อัพบล็อกบ่อยเหมือนชีวิตไม่มีอะไรจะทำ
ซึ่งจริงๆก็มี แต่มันทำไม่ได้ เขียนไม่ออก สมองตาย
ตอนนี้สายตามีอาการแปลกๆ มันพร่าๆเบลอๆเวลามองคอม
กลัวม่านตาจะฉีกเหมือนอาจารย์รุ่นพี่ที่เขาเล่าให้ฟังจังอ่า
.
ม่ะ ต่อๆ วันนี้วันอังคารที่ห้ามกราค่ะ ตั้งใจว่าจะตื่นแต่เช้า โปรแกรมที่วางไว้คือไปสวนคิว แล้วก็สวนสัตว์ลอนดอน ต่อด้วยห้างแฮร์รอดตามคำบัญชามะแอ้ แต่ปรากฏเมื่อคืนเม้าท์แตก นอนดึก ตื่นมาก็เก้าโมงกว่าเกือบสิบโมง ลังเลอยู่นานว่าจะไปสวนคิวดีไหมน้อ ช่วงฤดูหนาวนี่สวนสัตว์มันปิดเร็วด้วยสิ ตอนแรกก็ว่าจะไม่ไปแล้ว แต่เอาเข้าจริงก็เสียดาย แวะไปจนได้
Kew Gardens เป็นสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่เบ้งที่อยู่มานานกว่า 250 ปีแล้ว นราได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือเรื่องเถาวัลย์มหัศจรรย์ของเฮเลน เครสเวลล์ คิดไว้ว่าถ้ามาอังกฤษต้องมาให้ได้ แล้วก็สมใจเจ๊ นั่งรถไฟใต้ดินสายสีเขียวจากบ้านเพื่อนมาลงสถานีคิวการ์เดนท์ส เดินตรงไปอีกหน่อยก็ถึง ค่าเข้า 11 ปอนด์สำหรับนักเรียนค่ะ
เวิ้งว้างว่างเปล่า หิมะขาว ปกคลุมไปทั่วสวน ก็มันหน้าหนาวหนิต้นไม้ที่ไหนจะงอกให้ดู ต้นไม้ที่ไม่ผลัดใบก็มีแต่พวกสนใหญ่ๆ ใหญ่โคตรๆเหมือนต้นไม้ยุคไดโนเสาร์ แต่นราทำใจแล้วละว่าหน้าหนาวมันคงไม่มีอะไรมาก เลยกะว่าจะเข้าเรือนกระจกให้หมดทุกหลังแทน หลังแรกที่เข้าไปเป็น Palm House เป็นเรือนกระจกสถาปัตยกรรมสมัยวิคตอเรียที่สร้างด้วยกระจกและเหล็กที่อยู่มาถึงทุกวันนี้ค่ะ ข้างในอุ่นๆดี รวบรวมพืชตระกูลปาล์ม มะพร้าว และพวกพืชเขตร้อนทั้งหลาย
ไม่ได้ถ่ายรูปมาเท่าไหร่นะพวกปาล์ม ไม่รู้จะถ่ายมาทำไม อยู่ไทยเห็นทุกวัน มีต้นกล้วยสองต้นกำลังออกเครือ อิเด็กฝรั่งวิ่งมาโกลาหลกันใหญ่ ร้องบอกพ่อมัน ลุ้กๆๆ บาน้าน่าๆๆ เกิดมาไม่เคยเห็นกล้วยเว้ย ตลกดี เป็นเพราะเราเห็นจนชินแล้วมั้ง ในเรือนปาล์มก็มีไม้ดอกประปราย ลูกสีแดงๆนี่เป็นต้นไม้ของทิเขต ส่วนเขียวๆมาจากแอฟริกามั้ง ไม่ก็ออสเตรเลีย รีบเดินทำเวลาน่ะเลยจำชื่อต้นไม้ไม่ค่อยได้ เสียดายอยู่เหมือนกัน ส่วนต้นไม้หงิกๆงอๆนั่นคือต้นโอ๊คที่เก่าแก่ที่สุดในสวนค่ะ อายุอานามประมาณสองร้อยกว่าปี
ไม่ได้ถ่ายรูปมาเท่าไหร่นะพวกปาล์ม ไม่รู้จะถ่ายมาทำไม อยู่ไทยเห็นทุกวัน มีต้นกล้วยสองต้นกำลังออกเครือ อิเด็กฝรั่งวิ่งมาโกลาหลกันใหญ่ ร้องบอกพ่อมัน ลุ้กๆๆ บาน้าน่าๆๆ เกิดมาไม่เคยเห็นกล้วยเว้ย ตลกดี เป็นเพราะเราเห็นจนชินแล้วมั้ง ในเรือนปาล์มก็มีไม้ดอกประปราย ลูกสีแดงๆนี่เป็นต้นไม้ของทิเขต ส่วนเขียวๆมาจากแอฟริกามั้ง ไม่ก็ออสเตรเลีย รีบเดินทำเวลาน่ะเลยจำชื่อต้นไม้ไม่ค่อยได้ เสียดายอยู่เหมือนกัน ส่วนต้นไม้หงิกๆงอๆนั่นคือต้นโอ๊คที่เก่าแก่ที่สุดในสวนค่ะ อายุอานามประมาณสองร้อยกว่าปี
ถัดจากเรือนปาล์ม ก็เป็นเรือนกระจกเล็กๆชื่อ Evolution House มั้งนะ จำลองการเปลี่ยนแปลงของพืชตั้งแต่ยุคสร้างโลกถึงยุคไดโนเสาร์ เรียบๆไม่มีอะไรมาก เหมือนสวนจำลองแถวบ้านเศรษฐีอ่ะ ขาดแต่ตุ๊กตาอาแปะตกปลา มาเรือนกระจกหลังนี้ดีฝ่า Temperate House ใหญ่โตอลังการงานสร้างสุดโคตร เป็นเรือนกระจกที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ เขาโฆษณาไว้ว่างั้นนะ
ในนี้ดอกไม้ตระกูล Rhododendron หรือกุหลาบพันปีโคตรสวย บานเต็มต้นเป็นพุ่มใหญ่ๆ ขนาดมีไม่กี่สีนะ นี่ถ้ามาหน้าร้อนจะสวยขนาดไหนน้อ
เรือนนี้เขาแบ่งออกจากตรงกลางเป็นเรือนซ้ายขวา เดินง่ายดีไม่หลงทาง ดอกไม้สวยๆเยอะเลย ดอกสีชมพูนี่ก็อยากเห็นของจริงมานานแล้ว ดอกฟุกเชีย ไอ้ส้มๆจำไม่ได้ แต่ชอบลูกแดงๆนี่จัง เขาเรียก Tomato Tree หน้าตาเหมือนมะเขือเทศเปี๊ยบ ใบเหมือนมะอึก แต่ต้นเบอเริ่มเลย เขาว่ารสชาติคล้ายมะเขือเทศกับส้ม อาหย่อย กินได้
เหมือนโลกนี้เป็นของเราค่ะ นานๆทีจะเจอมนุษย์สักคน เจอพนักงานเล็มกิ่งต้นไม้ที่หน้าตาเหมือนแซ็ก แอฟรอนด้วย แต่ไม่ใช่สเป็กเลยไม่สนใจ ดูดอกไม้ดีฝ่า ตรงนี้จำได้ว่าเป็นต้นไม้จากโซนออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ลืมหายใจกับพุ่มคามีเลียสีแดงกับชมพู ออยยยย สวยจังเลย มีความสุขมากมาย อยากอยู่ดูนานๆ แต่เวลาไม่อำนวยเล้ย รีบดูรีบเดินเพราะกลัวไปสวนสัตว์ไม่ทัน
ออกจากสวนคิวตอนประมาณเที่ยงครึ่งค่ะ ขึ้นรถใต้ดินไปเปลี่ยนเป็นสายสีดำ แล้วลงสถานี Camden Town ตอนอ่านในเว็บไซต์นะมันก็อธิบายว่าเดินไม่นาน ประมาณ 10 - 15 นาที ไอ้เราก็นึกว่าเดินเรื่อยๆ ลืมไปว่าฝรั่งประเทศนี้ชอบพูดให้เหมือนใกล้ เดินจริงๆโคตรไกลอ่ะ ป้ายบอกทางก็ไม่ค่อยมี ยังดีว่ามีป้ายรูปกอริลลาแขวนเป็นระยะเลยพอเดินไปถูกทาง ใครคิดจะเดินบอกเลยค่ะว่าไกลฉิบหาย ควรพกกระติกน้ำและข้าวสารอาหารแห้ง รวมทั้งเต้นท์และอุปกรณ์ก่อไฟไปด้วย
บ่นไปงั้นแหละ พอถึงก็กระดี๊กระด๊า
พนักงานใจดี เข้ามาบริการถึงที่ นราจองตั๋วทางเน็ทไว้แล้วเลยได้ราคาที่ถูกกว่าปอนด์นึง คนไม่ค่อยมีเหมือนเคย ก็แหงละสิหน้าหนาวนี่ฝ่า
ไปถึงเข้าอควาเรี่ยมก่อนเลย เป็นตึกเตี้ยๆมืดๆ ก็มีปลาแบบที่เขามีกันทั่วไปในตู้ปลาทั่วโลกอ่ะนะ แต่นราก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงชอบดู เหมือนก็จะดูอยู่ดี แต่มีปลาปิรันย่าด้วยนะ เป็นปลาหน้าตาบอกบุญไม่รับ ในรูปเป็นพันธุ์ Red Belly Piranhas ค่ะ ปลาพวกนี้ไม่ว่ายนะ มันลอยนิ่งๆอยู่ในน้ำ รออาหารมาแล้วค่อยพุ่งเข้าไปงาบ
.
ออกมาเจอบ้านกอริลลา เดินไปดูเห็นแต่หิมะกับของเล่นลิง เหอะๆ ทำใจไว้แล้วแหละว่าคงเห็นสัตว์ไม่มากเพราะมันหนาว ยังดีว่าเดินเข้าไปอีกด้านแล้วเจอห้องกระจก ขำพี่กอริฯท่านนี้มาก ท่านแบบว่านั่งชิลอยู่ในตะกร้าแล้วแดรกกล้วยแบบไม่แคร์สื่อ ข้างนอกมีลิงอะไรสักอย่าง มีลูกเล็กๆด้วย น่าร้ากอ่า เห็นลิงแล้วคิดถึงน้องชายแหะ ดูลูกลิงรูปแรกจิมีการช้อนตาสู้กล้องด้วย ส่วนลูกลิงรูปล่างน่าสงสาร มุดไปมุดมาโดนพ่อมันตบเหม่งไปที
นกกระทุงกำลังเปลี่ยนสีเลย จากขาวเป็นชมพู เพราะใกล้ฤดูผสมพันธุ์ แต่ที่ฮาปนสงสารคือ นกมันหนาว แล้วมันสั่นงั่กๆๆ ส่วนยีราฟนี่เป็นดาราดังค่ะ ชื่อเอลลิชมั้งถ้าจำไม่ผิดนะ ต้องเข้าไปดูในโรงเรือนข้างใน เพราะมันทนหนาวไม่ไหวเขาต้องย้ายมันเข้ามา ม้าลายกับโอคาปิก็เหมือนกัน แม้แต่เพนกวินยังไม่ค่อยว่ายน้ำเลย อุดตัวเองอยู่ในบ้านกับโพรงใต้ดิน เห็นเพนกวินก๊อต้องคิดถึงแม่ เพราะแม่ชอบเพนกวิน
ชอบๆๆๆ ตัวนาก มีเก้าตัว ร้องเจี๊ยบๆจิ๊บๆเหมือนนก ร้องไปสั่นงั่กๆไป น่าสงสาร พอเห็นคนมามองมันก็จะยืนสองขาแล้วมองหน้า ประมาณว่ามีอะไรให้กรูกินไหมๆๆๆ
ไอ้ตัวกลมๆสีเผือกที่มีแต่หูโผล่ออกมามันคือตัวกินมดอะไรสักอย่างค่ะ หน้ามันจะยาวๆ แต่นี่เขานอนหลับอยู่ โคตรขำ นี่ท่านอนเหรอเนี่ย เห็นแต่หูปุ๊ดออกมา นอนทับหัวตัวเอง
นรามาเพื่อดูไอ้ตัวนี้แหละ เมียร์แคท มันก็คือทีโมนเพื่อนพุมบ้าในเรื่องไลอ้อนคิงนั่นเอง ตัวจริงน่ารักกว่าเยอะ หน้าตามันเหมือนหมาเล็กๆ จมูกแหลมๆ ตอนจะถ่ายรูปนราเพิ่งกินช็อกโกแลตเสร็จ ก็กำห่อฟอยล์เอาไว้ในมือ แล้วมันคงได้ยินเสียงกรอบแกรบๆมั้ง วิ่งมาหากันใหญ่ มาแล้วยกสองขาหน้า น่ารักกกก อยากเอากลับบ้าน ที่ฮากว่านั้นคืออากาศมันหนาว ทางสวนสัตว์ก็เลยเอาไฟแดงๆอุ่นๆมาติดในบ้านมันให้ แล้วเมียร์แคทมันก็ยืนเด่อยู่อย่างนั้นทั้งวันแหละ ใต้ไฟแดงๆ ประมาณว่าอาบแดด
ยืนดูตัวนี้นานๆก็เห็นเหมือนที่เนชันแนลจีโอฯบอกไว้เลยว่าเมียร์แคทมันจะมียามเฝ้าฝูง จะมีตัวนึง (ไอ้อ้วนในรูปนี่แหละ) นั่งพุงย้อยอยู่บนคบไม้ ตัวอื่นก็กินก็เล่นกันไป ตัวนี้ก็จะล่อกแล่กๆตลอดเวลา
ลิงดำๆ คือลิงมาคาก มีลูกสี่ตัว โคตรซน
สวนสัตว์ไม่กว้างมาก นราเดินจนสวนสัตว์ปิดก็พอดีดูครบเกือบหมด เอาไว้คราวหน้าอากาศดีๆค่อยไปใหม่ จะได้เห็นกอริลลาเต็มๆซะที ก่อนกลับซื้อถุงมาใบนึงราคาหนึ่งปอนด์ เป็นถุงใส่ของธรรมดา กะเอาไว้ใส่ของตอนช็อปปิ้ง.
ออกมาจากสวนสัตว์ก็เริ่มมืดแล้ว วันนี้สงสัยเดินเยอะเลยไม่ค่อยหนาว ออกจะอุ่นจนร้อนด้วยซ้ำ ป้ายต่อไป จอดที่ห้างแฮร์รอดส์ค่ะ นั่งสายสีน้ำเงินมาลง Knightsbridge ขึ้นมาปุ๊บเจอทันทีเลย คนไทยเยอะมาก ได้ยินเสียงภาษาไทยดังเชียว มีอีตาคนนึงนะ เจอเฮียตั้งแต่ในรถไฟ หัวเราะโคตรดัง แถมหัวเราะทุเรศด้วย แบบหัวเราะเสียงหมูอ่ะ ฮ่า ฮ่า เอิ่กๆๆๆ ฮ่าๆ เอิ่กๆๆ โคตรน่ารำคาญเลยให้ตาย แถมตอนไปช็อปก็บ่นอยู่นั่นน่ะ ทำไมคนไทยต้องมาแฮร์รอดส์ด้วยวะ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย แต่มือแม่งหยิบไม่หยุดเลยของอ่ะ
เอ๊ะ กลายเป็นนินทาคนอื่นได้ไง สรุปว่านราได้ประเป๋าแฮร์รอดส์มาห้าใบค่ะ แฮะๆ ของแม่สองใบ แล้วอีกสามมาจากไหนไม่รู้ ตอนนั้นมันหมดสติไป ตื่นมาก็จ่ายตังแย้ว
.
ไหนๆก็ออกมาแล้ว ด้วยความซ่านราก็ร่อนต่อไปที่ Chinatown ลงสถานี Leicester Square หิวมากๆ ไส้กิ่วเลย เพราะไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้า กินช็อกโกแลตไปแท่งเดียวกับน้ำนิดหน่อย พอดีนึกขึ้นได้ถึงเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงเป็ดโฟร์ซีซั่น เลยเอาซะหน่อย จะอร่อยอะไรนักหนา
นราสั่งบะหมี่เกี๊ยวกุ้งหนึ่งชาม แล้วก็เป็ดย่างผัดกับหน่อไม้ แพงนะจานตั้งหกปอนด์ครึ่ง จริงๆจะให้ดีต้องกินแบบที่ย่างครึ่งตัว แต่กินคนเดียวมันออกจะเยอะไปหน่อยแถมเกินงบด้วย ผลปรากฏว่าเป็ดก็อร่อยแหละ ตอนร้อนๆก็อร่อยมาก แต่ที่อร่อยจนน้ำตาจะร่วงคือเกี๊ยวกุ้ง อ่อยยยย กุ้งเป็นกุ้ง กัดไปเจอแต่กุ้ง ฮืออออ อร่อย มื้อนี้โดนไปสิบหกปอนด์ บวกทิปอีกปอนด์นิดๆ
.
หมดเวลา ต้องกลับแล้ว อยู่ดึกกลัวโดนปล้น ยิ่งสวยๆอยู่ด้วย
คืนนี้ลอนดอนหิมะตก คนลอนดอนตื่นเต้นกันใหญ่ พยายามจะลากนราไปถ่ายรูป เหอะๆ ตอนนี้ที่ยอร์กหิมะหนาท่วมข้อเท้าแล้วหละ นราไม่ตื่นเต้นอย่างยิ่ง
นี่ถ่ายที่หน้าบ้านกับบี เพื่อนที่ให้ไปนอนด้วย
เหลืออีกหนึ่งวันก็ต้องกลับไปเจอกับโลกแห่งความจริงที่ยอร์กแล้ว หนาว แถมงานยังไปไม่ถึงไหนอีก คิดแล้วเหนื่อย แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ มันมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในวันสุดท้ายนี่แหละ อยากรู้ต้องติดตามนะ อย่าลืมเมนท์ให้หนูด้วย ดีใจที่เห็นว่าเพื่อนๆติดตามบล็อกอยู่ค่ะ
นราเคยไปกินร้านบิ๊กบะหมี่ แถวแจ้งวัฒนะไหม
ตอบลบกลับมาต้องไปให้ได้นะ
เกี๊ยวกุ้งชามละ 40 บาท มีอยู่สัก 6-7ตัว
แต่ละตัวมีกุ้งอยู่ 2-3 ตัว กัดไปกรอบอร่อยเด้งดึ๋งงงงง
อิอิ ห้ามพลาดๆๆๆ
รอดูตอนต่อไปจ้าาา
สวยจัง...ดอกไม้(ฮ่าๆ)
ตอบลบตัวกินมดมันนอนน่ารักดีอะนรา ตอนแรกเห็นรูปยังไม่ได้อ่านบรรยายภาพ นึกว่ากระต่ายยักษ์ หูมันแรบบิตมาก ฮุๆ
แพนกวินก็น่ารักได้อีก
เห็นเมียร์แคทแล้วก็อยากดูเดอะไลออนคิงใหม่ ฮ่าๆ
น่ารักจัง เมียร์แคทผิงไออุ่น
หนาวจริงๆเนอะ วันนี้ก็ดูข่าว เนเธอแลนด์ติดลบ 42องศา โอ้วแม่เจ้า อยู่กันได้ไงคะเนี่ย
..............
เรื่องสุดท้าย อยากบรรยายยาวๆ
แต่วันนี้ไปฟิตเนสมา ตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่ง (เช้า) จนถึง บ่ายโมงครึ่ง เข้าไปเต้นๆฮิปหอบ ( เหนื่อยมากจนหอบ ฮ่าๆๆ) กับบอร์ดี้คอมแบต แมเจ้า รอบเช้าฮิปฮอปก็ว่าเหนื่อยแล้ว ยังคะ ไอ้มุกอยากเฟิร์มจัด เลยต่อด้วยบอร์ดี้คอมแบต แม่เจ้าาาา ไงละ ตะคริวเกือบแดรกน่อง
ตอนนี้ทั้งช่วงเข่า สะโพก ปีกแขน ปวดเมื่อยไปหมดแล้วหละคะ ฮ่าๆๆๆ
ว่าแต่พล่ามมานาน ว่าจะเม้าท์เรื่องเกี๊ยวกุ้งนะเนี่ย
ดูมันตัวใหญ่สมกับที่มันเป็นเกี๊ยวกุ้ง ไม่ใช่เกี๊ยวหมูใส่กลิ่นกุ้งเหมือนบ้านเราเนอะ
แต่ก็นะ ราคามันก็สมเหตุสมผล
อยากกินเป็ดด้วย
นรากลับไปที่มหาลัย ลองเสิฟๆกับเป็ดที่หอดูจิ เอาไปตัวเดียวเค้าไม่รู้หรอก ฮ่าๆๆๆ
แล้วจะตามอ่านต่อนะ วันนี้ขอตัวไปนอนก่อน พรุ่งนี้จะไปโยคะร้อน เย็น ฮ่าๆ
กะผอมให้ทันรับปริญญาเลยนะ ( จะทันมั้ยเนี่ยอ่า...)
แล้วเจอกันจ๊า
ไหนแพนด้าคะ???????????????
ตอบลบฮ่าๆๆๆ ลืมไปว่าไม่มี แต่นะ สัตว์มันน่ารักทุกตัวเลยอ่ะ หาที่เมืองไทยไม่ได้ด้วย นราคงมีความสุขกับหมู่มวลดอกไม้ใบไม้สิคะ
หนูแนนจำได้ว่านราเคยทำรายงานเรื่องดอกไม้หนามากกๆๆๆๆ
ตอนม.ปลาย ยังเก็บไว้ไหม
หนูแนนก็อยากไปสวนสัตว์เหมือนกัน แต่ไม่มีเด็ก ถั่วก็ยังไม่รู้เรื่อง
มาสวนสัตว์ที่ไทย ต้องเอาเด็กไป ผู้ใหญ่เข้าไม่ได้อ่ะ มันดูแปลก
เป็ดน่ากินมากค่ะ เกี๊ยวก็น่ากิน ทงคัตสึบล็อกก่อนก็หน้ากิน
ทิปนี่ต้องให้เท่าไหร่อ่ะ ไม่ให้ได้ไหมคะ
แง...แง...อยากไปดูกะอุ้ยด้วยอ่ะ ทั้งสัตว์น่ารัก ๆ หาดูที่เมืองไทยก็ไม่ได้ พวกดอกไม้ก็ซ้วย สวย หาดูที่นี่ไม่ได้อีกเช่นกัน แต่ดอกอะไรนะ ฟุกเซีย ของอุ้ยนี่ มันคือ ดอกโคมญี่ปุ่น ใช่ปะ ไอ้ดอกนี้มะแอ้เคยไปเห็นมาตอนไปปาย หมู่บ้านมณฑลจีนยูนนาน ตื่นเต้นเหมือนกันที่เห็นของจริง เคยเห็นแต่ในเน็ท ไม่ยักกะรู้ว่ามันอยู่ในอังกฤษได้ด้วยนิ นี่ถ้ามะแอ้ได้ไปดูด้วยตาตัวเองนะ คงถ่ายรูปดอกไม้จนเต็มเมมแน่ ๆ ก็อยากสวยซ้า
ตอบลบ*****
พวกสัตว์ที่สวนสัตว์ก็น่ารักดีเนอะ เมียร์แคตตัวอ้วนปุ๊กลุ๊ก นึกถึงการ์ตูนในไลออนคิงจริง ๆ ตัวเป็น ๆ หน้าตาหยั่งงี้นี่เอง อ่านไปแล้วเหมือนได้ไปเที่ยวกะอุ้ยด้วยเลย หนุกดี ไอ้ตัวกินมดที่นอนทับหัวตัวเองน่ะ เอมบอกว่า มันคือจิงโจ้ค่ะ สงสัยเธอยังไม่ได้อ่านเนื้อเรื่อง ตอนวันเด็กเอมอยากไปเที่ยวเขาดิน แต่พอเจอมหกรรมรถติดมาราธอนเลยเปลี่ยนใจ ต้องไปวันหลัง ถ้าเขาเลือกได้คงอยากไปเที่ยวที่สวนคิวนี่มากกว่านะ
*****
ที่อุ้ยอร่อยจนน้ำตาจะร่วง ก็บะหมี่เกี๊ยวกุ้งน่ะ แหม....อยากลองจัง ดูซิว่า จะสู้ชายสี่หมี่เกี๊ยวบ้านเราได้ป่าว ดูก็น่ากินดีนะ เกี๊ยวเป็นเกี๊ยว เป็ดเป็นเป็ด จะให้ดีขอสูตรเขากลับไปยอร์คจับเป็ดที่หอพักขึ้นเมนูซักจานแบบที่หนูมุกกุว่าก็ดีนะ
*****
ท้ายสุด ต้องขอขอบคุณน้องบีด้วยนะคะที่เอื้อเฟื้อที่พักให้อุ้ย มะแอ้ดีใจที่เขามีที่พักที่ปลอดภัยและไปไหนไม่หลงทาง เป็นห่วงแทบแย่แน่ะ ตอนนี้เกิดวิกฤติทางอากาศ เขาว่า หลายประเทศจะหนาวมากและหนาวนาน ยังไงก็ดูแลสุขภาพร่างกายให้อุ่น ๆ เข้าไว้นะจ๊ะ ไม่สบายมาแล้วไม่หนุกเลย หนูอุ้ยคอนเฟิร์มได้จ้ะ