วันนี้ตื่นแต่เช้า มีนัดไปเที่ยวเมืองเชฟฟิลด์กับเพื่อนๆ
ขึ้นรถไฟเที่ยวเก้าโมงกว่า ค่าตั๋ว 10.75 ปอนด์ นราทำบัตร 16-25Rail Card เพื่อใช้เป็นส่วนลดเวลาเดินทางโดยรถไฟด้วยเลยเสียไปอีก 26 ปอนด์ จนแต่เช้าเลยเรา
.
รถไฟวิ่งเงียบดี 50 นาทีก็ถึงแล้ว แต่เบาะตั้งตรงมากเมื่อยสุดๆ
ไปถึงสถานีรถไฟเมืองเชฟฟิลด์ตอนเกือบสิบโมงครึ่ง เชฟฟิลด์ต้อนรับด้วยสายฝนโปรยปราย เจริญ คนเพิ่งจะหายไข้หายหวัด ดันมาหัวเปียกอีกแล้ว ความประทับใจแรกกับเชฟฟิลด์ให้ความรู้สึกเหมือนเมืองนี้เป็นผู้หญิงเรียบๆที่พยายามจะทำตัวเองให้สวย มีตึกกำลังสร้างใหม่ให้เห็นเยอะแยะไปหมด
ออกจากสถานีมาก็เจอมหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ฮัลลัมเลย
ใครอย่ามาบอกเชียวนะว่า โอ๊ย ไม่ติดลบหนิ ไม่หนาวหรอก
หนาวฉิบหายวายวอด บวกฝนตกด้วยก็ยิ่งหนาวเข้ากระเดื่องดำ
เมืองนี้มีปริมาณตึกสูงมากกว่ายอร์ก คนผิวสีก็เยอะกว่าด้วย
อาคารนี้สวยมาก เสียดายไม่ได้เข้าไป มันคือ National Gallery ค่ะ สถาปัตยกรรมแบบอะไรนราไม่รู้หรอก ลืมไปหมดแล้วที่เรียนมา แต่สวยมากเลย ดูแล้วคิดไปถึงบัคกิงแฮมพาเลซโน่นแน่ะ แต่อันนี้มันดูเขรอะๆหน่อย
ตอนถ่ายรูปสังเกตเห็นว่ามันมีชิงช้าสวรรค์อยู่ข้างหลัง เลยพากันเดินอ้อมไปดู
ฝันไปเถอะย่ะ ไม่ได้กินเงินฉันหรอก นราเลยรอข้างล่าง แต่เพื่อนคนเยอรมันกับปากีฯขึ้นไปกันสองคน เขามีบริการถ่ายรูปให้ฟรีด้วย
ไอ้ชิงช้าสวรรค์นี่ มันฉลาด ทำเป็นแพคเกจสำหรับคู่สวีทด้วย มีแบบที่ขายพร้อมแชมเปญให้ขึ้นไปจิบกันสองคนด้วยนะ ห้าสิบปอนด์มั้ง
ต่อไปก็เดินมั่วไปจนเจอมหาวิหารของเขาค่ะ Sheffield Cathedral เทียบกับของยอร์กแล้วกระจิ๋วหลิวจังเลย ฮิฮิฮิ
หลังเล็ก แต่ข้างในสวยนะ สะอาดด้วย
มีกระจกสีสองสามบานโตๆ ต้นคริสต์มาสใหญ่ๆห้อยกุ๊งกิ๊งเต็มไปหมด
ในวิหารจะแบ่งเป็นโซนๆ นราก็ไม่รู้หรอกว่าส่วนไหนเขาใช้ทำอะไรกันบ้าง แต่รู้ว่าบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์มาก จนนราหลับไปงีบหนึ่ง นั่งหลับตรงม้านั่งยาวๆแบบในหนังอ่ะแหละ ใครไม่รู้คงคิดว่ากำลังภาวนา
ไปอ่านป้ายจารึกหลุมฝังศพมา ก็รู้สึกว่าคนสมัยก่อนนี่ ตายเร็วแฮะ
บางทีก็จารึกถึงลูกที่ตายไป อายุประมาณสิบเดือนถึงสิบเอ็ดขวบ ที่ตายตอนแก่ๆก็มีแค่อายุประมาณหกเจ็ดสิบ แต่เดินแล้วก็เสียวขาวาบๆเหมือนกันนะถ้าคิดว่าข้างล่างมีกระดูกเขานอนอยู่
.
จะว่าไป ขอบ่นหน่อยก็ดี ว่าไอ้กลุ่มที่ไปด้วยกันนี่ มันดูแผนที่กันประหลาดที่สุดในโลก
ได้แผนที่มา แทนที่จะเลาะไปตามถนนตรง City Centre เพื่อไปชมสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ พวกพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า แกลเลอรี่อะไรแบบนี้ก่อน นี่เล่นฉีกขึ้นเหนือ ไม่มีห่านอะไรเลย เดินกันมั่วมาก ขึ้นเหนือไปดูแม่น้ำตื้นๆเห่ยๆสายนึง เดินกลับมา อ้อมโลกโดยไม่จำเป็น แล้วพอจะกลับเข้าเมืองมาดูพิพิธภัณฑ์ เขาก็ปิดกันหมดแล้ว กูจะบ้าตาย หนาวก็หนาว แล้วขากลับนะยังจะมีการเสนอแนะให้นั่งรถเมล์ไปเที่ยวทางใต้ด้วย แบบว่านั่งชมวิวไปเฉยๆอ่ะไม่ทำอะไร โดยที่ก็ไม่รู้หรอกว่าทางใต้มันมีอะไรมั่ง แต่ถึงมีมันก็มืดหมดแล้วนั่งไปจะเห็นอะไรวะ เสียเวลา
.
กลับเข้าเรื่อง
หลังจากไปอ้อมโลกมารอบนึง เพื่อนคนปากีฯเขาจะไปซื้ออาหารอิสลามกิน ไปๆมาๆก็เลยกินที่ร้านแขกกันหมด ชื่อร้าน Kebabish เจ้าของเป็นแขกขาวเตี้ยๆ หน้าไม่รับแขกอย่างแรง สีหน้าเหมือนไม่เคยรู้จักความสุขมาก่อนเลยในชีวิต
ไม่รู้จะกินอะไร ของทอดๆก็กินไม่ได้ แกงกระหรี่ก็มันย่องเชียว เลยสั่งชีสเบอร์เกอร์ไป 2.50 ปอนด์ สิ่งที่ได้มาคือ ขนมปังเบอร์เกอร์ และ เนื้อแผ่น จบ ไม่มีผัก ไม่มีซอส ไม่มีห่าเหวอะไรทั้งสิ้น ฟาย อย่างนี้กรูไปกินแมคโดนัลด์ดีกว่าไหมเนี่ย แล้วจะบอกว่ากินเสร็จสักพักท้องเสียด้วยแหละ
แต่อาหารอย่างอื่นเขาหน้าตาก็น่ากินดีนะ เพื่อนสั่งเคบับเนื้อแกะกับมันทอดมา โคตรน่ากินเลย เสียดายตอดไม่ได้เพราะยังไออยู่
.
จากนั้น วิถีแห่งความมั่วก็พาเราขึ้นรถเมล์มาลง Weston Park
มีพิพิธภัณฑ์ด้วย เข้าฟรี อยู่ในเขตมหาลัยเชฟฟีลด์
เป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ เพิ่งสร้างเมื่อปี 2007 ตอนนี้เขากำลังมีนิทรรศการเรื่องแมลงอยู่ แต่หลักๆแล้วเขาจะจัดแสดงเรื่องประวัติของเมืองและชีวิตของผู้คนตั้งแต่สมัยเก่าก่อน
มีอยู่ตู้หนึ่ง เขาบอกว่าเป็นของที่กู้มาได้จากเรือหรือรถไฟนี่แหละ เป็นหีบใส่ข้าวของส่วนตัว ข้างในเป็นพวกอุปกรณ์สาวใช้ เห็นแล้วเหนื่อยแทน สาวใช้สมัยก่อนทำงานหนักมากค่ะ แค่อุปกรณ์ขัดเตาผิงอย่างเดียวก็เป็นสิบโลแล้วมั้ง แถมดำปื๋อเลย
วันนี้ได้เห็นกิ้งกือที่ใหญ่ที่สุดที่เคยเห็นมาในชีวิต
เคยเห็นกิ้งกือยักษ์ไหม ที่เวลาเอาไม้เขี่ยแล้วมันจะม้วนตัวเป็นเลขหนึ่งไทย เวลามันเดินจะเห็นขามันพริ้วเป็นระลอกสวยงามเหมือนจินตลีลาร่วมสมัย
ของบ้านเราเป็นสีแดงทับทิมสวยงาม เห็นแล้วพอทำใจได้
แต่กิ้งกืออังกฤษ สีดำสนิท กรี๊ด กิ้งกือนิโกร
ใหญ่มาก สูสีไส้กรอกบิ๊กไบท์ที่เซเว่นเลยอ่ะ ม้วนๆเอกเขนกเป็นรูปเพรทเซลของอานตี้ส์แอนน์ โอ๊ย สยอง เห็นแล้วขนหัวลุก
ประมาณสี่โมง ฟ้าก็มืด อุณหภูมิเหมือนจะลดลงอีก
นราเดินตามหาบัตรเติมเงินของเครือข่าย IDT มาตั้งแต่เช้า ไม่มีร้านไหนมีเลย เครื่องเสียแม่งทุกร้าน กำลังคิดว่าสงสัยพรุ่งนี้ต้องเข้าเมืองเพื่อไปซื้อซะละมั้ง ก็พอดีเลี้ยวเข้าซูเปอร์มาเก็ตชื่อสปาร์ เสือกมีซะงั้น ลั้นลามากมายไม่ต้องออกไปหนาววันพรุ่งนี้แล้ว เขาพยากรณ์ว่าพรุ่งนี้อากาศจะติดลบซะด้วย กลางคืนจะลบห้า ฉันขอนอนอยู่ห้อง เอาผ้าไปซักเตรียมไปลุยลอนดอนดีกว่าย่ะ
เชฟฟิลด์ตอนกลางคืนก็สวยดีนะ มีทางรถรางด้วย
หลังเล็ก แต่ข้างในสวยนะ สะอาดด้วย
มีกระจกสีสองสามบานโตๆ ต้นคริสต์มาสใหญ่ๆห้อยกุ๊งกิ๊งเต็มไปหมด
ในวิหารจะแบ่งเป็นโซนๆ นราก็ไม่รู้หรอกว่าส่วนไหนเขาใช้ทำอะไรกันบ้าง แต่รู้ว่าบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์มาก จนนราหลับไปงีบหนึ่ง นั่งหลับตรงม้านั่งยาวๆแบบในหนังอ่ะแหละ ใครไม่รู้คงคิดว่ากำลังภาวนา
ไปอ่านป้ายจารึกหลุมฝังศพมา ก็รู้สึกว่าคนสมัยก่อนนี่ ตายเร็วแฮะ
บางทีก็จารึกถึงลูกที่ตายไป อายุประมาณสิบเดือนถึงสิบเอ็ดขวบ ที่ตายตอนแก่ๆก็มีแค่อายุประมาณหกเจ็ดสิบ แต่เดินแล้วก็เสียวขาวาบๆเหมือนกันนะถ้าคิดว่าข้างล่างมีกระดูกเขานอนอยู่
.
จะว่าไป ขอบ่นหน่อยก็ดี ว่าไอ้กลุ่มที่ไปด้วยกันนี่ มันดูแผนที่กันประหลาดที่สุดในโลก
ได้แผนที่มา แทนที่จะเลาะไปตามถนนตรง City Centre เพื่อไปชมสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ พวกพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า แกลเลอรี่อะไรแบบนี้ก่อน นี่เล่นฉีกขึ้นเหนือ ไม่มีห่านอะไรเลย เดินกันมั่วมาก ขึ้นเหนือไปดูแม่น้ำตื้นๆเห่ยๆสายนึง เดินกลับมา อ้อมโลกโดยไม่จำเป็น แล้วพอจะกลับเข้าเมืองมาดูพิพิธภัณฑ์ เขาก็ปิดกันหมดแล้ว กูจะบ้าตาย หนาวก็หนาว แล้วขากลับนะยังจะมีการเสนอแนะให้นั่งรถเมล์ไปเที่ยวทางใต้ด้วย แบบว่านั่งชมวิวไปเฉยๆอ่ะไม่ทำอะไร โดยที่ก็ไม่รู้หรอกว่าทางใต้มันมีอะไรมั่ง แต่ถึงมีมันก็มืดหมดแล้วนั่งไปจะเห็นอะไรวะ เสียเวลา
.
กลับเข้าเรื่อง
หลังจากไปอ้อมโลกมารอบนึง เพื่อนคนปากีฯเขาจะไปซื้ออาหารอิสลามกิน ไปๆมาๆก็เลยกินที่ร้านแขกกันหมด ชื่อร้าน Kebabish เจ้าของเป็นแขกขาวเตี้ยๆ หน้าไม่รับแขกอย่างแรง สีหน้าเหมือนไม่เคยรู้จักความสุขมาก่อนเลยในชีวิต
ไม่รู้จะกินอะไร ของทอดๆก็กินไม่ได้ แกงกระหรี่ก็มันย่องเชียว เลยสั่งชีสเบอร์เกอร์ไป 2.50 ปอนด์ สิ่งที่ได้มาคือ ขนมปังเบอร์เกอร์ และ เนื้อแผ่น จบ ไม่มีผัก ไม่มีซอส ไม่มีห่าเหวอะไรทั้งสิ้น ฟาย อย่างนี้กรูไปกินแมคโดนัลด์ดีกว่าไหมเนี่ย แล้วจะบอกว่ากินเสร็จสักพักท้องเสียด้วยแหละ
แต่อาหารอย่างอื่นเขาหน้าตาก็น่ากินดีนะ เพื่อนสั่งเคบับเนื้อแกะกับมันทอดมา โคตรน่ากินเลย เสียดายตอดไม่ได้เพราะยังไออยู่
.
จากนั้น วิถีแห่งความมั่วก็พาเราขึ้นรถเมล์มาลง Weston Park
มีพิพิธภัณฑ์ด้วย เข้าฟรี อยู่ในเขตมหาลัยเชฟฟีลด์
เป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ เพิ่งสร้างเมื่อปี 2007 ตอนนี้เขากำลังมีนิทรรศการเรื่องแมลงอยู่ แต่หลักๆแล้วเขาจะจัดแสดงเรื่องประวัติของเมืองและชีวิตของผู้คนตั้งแต่สมัยเก่าก่อน
มีอยู่ตู้หนึ่ง เขาบอกว่าเป็นของที่กู้มาได้จากเรือหรือรถไฟนี่แหละ เป็นหีบใส่ข้าวของส่วนตัว ข้างในเป็นพวกอุปกรณ์สาวใช้ เห็นแล้วเหนื่อยแทน สาวใช้สมัยก่อนทำงานหนักมากค่ะ แค่อุปกรณ์ขัดเตาผิงอย่างเดียวก็เป็นสิบโลแล้วมั้ง แถมดำปื๋อเลย
วันนี้ได้เห็นกิ้งกือที่ใหญ่ที่สุดที่เคยเห็นมาในชีวิต
เคยเห็นกิ้งกือยักษ์ไหม ที่เวลาเอาไม้เขี่ยแล้วมันจะม้วนตัวเป็นเลขหนึ่งไทย เวลามันเดินจะเห็นขามันพริ้วเป็นระลอกสวยงามเหมือนจินตลีลาร่วมสมัย
ของบ้านเราเป็นสีแดงทับทิมสวยงาม เห็นแล้วพอทำใจได้
แต่กิ้งกืออังกฤษ สีดำสนิท กรี๊ด กิ้งกือนิโกร
ใหญ่มาก สูสีไส้กรอกบิ๊กไบท์ที่เซเว่นเลยอ่ะ ม้วนๆเอกเขนกเป็นรูปเพรทเซลของอานตี้ส์แอนน์ โอ๊ย สยอง เห็นแล้วขนหัวลุก
ประมาณสี่โมง ฟ้าก็มืด อุณหภูมิเหมือนจะลดลงอีก
นราเดินตามหาบัตรเติมเงินของเครือข่าย IDT มาตั้งแต่เช้า ไม่มีร้านไหนมีเลย เครื่องเสียแม่งทุกร้าน กำลังคิดว่าสงสัยพรุ่งนี้ต้องเข้าเมืองเพื่อไปซื้อซะละมั้ง ก็พอดีเลี้ยวเข้าซูเปอร์มาเก็ตชื่อสปาร์ เสือกมีซะงั้น ลั้นลามากมายไม่ต้องออกไปหนาววันพรุ่งนี้แล้ว เขาพยากรณ์ว่าพรุ่งนี้อากาศจะติดลบซะด้วย กลางคืนจะลบห้า ฉันขอนอนอยู่ห้อง เอาผ้าไปซักเตรียมไปลุยลอนดอนดีกว่าย่ะ
เชฟฟิลด์ตอนกลางคืนก็สวยดีนะ มีทางรถรางด้วย
ชิงช้าสวรรค์ พอเปิดไฟแล้วดูดีขึ้นนะ ค่อยน่ามองหน่อย
แต่พอคิดถึงรายงานที่ค้างอยู่ก็หมดอารมณ์สุนทรีย์ทันที
เชฟฟิลด์เป็นเมืองเรียบๆนะ คล้ายๆยอร์ก แต่ตึกแม่งโคตรเยอะ
มันดูปนๆกันเละๆยังไงก็ไม่รู้ เหมือนไม่มีอะไรเด่นสักอย่างเลย
ก็เลยไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่
ก็ดีที่ได้มาเที่ยว แต่ให้มาอีกก็คงไม่เอาละ
นาฬิกาตรง National Gallery มองๆเหมือนบิ๊กเบนเลยแฮะ
บิ๊กเบนก็เห็นแล้ว ชิงช้าสวรรค์คล้ายๆ London Eye ก็เห็นแล้ว
ไม่ต้องไปดูที่ลอนดอนแล้วละ ไปที่อื่นดีกว่า กั่กๆ
เมื่อวานเพิ่งจองตั๋วไป Tower of London กับสวนสัตว์มา แล้วด้วยความชุ่ยตามสไตล์ ก็จองผิดวัน เปลี่ยนตั๋วไม่ได้ด้วย ฮ่าๆ เดือดร้อนต้องมาแก้ตารางกันใหม่ เซ็งตัวเองจริงๆ
แต่คราวนี้ นราต้องศึกษาประวัติความเป็นมาของ Tower หน่อยละ จะได้รู้ว่าเหตุการณ์อะไรมันเกิดขึ้นตรงไหนบ้าง ไม่งั้นไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร เหมือนไปดูกองหินเปล่าๆ ไม่มีความหมาย
ตอนนี้กลัวเรื่องเดียว คือหลงทาง หลงทู้บใต้ดิน
ซื้อสตรอเบอร์รีทาร์ตมาสองชิ้น ทำลายหลักฐานเรียบร้อย
อา หย่อย ม้ากมาก หวานๆ เปรี้ยวๆ
ช่วงสี่ห้าวันนี้ ก็อ่านเอนทรี่นี้ไปก่อนนะคะ
นราไปลอนดอนวันจันทร์ถึงพุธ ก็คงไม่ได้อัพบล็อกเพราะไม่ได้เอาคอมไปด้วย หนักจะตายแถมไม่มีเน็ทอีก เอาไว้กลับมาจะมาโม้ให้ฟังนะ เป็นกำลังใจให้นราด้วย ขออย่าให้เจอคนไม่ดี ขออย่าให้ของหาย ขออย่าให้เงินหมดเร็ว ขอให้ไม่หลงทาง ขอให้อิ่มจังตังอยู่ครบด้วย
ไปนอนละค่ะ บิ้วๆ
เชฟฟีลด์ตอนกลางคืนสวยกว่าเยอะเลยเนอะ
ตอบลบขำจินตลีลากิ้งกืออ่ะ นราคิดได้ไง ฮามากกกก
ขอให้เดินทางไปและกลับจากลอนดอนโดยสวัสดิภาพนะคะ
ไม่อยากนึกภาพกิ้งกืออังกฤษของอุ้ยเลยอ่ะ แค่กิ้งกือไทยเนี่ยก็ทำเอาแม่ขนลุกขนพองทุกทีที่เห็นมันม้วนตัว ทั้งเกลียด ทั้งกลัว บรื๊อววว์
ตอบลบ*****
วิวที่เมืองนี้ก็สวยดีนะ โดยเฉพาะชิงช้าที่ถ่ายตอนกลางคืน บางรูปก็ดูอึมครึม น่ากลัว ๆ ไงไม่รู้แฮะ
*****
ไปลอนดอนก็ขอให้อย่าหลงทางนะ เป็นห่วงนะเนี่ย ไปต่างบ้านต่างเมือง ไปไหนมาไหนก็หมั่นสังเกตุและจดจำเส้นทางดี ๆ ขอให้เจอคนดี ๆ ใจดี ๆ ละกัน และขอให้ตังค์อยู่ตุงกระเป๋านะจ๊ะ เที่ยวให้สนุก ดูแลตัวเองดี ๆ ด้วย