โรงอาหารของหอแวนเบรอห์มาด้วย วันนี้เขาเสิร์ฟไก่อบ/ลาซานญ่าผัก/หมูย่าง เลือกเอาอย่างนึงเคียงกับพวกผักต้ม มันทอด นรากินไก่อบ ใช้ได้นะ อร่อยกว่าไก่งวงวันก่อนโน่นเยอะ กินไปอ่านหนังสือไปมีความสุขชิบเป๋ง ก่อนกลับหอแวะไปซื้อโยเกิร์ตกับผลไม้มาตุน เพราะตอนนี้กระทะไม่มี ไม่สามารถทำอะไรกินได้นอกจากต้มมาม่าและโจ๊กด้วยหม้อที่มี นรากินแปลกมั้ยเนี่ย เอาสตรอว์เบอร์รีใส่ซีเรียลแล้วราดโยเกิร์ต คลุกๆกินเป็นของว่าง
ขอบคุณทุกๆคนนะคะสำหรับกำลังใจและการเข้ามาชมอย่างต่อเนื่อง
ตาหมู้ว
รักหมูมากๆนะ
มุกกุ
วันก่อนโน้นเจอรองเท้าเหมือนที่โลลิฯเขาใส่กัน นึกถึงมุกเลยค่ะ แต่คู่ละร้อยซื้อไม่ไหวอ่ะ

4 ความคิดเห็น:

  1. เอนทรี่นี้เศร้าจังเลย
    นราคุยกะเราได้น้า
    ช่วงนี้อากาศมันน่าเศร้าจริงๆนั่นแหละ แต่ลองมองให้มันสวยสิ
    ใบไม้ร่วงหลายๆสี มันสวยดีออกนะ อย่าเศร้าเลย
    ^^ สู้ๆเน้อ

    ตอบลบ
  2. นราคะ เข้าใจความรู้สึกมากๆค่ะ เพราะว่าแนนเป็นอยู่ตอนนี้เลย ฮือๆ
    เหงา เวลาไปเรียน รอเรียนคลาสต่อไป ทำไมเวลาอยู่คนเดียว เวลามันผ่านไปช้าจังนะ เวลานั่ง เขาก็นั่งกันเป็นกลุ่ม มีแนนอยู่คนเดียว นั่งกระเทียมอวบลีบอยู่ตรงนี้ เฮ้อ มันเหงา เศร้ายังไงไม่รู้
    กลับมาบ้าน พอได้พูดให้ใครฟังมันก็ดีขึ้นค่ะ ปลอบตัวเองว่าแค่สี่เดือน
    สี่เดือนเท่านั้นแหละหนา แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น นราก็สู้ๆนะคะ ยังไงถ้าออนเอ็มก็มาคุยกันนะ

    ตอบลบ
  3. มุกกุแห่งอณาจักรอู้วฮัชช่าๆ29 ตุลาคม 2552 เวลา 21:03

    นราเพิ่งจะอายุยี่สิบกว่าๆเองนะคะ ไม่แปลกที่จะยังคิดถึงความผูกพัน บางทีมันก็ทำให้เราเศร้าหมองได้
    แต่ในเมื่อเรามาแล้ว เราก็ต้องก้าวผ่านมันไปให้ได้คะ แต่ไม่ต้องฝืนมันนะ ค่อยๆให้เวลามันเดินพร้อมกับเรา อย่าได้รียร้อนนะคะ สู้ๆคะ

    ดีใจด้วยที่อย่างน้อยนราก็ยังมีดาลิงค์เป็นห่วงเป็นใย ส่งหนังสือไปให้อ่าน แล้วเท็กส์เรียนหนาๆของนราก็ช่างน่าหลัวยิ่งนัก แค่เห็นชื่อก็อยากจะหลับหนุนหนังสือแล้วหละคะ ฮ่าๆๆๆ มุกก็ขี้เกียจนะ ยิ่งหนังสือเรียนเนี่ย อย่าได้ให้เปิดเลย แค่เห็นคำนำก็หลับแล้ว ฮ่าๆๆ

    หลังๆยิ่งเป็นหหนัก แค่เหล่ดูสันหนังสือก็เคลิ้มแล้วหละ ฮ่าๆๆ(อ่า...แย่เลย)

    มุกชอบของว่านราจังคะ
    ที่ทำกินนะ ไม่แปลกนะ มุกก็กินแบบนรา แต่สตรอเบอร์รี่คุณภาพช่างแตกต่าง มุกก็กินแต่ที่มันถุงละยี่สิบบาทนั่นแหละคะ เฮอ...ไม่มีตังจะไปซื้อลูกโตๆนำเข้านะ อยากกินเหมือนกัน นราอยูนู่นก็กินๆมันเข้าไปเถอะคะ มุกว่ามันถูกมากเลย เพราะมันเป็นผลไม้เลื้อยของแถบนั้นหละเนอะ คงเหมือนต้นมะละกอข้างทางมั้งคะ หากินง่าย เลยราคาย่อมเยาว์

    อย่างน้อยมันก็ได้อย่างเสีย(หลาย)อย่าง ...(เอ๊ะ หมือนจะปลอบใจ ฮ่าๆๆ) ล้อเล่นนะคะ ย่อมมีดีและไม่ดีต่างกันเนอะ นราก็พยายามเข้าคะ

    ......................
    รองเท้าโลลิต้า หรือพวกข้าวของสไตล์โลลิต้าเนี่ย มันราคาแพงประมาณนั้นเลยคะนรา ไม่แปลกหรอก มุกเองก็ไม่มีสักชิ้นหรอกคะ อยากอยู่ แต่ว่ามันไม่จำเป็นนะ เพราะดูสภาพเมืองไทยกับโลลิต้ามันช่างขัดแย้งกันยิ่งนัก ไหนจะอากาศอีก และที่สำคัญปัจจัยด้านทุนทรัพย์คะ ฮ่าๆๆๆๆ
    นับวันยิ่งขาดแคลน

    ...................
    ขอบคุณนรามาก ที่ดูรูปในเอนทรี่นั้นของมุก แล้วเป็นคนเดียวที่บอกว่ามุกเหมือนผู้ชาย ฮ่าๆๆๆ
    ถึงแม้จะเหมือนละครช่วงเช้าวันเสาร์อาทิตย์ ช่องเจ็ดก็เถอะ แต่นราเห็นว่ามุกแต่งเหมือนผู้ชายมุกก็ดีใจแล้วหละคะ เพราะวันนั้นมุกแต่งหน้าแบบคาแรกเตอร์ตัวผู้ชายนะ ที่มุกดูจากในหนังมาแล้วประทับใจ แต่เพราะใส่วิกยาวแล้วสาวแตกมาก เลยเหลืออยู่แค่สองรูปนั่นที่ดูแมนสุดแล้วหละคะ ฮ่าๆๆๆ นอกนั้นสาวหมด กลุ้มจริงๆ
    ขนาดกวาดอายไลน์เนอร์แบบตาผู้ชายในการ์ตูนแล้วนะ เฮ้อ สงสัยจะใส่วิกยาวไม่ขึ้นคะ

    ..........................
    ว่าแล้วก็คิดถึงวันเก่าเมื่อครั้นข้าพเจ้าได้คอสเพล นรารู้มั้ยว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นให้มุกเริ่มทำอะไรเองได้ในหลายๆอย่างเลยหละ แต่ปะป๊ากับแม่เห็นว่ามันไร้สาระมาก จงเลิกซะ เฮ้อ... มุกนี่ทำอย่างไรก็ไม่เคยกล้าที่จะขัดใจป๊ากับแม่ได้เลยคะ ทั้งๆที่มันทำให้มุกรู้จัและทำอะไรเป็นด้วยตัวเองแล้วเชียว
    ............................
    พูดไปมาก เดี๋ยวจะระบายซะก่อน ขออภัยนะคะ
    รักษาสุขภาพด้วย ระวังห่านเห่าระหว่างทางด้วยนะคะ ฮ่าๆๆ บิ้วคะ แล้วจะเข้ามาหาอีหนะคะ จุ๊บๆ

    ตอบลบ
  4. นราขา ปัดอ่านแล้วเข้าใจเลย
    ตอนที่มีอะไรทำมันก็สบายดี พอไม่มีอะไรทำเท่านั้นแหละ
    แค่เห็นเมลล์เพื่อน เห็นรูปเพื่อน น้ำตาก็จะไหลแล้วอ่ะ
    เหงาเนอะ
    แต่เราก็ต้องสู้กันต่อไปค่ะ
    นราไม่ได้อ่อนแอหรอกที่เป็นแบบนี้ ก็แค่เรารักและคิดถึงพวกเค้าเท่านั้นเองเนอะ
    เป็นกำลังใจให้นะคะ กอดๆ

    PS.Love your bag & that stawberry >O<

    ตอบลบ