วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2552

Reality Draws Near: Mowing My Way to England

ดอกเชอร์รีที่เอามาอวดเมื่อหลายเอนทรีก่อนหน้านี้
กลายเป็นลูกเชอร์รีหมดแล้วค่ะ
เห็นเป็นจุดแดงๆ เต็มต้นไปหมดเลย


ใครที่คุยกับนรามาเรื่อยๆ และตกเป็นเหยื่ออารมณ์อยู่บ่อยๆ
จะทราบดีว่า นราไม่ได้ตื่นเต้นดีใจกับการที่ได้ไปเรียนเมืองนอกเลย
จริงอยู่ที่นรายินดีและซาบซึ้งกับโอกาสที่ทางมหาลัยมอบให้
แต่เรื่องไปเรียนต่อนอกนี่ก็ทำให้นราปวดใจทุกครั้งที่คิดถึง
..................................

สำหรับคนที่ไม่ชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆ พบปะผู้คนและสังคมใหม่ๆ
และปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรม อากาศ รวมทั้งภาษาที่ไม่ใช่ของเราอย่างนรา
การที่ต้องไปโดดเดี่ยวอยู่คนเดียว เรียนคนเดียว ใช้ชีวิตคนเดียวนานๆ
มันไม่สนุกเลย

ถ้าใครมีลูก มีหลาน
ถ้าเขาไม่อยากไปเรียนนอกจริงๆ ก็อย่าบังคับเขาเลย
ถ้าเขาไม่ชอบ มันก็ไม่สนุกหรอก
ไม่รู้จะหันไปหาใครเวลามีปัญหา
ไม่มีคนกอด ไม่มีคนปรึกษาใกล้ชิดให้สบายใจ
ใครจะว่าอ่อนแอก็แล้วแต่ คนเราร้อยแปดพันเก้า
นราแค่อยากหาเส้นทางชีวิตที่เหมาะกับตัวเองในชาตินี้เท่านั้นแหละ
เพราะชาติหน้าก็ไม่รู้จะไปเกิดเป็นหอยแครงแมงกะพรุนที่ไหน
.................................

แต่นิสัยอย่างนรา ถึงไม่ชอบ แต่ถ้าต้องทำ ก็จะทำให้ดีที่สุด
เพราะงั้นทางมหาลัย ครอบครัว และที่รักก็ไม่ต้องกลัวว่านราจะไปทำตัวกเลวราชที่โน่นละ
สู้ตายอยู่แล้ว จะได้รีบกลับมาเมืองไทย
เมืองที่ใช้นายกฯ เปลืองที่สุดในโลกเร็วๆ

เข้าเรื่องดีกว่า

เมื่อวานกับวันนี้ นราขอลางานสองวันเพื่อไปติดต่อเอเจนท์ของมหาวิทยาลัยในอังกฤษที่นราจะสมัคร
ได้แก่ University of York, University of Warwick, University of Durham และ King's College London
แต่ละม. เอเจนท์ก็กระจายกันไปทั่วกรุง สี่ม. สี่แห่ง
นรากับเติ้ลที่มาเป็นเพื่อน ก็เลยได้ร่อนกันทั่วกรุงเหมือนเก็บป้ายแรลลี่

เดินทางไปทั่วเมืองอย่างนี้ ซื้อตั๋วที่ละใบไม่คุ้มแน่ค่ะ
ขอแนะนำให้ซื้อตั๋วบุฟเฟ่ต์สำหรับหนึ่งวันไปเลยดีกว่า ร้อยยี่สิบบาท
ไม่ต้องเสียเวลาเข้าแถวแลกเหรียญหลายรอบด้วย
จะไปไหนก็ได้ ไม่จำกัดเที่ยวและระยะทาง
เมื่อวานนราร่อนจากอ่อนนุชไปหมอชิต หมอชิตไปราชดำริ
ราชดำริไปสยาม แล้วจากสยามก็กลับอ่อนนุช
มัวแลกเหรียญหยอดตู้ ตะวันได้ลับฟ้าก่อนพอดี


ไปหาหลายเอเจนท์ค่ะ แต่ที่ขอแนะนำ ต้อง SELT Education Link
ที่ยูเนี่ยนมอลล์ ชั้นเอฟห้า ใกล้กับเซ็นทรัลลาดพร้าว
เค้าเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยยอร์ก
ซึ่งอีกเอเจนท์หนึ่งที่เป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยเดอแรม ก็ดูแลอยู่เหมือนกัน
แต่นราก็เลือกจะถ่อมาหาที่นี่
เพราะ...หมีบริการแด...แหมบริการดี จริงๆ ไม่ได้โม้
ดูแลใกล้ชิดเหมือนเป็นลูกหลาน พูดเพราะ ให้ข้อมูลสำคัญโดยที่เราไม่ต้องขอเลย
ประทับใจตั้งแต่ตอนที่โทรไปหาครั้งแรกเลยแหละ

เกือบทั้งเช้าก็ร่อนไปร่อนมาตามที่บอก
เกือบบ่ายครึ่งโน่น ถึงเสร็จธุระ
ได้หนังสือคู่มือของยอร์กกับคิงส์คอลเลจมาอย่างละเล่ม หนักอ่ะ แต่ภาพสวย
กรอกเอกสารมากมาย นราให้จดหมายแนะนำสลับไปบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้ ฮ่าาา

มาถึงมาบุญครองปุ๊บ ทั้งนราทั้งเติ้ลตรงเข้าฟูจิเลย ไม่ไหวแล้วหิวมาก
อารมณ์เหมือนผู้แสวงบุญที่เจอโรงเตี๊ยมในที่สุด

เติ้ลสั่งชุดเกี๊ยวซ่าราเม็ง ชุดประจำเขาหละ มาทีไรไม่เคยสั่งอย่างอื่นเลย
แต่มันก็คุ้มจริงๆ แหละ น้ำซุปเขาอร่อยมากค่ะ
วันนี้เครื่องเคียงเป็นเต้าหู้ปลาราดน้ำไรสักอย่างลื่นๆ ใส่เห็ดหอม


ของนราสั่งชุดสุกี้หมู
(ทั้งกล่องมีหมูสามชิ้น แหว่งๆ ด้วย)
กว่าจะนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ไข้หวัดหมูอู๊ดกำลังระบาด
มันก็ลงไปย่อยในท้องหมดแล้ว
ถึงเขาจะบอกว่า หวัดนี่มันไม่ติดจากการกินเนื้อหมูหรอก นราก็ผวาอยู่ดี
ก็ใครจะไปรู้ละ เชื้อไวรัสตัวจิ๊ดจิ้ว มองก็ไม่เห็น รู้เหรอว่ามันอยู่ตรงไหนบ้าง


พออาหารมาปุ๊บ ก็ก้มหน้าก้มตากินกันทั้งคู่
เงียบกริบ ไม่มีใครพูดกับใครเลย ขม้ำอย่างเดียว ฮ่าาา
รักเติ้ลตรงเนี้ยแหละ
ไม่บังคับให้เราออดอ้อน หยิบอาหารป้อน แบ่งใส่จาน
เหมือนนางเอกแม่ศรีเรือนช่องสามซักเท่าไหร่
(นัยว่าเสียเวลากิน)

อุ๊ย ใช่ เรื่องนี้ไม่พูดไม่ได้
กินข้าวเสร็จ ก็ไปดูหนังกันค่ะ
X-Men Origins: Wolverine
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด
คุ้มร้อยยี่สิบอย่างแรงงงง
ให้ดูอีกก็ไม่เสียดายเงิน
ฮิวจ์ แจ็กแมน เท่สุดๆ กล้ามงี้เป็นมัดๆ แหมน่าจะกัดแขนเล่นเบาๆ
อยากกระซิบเบียดกายกระแซะ...เอ๊ะนี่มันพุ่มพวงนี่นา
เอาเป็นว่าเขาเท่ เขาล่ำ และตูดเขากลมกลึงขาวเนียนมาก
นี่ยังไม่นับกล้ามของไรอัน เรย์โนลด์ ที่ออกมาประมาณสิบนาทีแล้วก็หมดบทด้วยนะ
ฉากแอ็กชั่นสะใจ ฉากซึ้งสะเทือนอารมณ์ กล้ามอึ้ดๆ และตูดวูล์ฟเวอร์รีน
ทำให้ร้อยยี่สิบคุ้มค่าใดจะปานค่ะ ฮิ ฮิ ฮิ
(แต่เอ ของคนข้างๆ เราก็พอสูสีนะ ฮี่ ฮี่)

วันนี้ซื้อช็อกโกแล็ตมากล่องนึง
ช็อกโกแลตไส้เมลอน ถ่ายร่วมกับน้องโมเดลดาร์กสตอล์กเกอร์ส
เซียนโกะ, แซสควอทช์, และเจดาห์ โดห์มะ
สามคนนี้ไม่ได้ถ่ายตอนเอนทรี Models in Action ค่ะ
เดี๋ยวจะงอนซะก่อน


ข้างในมันเป็นแบบนี้


มันก็หอมดีนะ หอมกลิ่นเมลอน แต่ไม่อร่อยเท่าที่คิด
เสียดายตังนิดๆ แฮะ

และหลังจากที่นราได้รับคำแนะนำการรักษาสิวจากแนน
นราก็ไปตามหาผงโยคี แต่ไม่พบ
เลยเอาผงพิเศษตราร่มชูชีพมาแทนค่ะ
จากสูงสุดคืนสู่สามัญ
จากไปหาหมอ ฉีดยา กินยา ครั้งละหลายพัน ลดมาเหลือซองละสิบบาทอย่างที่เห็น


ใช้ดีไม่ดียังไง นราจะมาขยายผลวันหลังนะคะ
พรุ่งนี้ทำงานอีกแล้ว เฮ้อออ
ลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าเราก็เป็นคนทำงานเหมือนกัน
........................................

เติ้ล
ขอบคุณนะจ๊ะที่ไปเป็นเพื่อนทั้งสองวัน ทนหิว ทนร้อน ทนเมื่อย
ขอโทษน้าที่ลืมคูปองแถมของแม็คโดนัลด์
โยเก้นฟรุตฟรีอร่อยมาก แง่บๆ
อย่ามัวแต่เล่นไอ้มดแดง คิดถึงเค้ามั่งนะ

แนนคะ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ แต่นราหาผงโยคีไม่ได้อ่ะ
ญี่ปุ่นเป็นไงบ้าง เรียนหนักไหม
รักษาสุขภาพนะคะ
แล้วก็อัพบล็อกไวๆ หน่อย รอนานแล้ว

หมูหวาน
ได้ข่าวว่าไข้หวัดหมูโจมตีเกาหลีแล้ว
ระวังหน่อยนะ
เดี๋ยวได้ของแถมนอกจากภาษาเกาหลีมาด้วยละยุ่งเลย
แต่นราคิดว่า นราซวยกว่า
เพราะเดือนมิถุนา นศ. จากเม็กซิโกจะมาดูงาน
กรูจะติดไหมเนี่ย?

วิมโป้
ขอบคุณค่ะที่หลง เอ๊ย ตั้งใจแวะเข้ามา
นราก็ไปดูเพจของปัดแล้วนะ แต่ไม่รู้มันทิ้งข้อความตรงไหน
แวะมาเยี่ยมนราอีกน้า

มุกกุ
โชคดีในการสอบค่ะ เสร็จแล้วรีพอัพบล็อกรายงานนะ
นราจะตามติดเลย

...................................
...รอผลไอ้แอ๊วต่อไปด้วยใจระทวย...

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2552

IELTS: I'm Extremely Lousy, Terrible, and Stupid

ลากสังขารร่างกายและจิตใจที่บอบช้ำและร่วงโรย
มาระทดระทวยอยู่หน้าคอมค่ะ
ดูจากชื่อบทความก็คงพอจะเดากันออกว่าเพราะเรื่องอะไร
...........................

เอนทรี่นี้จะยาว แล้วภาพน้อยหน่อยนะคะ
เพราะนราจะเล่าเหตุการณ์วันอัปยศที่ไปสอบไอ้แอ๊วเมื่อวันเสาร์
เค้ายึดไปหมดทุกอย่าง ทั้งกระเป๋าถือ กระเป๋าตังค์ มือถือ
ไม่ถลกกางเกงในไปด้วยก็ดีเท่าไหร่แล้ว
เลยไม่มีรูปมาให้ดูนะ ทนอ่านหน่อยละกัน

เหตุการณ์นี้ เริ่มต้นเมื่อเวลาราว 7.45 น. เสาร์ที่ 25 เม.ย.
(จินตนาการเสียงเครื่องพิมพ์ดีดประกอบ)
นราไปสอบไอ้แอ๊วที่โรงแรมโนโวเทลสยามสแควร์ ตื่นเต้นมาก
ก่อนอื่นก็ไปเช็กชื่อและที่นั่ง
พบว่าตัวเองเป็นคนสุดท้าย เลข 000931 หกตัวพอดีเลย
เอาไปแทงหวยดีกว่า

แปดโมง ก็ไปลงทะเบียน และถูกยึดทรัพย์สินไปจนหมด
ตรวจสอบชื่อและที่นั่งแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ถามว่า
"Seat number อะไรคะ"
อิฟาย "เลขที่นั่ง" ภาษาไทยก็มี พูดไม่ได้หรือไง รึกลัวไม่รู้ว่ามาจากบริติชเค้าซิ่น?
แล้วมันก็พานราไปนั่ง

ห้องสอบหนาวมากกก ดีที่เอาเสื้อคลุมไปด้วย
คนคุมสอบเป็นฝรั่งอเมริกันอ้วนๆ แก่ๆ ฉุนกลิ่นบุหรี่
แต่ดูใจดีนะ
นั่งปุ๊บ ปัญหาแรกมาแล้ว
โต๊ะมันปูสักหลาด ซึ่งมันนิ่ม เวลาเขียนลงไปกระดาษจะบุ๋ม แล้วเขียนได้ช้าลง
วางกับดักกันตั้งแต่แรกเลยนะเนี่ย

ก็นั่งเงียบกันไปราวสิบห้านาที
แล้วกรรมการคุมสอบก็มาอธิบายๆ พวกกติกาต่างๆ
แล้วข้อสอบชุดแรกก็มา ร่ายเลยนะ

สอบฟัง:
เค้าเปิดซีดีให้ฟังรอบเดียว ระหว่างนั้นเราก็ต้องจดคำตอบลงไปในตัวคำถามให้ทัน ก่อนจะลอกมันลงไปในกระดาษคำตอบอีกที อันแรกเป็นบทสนทนาทางโทรศัพท์ คนอเมริกันคุยกับคนอังกฤษ
คือนราเนี่ย เวลาฟัง จะแยกสมองว่ากำลังฟังสำเนียงอะไรอยู่ อังกฤษ หรืออเมริกัน
แล้วมันเล่นผสมกันมาอย่างนี้ ก็แยกไม่ทัน
แต่ก็พอทำได้นะ
ที่เหลือเป็นเล่าเรื่องบ้าง โต้ตอบกันบ้าง
จดไปจดมา ตอนลอกลงกระดาษคำตอบ เสือกอ่านลายมือตัวเองไม่ออกอีก

สอบอ่าน:
ถูกขู่มาว่า เป็นพาร์ทที่ยากที่สุดของการสอบ
เปิดปุ๊บ อู้หู นี่มรึงเอาไบเบิลมาสอบกรูหรอ
เต็มพรึ่ดเลย แต่ไม่เป็นไร ท่องไว้ เจ็ดๆๆๆ
โชคดีของนรา ที่มันเป็นเรื่องต้นไม้ ผลไม้ และทีวี ซึ่งนราชอบอ่านอยู่แล้ว
ส่วนที่ยากที่สุด เห็นจะเป็นไอ้ TRUE, FALSE, NOT GIVEN นี่แหละ
หลักๆคือ แยกไม่ออกว่าอันไหนที่ผิด อันไหนที่ไม่มีบอกในเรื่อง
แล้วตัวหลอกเยอะมาก
คนออกข้อสอบนี่ เมพขิงๆ (ขอบคุณมุกสำหรับศัพท์ใหม่)

สอบเขียน:
เตรียมตัวมาเพื่ออันนี้โดยเฉพาะ
มันมีสองพาร์ทค่ะ พาร์ทแรกคะแนนน้อยหน่อย เป็นอธิบายกราฟ
ซึ่งนราก็ได้แจ้งทุกท่านไปแล้ว ว่าไม่ถนัดอย่างมาก
โชคดีที่อันนี้อ่านพอรู้เรื่อง เลยละเลงไป
ข้อมูลครบมั้ยไม่รู้ รู้แต่แกรมม่าร์กรูต้องระวัง ฮ่าาา
พาร์ทสองเป็นเขียนเรียงความเชิงอภิปรายและเปรียบเทียบสั้นๆ
เรื่องเกี่ยวกับว่า อินเตอร์เน็ทกับโรงเรียน อันไหนสำคัญกับเด็กมากกว่ากัน
นราทำอันนี้ก่อน(ตามที่อ่านจากเคล็ดลับในเน็ท) เพราะคะแนนเยอะกว่า
ไม่มั่นใจ แต่ก็พอใจในผลงานค่ะ

หมดสามอย่างนี้ ก็เหลือแต่สอบพูดตอนบ่าย
นราได้คิวคนสุดท้ายของวัน อื้อหือ ฟินาเล่ซะ
ไหนบอกจะสุ่มลำดับคนเข้าสอบไง นี่สุ่มแล้วเหรอ
ทำไมกรูยังเป็นคนสุดท้ายอยู่อ่ะ สอบตั้งหกโมงครึ่งด้วย
ระหว่างนั้นนราเลยไปแต๊ดแต๋กับเติ้ลที่สยามค่ะ
.........................

วันนี้ครบรอบที่อยู่ด้วยกันมาสองปีครึ่ง
ประหลาดใจ! ฟ้าผ่า! ตะลึงตึ่งตึ้ง!
เขามีดอกไม้มาให้ด้วย แอร๊ยยยยย
หายากนะเนี่ย


ปกติพ่อคนนี้เขาจะไม่โรแมนติกเท่าไหร่ค่ะ
ส่วนใหญ่จะลากกันไปหาของกินฉลองมากกว่า ก็เลยชื่นใจสุดๆ
ถือแกว่งไปแกว่งมาจนดอกไม้หมดสภาพเลย
นราซื้อการ์ดกับช็อกโกแลตให้ล่ะ แลกกันๆ

ตอนแรกว่าจะไปทานข้าวเที่ยงที่ฟูจิ
แต่แถวคนรอคิวยาวเหมือนแจกฟรี
เลยเปลี่ยนใจไปกินที่โกเบแทนค่ะ
หมูตุ๋นซอสเขาอร่อยดีนะ
แต่ตับกลิ่นตุๆ


หม้อต้มมันเล็กไปหน่อยอ่ะ
...............................

แอ่นแอ๊น
โยเก้นฟรูซ (ก็มันสะกดด้วย z อ่ะ) มิกซ์เบอร์รี
มีแบล็กเบอร์รี ราสป์เบอร์รี เรดเคอร์เรนท์ แล้วก็บลูเบอร์รีมั้ง
อร่อยดี เปรี้ยวๆ แต่เม็ดๆ ของราสป์เบอร์รีมันแข็งจังง่ะ
เคี้ยวแล้วเมื่อย
อันนี้เป็นส่วยจากคุณหมู ที่เราช่วยแปลเพลงให้เทอมที่แล้ว
ฮิ ฮิ คุ้มสุดๆ



ท่าสล้วบไม่สงวนลิขสิทธิ์นะคะ
...................................

เดินจนถึงห้าโมงเกือบครึ่ง ก็ส่งคุณหมูกลับบ้านก่อน
แล้วนราก็เดินกลับไปสอบพูดที่โรงแรม
พอไปถึง เพิ่งห้าโมงครึ่งเอง ห้องโล่งหมดแล้ว
ไอ้เราก็ตกใจ ดูนาฬิกา กรูก็มาถูกเวลานี่หว่า
แล้วทุกคนไปไหนหมด

ปรากฏว่าสอบเร็วกันกว่าที่คาด
ทุกคนมาสอบกันหมดแล้ว เหลือนราคนสุดท้าย โฮ่ยยย
โดนยึดข้าวของไปอีกหละ แล้วก็ถูกส่งเข้าแดนมิคสัญญี...

สอบพูด:
บอกตามตรงว่าจ๋อยไปเลย จิตตกมาก
มันน่าจะเป็นส่วนที่ง่ายที่สุดแท้ๆ แต่กลับทำได้ บ.ซ. ที่สุด
คนสอบเป็นฝรั่งผมขาว
นอกจากจะสำเนียงอังกฤษฟังยากแล้ว แกยังพูดเบา และพูดไม่เปิดปาก
นราสอบไม่ได้มองหน้าเขาเลยอ่ะ มองแต่ปากอย่างเดียว
เผื่อจะเข้าใจมากขึ้นว่าเขาพึมพำอะไร

เขาก็ถามแบบ จงอธิบายบ้านคุณซิ เวลามองออกไปนอกหน้าต่างคุณเห็นอะไร
นราก็คิด เอ อยู่บ้านกรูก็จ้องแต่คอม แต่ทีวี
เอาวะ ตอบไปว่า เห็นแต่หลังคาชาวบ้าน และท้องฟ้าแสนสวยก็แล้วกัน
..........................
สักพักเขาก็จะให้พูดหัวข้อตามที่เขากำหนด
ประมาณว่า สถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนที่ชอบไปที่สุด ทำไม เมื่อไร ยังไง บลาๆๆ
สมองนราตอนนั้นวิ่งจี๋เหมือนหนูถีบจักร
ทั้งตื่นเต้น นึกไม่ออก เกร็ง
สมองส่วนไวยากรณ์หดเล็กกว่าถั่วเขียวอีก

ตอบบ้าบอไรไปไม่รู้
ยิ่งตอนที่เขาขยายขอบเขตคำถามไปถึง การท่องเที่ยวกับประเทศไทย
ตอบมั่วซั่วสติแตกไปเลย
ไร้ซึ่งเป้าหมาย เหตุผล ไม่มีกระทั่งประโยคใจความหลัก
แบบว่าไหลไปได้ แต่ฟังแล้วดูไม่มีเหตุผล
แถมตอบผิดประเด็นไม่ต่ำกว่าสามครั้งด้วย
เดินออกมาด้วยความรู้สึก แบบ
แมร่ง ย้อนเวลาได้ไหมฟะ
..............................

คำคมวันนี้
คุณไม่ได้เก่งอย่างที่คนอื่นชมว่าคุณเก่ง
(โดยจอร์จ คลูนีย์)

คิดสะระตะดูแล้ว
ถ้าฟัง อ่าน เขียน นราได้ถึงเจ็ด (ถ้ามันถึงน่ะนะ)
หรือแม้กระทั่งถึงแปด
แต่พูดได้ห้าหรือหก คะแนนรวมมันก็แค่หกกว่าเอง
แบนด์ 7 ที่หวังไว้ ก็คงไปไม่ถึงแล้วละ...
โธ่ วิหยาสะกำตำบอนเอ๊ยยย

((ท่าจ๋อยหู่สไตล์แมวขนยาวบ้านเติ้ล))


แต่ยังไงนราก็ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้นะคะ
ผลสอบออกแปด พ.ค. แล้วจะประจานให้ทราบอีกที
............................

หมู้ว
ขอบคุณนะที่แว้บจากงานรวมห้องมาอยู่เป็นเพื่อนที่สยามและเป็นกำลังใจให้
ร้ากหมูที่สุดเลย
โยเก้นฟรูซอีกถ้วยอ่ะ เค้ารออยู่นะ

หนูแนน
อัพบล็อกแล้วนะ
แล้วก็ไปเม้นท์ให้แนนแล้วด้วย
อย่าลืม อย่าลืม
อัพเรื่องบัวลอยไวๆ นะ อยากอ่านมาก

มุกกุจัง
ขอบคุณค่ะสำหรับสูตรความสวย
แต่ไม่กล้าลองอ่ะ
เออ เปลี่ยนเป็นโยเกิร์ตรสสตรอเบอร์รี่แบบที่แนนบอกได้ไหมคะ
เวลาพอกเสร็จจะได้ไม่ต้องเช็ด
เลียเอาแทน ทั้งสวยทั้งอร่อยเลย

อวน
ขอบคุณที่มาเยี่ยมกันจ้า
คิดถึงเหมือนกันนะ
ได้เจอกันอีกก็คงดี

หมูหวาน
เมื่อก่อนนราไม่กินกิมจินะ
เพราะคิดว่ามันเผ็ด แต่เดี๋ยวนี้กินได้แล้ว
พริกเกาหลีมันไม่เผ็ดจริงๆ
แต่เรื่องของกินหวานนี่ ยังไม่รู้สึกนะ
สงสัยต้องไปกินที่เกาหลีหละมั้ง

บะบะบะบิ้วค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2552

Fighting My Way to Band 7

วันเสาร์นี้จะสอบไอ้แอ๊ว (IELTS) แล้ว
ไม่รู้มันจะโหดแค่ไหน
แต่เห็นจากแบบฝึกหัดและตัวอย่างจากปีก่อนๆ ก็น่าจะหนักหนาเอาการอยู่
นราก็เลยเป็นเด็กดี ขยันศึกษาหาความรู้
เอ อ่านหนังสือก่อนสอบสามวันนี่ เขาเรียกขยันได้ไหมอ่ะ


เล่มสีดำซื้อมาจากงานหนังสือ
บอกตามตรง อ่านไม่รู้เรื่อง มีแต่ศัพท์ไรไม่รู้ไม่เคยเห็น
และไม่รู้จะเริ่มตรงไหนด้วย เลยทำไปนิดหน่อย
แล้วมาฝึกพาร์ทเขียนในเล่มส้มดีกว่า

เพื่อที่จะเข้าคิงส์คอลเลจ นราต้องเอาคะแนนรวมให้ได้เจ็ด
โดยพาร์ทเขียน ต้องได้เจ็ดด้วย
โหดฮิหาย
หรือถ้าไม่หวังสูง ก็ต้องหกจุดห้า
ก็ยังพอเข้าที่ยอร์กได้
ถึงยังไม่ตาย ก็เห็นแล้วว่านรกมีจริง
แถมยังเห็นรอรำไรอยู่ข้างหน้าอีกด้วย
เกลียดเขียนอธิบายกราฟจริงๆ
นราดูภาพพวกนี้ไม่เก่ง เปรียบเทียบไม่ค่อยเป็น
เลยเข้าใจยากมาก


อากาศก็ยังคงร้อนตับแตกเหมือนเดิม
แต่วันนี้มีอะไรที่ไม่เหมือนเดิมค่ะ ฮิ ฮิ

ลูกตาลอ่อนลอยแก้ว
ซดมันทั้งยังงี้แหละ น้ำแข็งไม่ต้องแย้ววว


เป็นร้านที่อยู่ตรงแถวป้ายรถเมล์ใต้บีทีเอสอ่อนนุช
สุดยอดความหวานหอมอร่อยชื่นใจ
บางเจ้าเคยซื้อมากินแล้ว เหมือนกินพลาสติกหั่นแช่หัวน้ำเชื่อมเข้มข้น
หวานจนเลี่ยน แทนที่จะหายร้อนเลยยิ่งเหนียวคอเหนอะหนะ
แต่ของร้านนี้ ทานแล้วหายร้อนจริงๆ
น้ำเชื่อมไม่หวานมาก หวานธรรมชาติ เหมือนน้ำผสมรสลูกตาลอ่อนจางๆ
ส่วนเนื้อลูกตาลก็ไม่แก่เลย นิ่ม แทบจะละลายทันทีที่แตะลิ้น
ถ้าเปรียบเป็นภาพการ์ตูน
ก็ต้องทำตาปิ๊งปั๊งแบบเคลิบเคลิ้ม
มีกลีบดอกไม้ปลิวฟุ้งเป็นแบ็กกราวด์

อ่ะนี่ ซูม (ที่น้องโมฯ ทำได้ดีสุดเท่านี้) ชิ้นโตๆ เต็มช้อนเลยนะจ๊ะ


เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นวันเกิดของพี่ที่ทำงานคนหนึ่ง
ที่น่ารักแล้วก็คอยช่วยเหลือเรามาตลอด
เลยไปแวะซื้อของขวัญให้ย้อนหลังค่ะ
แหะแหะ มาช้ายังดีกว่าไม่มาเนอะ

เดินคิดอยู่ว่าจะซื้ออะไรดีนะ
นราเป็นพวกเลือกของขวัญ ของฝากไม่เก่ง
ตอนไปฮ่องกงก็ซื้อแต่ขนม ลูกอม เยลลี่อะไรไม่รู้มาจากดิสนีย์แลนด์
(ส่อสันดานเห็นแก่กินชัดๆ)
รู้งี้ซื้อพวกพวงกุญแจยังมีประโยชน์มากกว่าอีก

อุ๊ย นอกเรื่อง
คือจะบอกว่า เดินหาอยู่สักพัก
เหลือบไปเจอเจ้านี่ โป๊ะเชะเลยค่ะ
เหมือนศรกามเทพปักอกราบๆ ของนราว่า ชั้นต้องได้
เหลือกระปุกเดียวด้วย แถมมีคนมองๆ อยู่
นราเลยไม่รอช้า คว้าหมับแล้วเดินจากไปทันที

เจลอาบน้ำหมีพูห์ น่าร้ากกก


ชอบตรงที่มันมีไม้สำหรับจุ่มน้ำผึ้งแบบมินิมาให้ด้วยนี่แหละ
สีก็เหมือนน้ำผึ้ง กระปุกก็เหมือนไหน้ำผึ้งของหมูพี น่ารักได้โล่สุดๆ
จึงถูกสอยมาด้วยประการฉะนี้

ซูมฝามาดูกันใกล้ๆ
(สุดความสามารถน้องโมฯ แล้วเช่นกัน)


เจลนี้ หอมแบบน้ำผึ้งด้วยหละ
แต่ต้องค่อยๆ สูดนะ แบบเปิดฝาแล้วหายใจรวยริน
ถ้าสูดแบบ ซูดดดดดด ละก็ ไม่หอม
กลิ่นจะเหมือนสบู่ทั่วไปทันที
เอากลับบ้านมามีแต่คนแย่งขอดู
แถมถ้าไม่ห้าม น้องจุ่มชิมไปแล้ว
...เหมือนจัด...

เอาละ นราก็ยังคงจะสู้ต่อไปค่ะ
สอบแล้วจะมาเล่าให้ฟังนะ
ขอบคุณทุกคนที่มาอ่านแล้วเมนท์ให้ ชื่นใจจริงๆ
..........................

หมู
วันนี้ขอบคุณนะที่อุตส่าห์รอตั้งสามชั่วโมงแล้วไปหม่ำแมคด้วยกัน
ร้ากหมูสุดๆ

หนูแนนคะ
แมวบ้านนรามีแต่ลายนี้ค่ะ มีลายดำๆ ขาวๆ เละๆ อีกตัวด้วย
แต่ส่วนใหญ่ก็ลายเสือมาตรฐานแมวไทย ต่างกันแค่โทนสี
มีตั้งแต่ดำปี๋ ดำ น้ำตาล น้ำตาลออกเหลือง วัวเละๆ
หายเจ็บตาไวๆ นะคะ

มุกกุ
วันหลังเอาฝอยทองมาอวดมั่งฮี่
อยากเห็นบ้าง
นราก็สนเรื่องจับหนุ่มมาวายเหมือนกันนะ
เอาไว้เดี๋ยวจะลองดูค่ะ

หมูหวาน
น่าสงสาร อากาศหนาวแถมเป็นภูมิแพ้
นรานะพอหนาวมากๆ แล้วผื่นหนาๆ จะขึ้น
ประมาณว่าขูดออกมาทำแค็บหมูกินได้เลย
ยังไงก็รักษาสุขภาพนะ ขอบคุณที่มาเม้นท์จ้า

วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2552

Due to Ms. Ericsson's Death...

อันที่จริงก่อนหน้านี้
คิดว่าจะเอาภาพงานวันสงกรานต์ที่มหาลัยจัดย้อนหลังมาลง
แต่อนิจจา น้อง K750i ที่ร่วมทุกข์สุขกันมาแสนนาน
บัดนี้ถึงแก่กาลหมดอายุขัย
ชาร์จไฟไม่เข้า ขั้วเสื่อม โอนข้อมูลไม่ได้
ภาพงานสงกรานต์ที่เก็บไว้เลยแป้วไปโดยปริยาย
เสียดาย อุตส่าห์จะเอาภาพอ่างดอกกุหลาบมาอวดซะหน่อย

วันนี้เลยไม่มีอะไรจะมาอัพ
เอารูปหนุ่มสาวซิมส์ไปดูก่อนละกันนะ

ตอนนี้ซื้อมือถือเครื่องใหม่มาแล้วค่ะ
โมโต อีเอ็ม 30
แบนๆ กว้างๆ เหมือนรีโมท
กดยากฮิหาย
ใช้แล้วคิดถึงน้องโซนี่อิริคสันเป็นที่สุด

ท่านผู้ชมทั้งหลาย ดิอั๊นขอยืนยัน
บรรดามือถือใดๆ จะหามีกล้องดีไปกว่าโซนี่อิริคสันนั้นเป็นไม่มี
อันนี้พูดด้วยประสบการณ์ ไม่ได้รับเงินค่าโฆษณา
กล้องน้องโซฯ ตั้งไว้ที่สามแสนพิกเซล
ถ่ายออกมา ชัดกว่ากล้องสองล้านของน้องโมฯ แบบไม่เห็นฝุ่น
ถ่ายกลางคืนก็ไม่เห็นเป็นเส้นๆ ชัดเหมือนน้องโมฯ ด้วย


เดี๋ยวนี้หันไปทางไหน ก็เจอแต่เกาหลีๆๆๆ
ไม่ได้บอกว่าไม่ดี แต่เห็นมากๆ เข้ามันก็เบื่อ
แต่...เกาหลีช่วยท่านได้
เห็นมาแล้วกับตา บนรถไฟฟ้า
หนุ่มคนหนึ่ง สนนอายุอานามประมาณสิบเจ็ด
ผมเกาหลีมาก เป็นรากไทรย้อยและแผ่สาขาไปรอบด้าน
หน้าตาเหมือนเคน ธีรเดช ตอนโดนสิบล้อชนแล้วลากไปสามกิโล
เห็นจะๆ
มันก้มหัว เอารากไทรลงมาปิดหน้า
แล้วเอานิ้วไชเข้าจมูก คว้านขี้มูกอย่างเมามัน
โอ...เกาหลีช่วยท่านได้


ชอบหนุ่มอีโมผมบลอนด์คนนี้จังเลย
นานๆ จะถ่ายแบบนี้ออกมาได้ซะที
นราไม่เก่งคอมอะ อิลลัสเตรเตอร์ หรือโฟโต้ช็อปอะไรก็ใช้ไม่เป็น
กดแชะแล้วก็จบ
ถ้าแต่งภาพได้อาจจะดูดีกว่านี้

ตอนนี้ยังไม่ได้ตั้งชื่อค่ะ
ใครว่างมาตั้งชื่อให้หนุ่มซิมส์ of the month คนนี้หน่อยก็ดีนะ
เล่นกันหนุกๆ พอหายฟุ้งซ่าน
เดี๋ยวมีรางวัลแจก
(ไอ้กรุงเทพ-ลาสเวกัสนั่นยังดองไว้อยู่เลย ฮ่า)


............................................
ประมวลสภาพอากาศวันนี้...


(ท่านอนคลายร้อนของไนกี้)

ร้อนตับจะแต๊กกกก
น้องแมวสลบทั้งวัน ตื่นมาทีก็หายใจแฮ่กๆ
เคยเห็นแมวหอบไหม?
ตลกดี ลิ้นมันแลบออกมาแฮ่ๆ เหมือนหมาเลยอ่ะ
ไม่ยักรู้ว่าแมวก็หอบได้
..............................

เคล็ดลับความรู้ก่อนจาก
เวลาร้อนๆ ลองเปิดก๊อกน้ำ
แล้วเอาข้อมือไปรองให้น้ำไหลผ่าน
ซักพักนึง แล้วจะเย็นขึ้น
เพราะเส้นเลือดใหญ่ตรงข้อมือมันเย็นลง
เลยพาให้เลือดที่วิ่งพล่านไปตามเส้นเลือดทั่วตัวเราเย็นลงด้วย
แต่ถ้ายังไม่หายร้อน
ขอแนะนำให้
...
...
เปิดแอร์

จบข่าว

วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2552

My Sister's Sandwich

จ่างจ๊าง~
ในที่สุดก็มีกับเขาจนได้
บล็อกของกินฤดูร้อน ลันลา

แต่ไม่ได้ทำเองหรอกนะ
น้องสาวทำ ฮิ ฮิ
นรากลับจากทำงานมาปุ๊บ ก็มีของอร่อยไว้รอ
โอ้โห ความฝันตามมาตรฐานชายไทยเลยนะเนี่ย

น้องสาวบอกว่าแซนด์วิชนี้ชื่อ
"แซนด์วิชวันหยุดสุดว่าง"
ว่างตรงไหนฟะ เห็นออกไปทำงานทุกวัน (น้องทำงานที่เอสแอนด์พี)
แต่ก็ช่างเหอะ แซนด์วิชของเขานี่หว่า
เอ้า ของที่ต้องมีก็ได้แก่ ขนมปังปิ้งกรอบๆ ชีสแผ่น แฮม และน้ำสลัดหรือสเปรดตามชอบ


ก่อนอื่นก๊อเอาน้ำสลัดละเลงขนมปังปิ้งก่อนค่ะ ดูขนมปังมีความสุขที่ถูกโลมไล้ด้วยไม้พาย


จากนั้นก็เอาแฮมและชีสแผ่นปะลงไป
อาจจะดูรุ่งๆริ่งๆเหมือนแฟรงเกนสไตน์นิดหน่อย ไม่เป็นไร
คือเราเก็บวัตถุดิบทุกเม็ด เหลือเศษนิดเศษหน่อยก็เอามาใส่ให้หมด เสียดายของ


จากนั้นก็จัดการเลาะขอบค่ะ ระวังนิ้วด้วยนะคะ
แล้วก็หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมจัตุรัสตามเขตแดนไม้จิ้มฟันที่ปักไว้


ทาดาาาา...!!
แล้วแซนด์วิชขนาดเลี้ยงได้ทั้งกองพันก็เสร็จเรียบร้อย
เหมาะสำหรับการเอาไปปิกนิก หรือกินเป็นมื้อด่วนยามเช้ามาก
นรากินเข้าไปซะครึ่งถาด ตอนนี้จุกแอ้ก
หายใจไม่ออก
คอเรสเตอรอลบีบเส้นเลือดเหมือนคนเสื้อสีวันอาทิตย์บีบให้นายกฯลาออกยังไงยังงั้น


จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร
ออกจะง่ายและธรรมดาด้วยซ้ำ
แต่ชื่นใจฝีมือน้องค่ะ หายากนะแบบนี้
แล้วเราก็ไม่ต้องทำกินเองด้วย
(ขี้เกียจนั่นเอง ฮ่า ฮ่า ความจริงเปิดเผยแล้ว)
ปล. อันที่จริงนราทานเจเล่ไลท์ตบท้ายด้วยนะ จะได้ผอมๆ แต่นั่นหลังจากที่กินแซนด์วิชครึ่งถาด เค้กหนึ่งชิ้น แล้วก็เลย์ครึ่งถุงเข้าไปแล้วนะ ฮาาา
...................................................

คำคมวันนี้
อย่าเลี้ยงหมา ถ้าคิดจะรักมันเฉพาะตอนเป็นลูกหมา


น้องหมาตัวนี้ ไม่รู้มันชื่ออะไร
แต่เห็นมันครั้งแรกตอนที่เป็นลูกหมาตัวอ้วนกลม น่ารัก น่ากอด
ที่เพื่อนบ้านหลังหนึ่งเอามาเลี้ยง

เขาเอาปลอกคอสีชมพูให้ใส่ กอดรัดฟัดเหวี่ยงทุกวัน
เรียกน้องหมาหวานๆ ยิ่งกว่าคนรักกันซะอีก

แต่พอน้องหมาเริ่มโต เริ่มหมดความน่ารัก
เขาก็เอาปลอกคอคืน แล้วขับไล่ไสส่งมันมานอนข้างนอก
ข้าวไม่เคยเห็นให้กิน แม้คืนฝนตกก็ไม่เปิดประตูรั้วให้เข้ามานอน
ปล่อยให้น้องหมาชะเง้อคอมองกลางสายฝนอย่างน่าเวทนา

น้องหมาร่างกายผ่ายผอม อาศัยเศษอาหารจากบ้านคนใจบุญ
ก่อนจะพลาดท่าเสียทีให้หมาหนุ่มไม่ปรากฏชื่อนามสกุล
แล้วปู๊ดลูกหมาออกมาอีกแปดตัว! แปด!
ซึ่งก็อีหรอบเดิม เพื่อนบ้านรายนี้เก็บลูกหมาไว้ข้างใน
ไม่ให้แม่หมาเข้าไปเลี้ยง
พอโตได้สักหน่อย ก็เอาไปไว้ในดงหญ้ารกข้างๆ ให้อยู่กันตามมีตามเกิด
ตอนนี้จากแปด เหลือสอง
ไม่รู้เสร็จไอ้เหลือมไปกี่ตัว

นี่แลเขาถึงว่ามนุษย์เป็นสัตว์ที่เดรัจฉานที่สุดในโลก
เพราะสัตว์ที่เราเรียกกันว่าเดรัจฉาน มันก็แค่ทำตามสัญชาติญาณ
แต่มนุษย์เรามีการศึกษา มีศีลธรรม เลือกได้ว่าจะทำอะไร ยังไง
แต่กลับทำตามสัญชาติญาณสาดดด...ชุ่ยๆ ซะงั้น ง่ายดี สบายใจ๊

นี่ถ้าน้องหมาพูดได้ เค้าคงพูดว่า...


((เซ็งเป็ด))

เออ แล้วหัดดูแลลูกบ้านแกซะมั่งนะ
สปอยล์ซะจนแทบจะเป็นมหาราชเด็กจัญไรอยู่แล้วนั่นน่ะ
(ขอแนะนำให้อ่านเรื่อง 'เจ้าหนู' โดยฟรองซัวส์ โมริยัค)
.....................................

เริ่มด้วยแซนด์วิช มาที่เรื่องหมา แล้วจบที่ด่าชาวบ้านได้ไงเนี่ย
ฮิ ฮิ
อากาศร้อนแล้วสมองเลื่อนเปื้อนค่ะ

ปล. ดิอั๊นได้ทำการแก้ระบบแสดงความคิดเห็นให้ใช้ได้ทุกคนโดยไม่ต้องใช้ Gmail แล้วนะคะ เรียนเชิญท่านผู้ใจบุญแสดงความเห็นเป็นศรีแก่บล็อกของดิอั๊นด้วยเทอญ เม้นท์วันนี้ลุ้นชิงโชคเที่ยวกรุงเทพ-ลาสเวกัสฟรีสามวันหกคืน

วันจันทร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2552

Blossoms in Summer

สวัสดีวันปีใหม่ไทย สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ
ขอให้มีความสุขกันทุกคนเลย
วันนี้แดดดี ฟ้ากระจ่าง
เหมาะแก่การเล่นสาดน้ำ
เอาก้อนอิฐทุบรถนายกฯ
และยกพวกตีกันให้ตายไปข้างเป็นที่สุดค่ะ
...............................................

วันนี้ไม่ได้ไปไหน เพราะได้หยุดยาววันสงกรานต์
ประกอบกับมีความไม่สงบในเมือง รถเมล์ก็หยุดวิ่ง
นราเลยอยู่บ้านดีกว่า

ฤดูร้อน ดอกไม้ก็บาน
วันนี้เอารูปดอกเชอร์รีมาฝากค่ะ
เป็นต้นที่อยู่หน้าบ้าน เก่าแก่แล้วเหมือนกัน
ย้ายมาจากบ้านเก่าที่บางพลี
อายุอานามน่าจะไม่ต่ำกว่ายี่สิบปี
เพราะจำได้ว่าตอนเด็กมากๆ ก็ได้กินเชอร์รีจากต้นนี้แล้วค่ะ


นราชอบดอกเชอร์รีจัง สีชมพูอ่อนสวย กลีบเล็กๆ น่ารัก
ถ้าซากุระเป็นผู้หญิงญี่ปุ่น สวมกิโมโน หน้าตาอ่อนหวานสง่างาม
ดอกเชอร์รีก็คงเหมือนเด็กผู้หญิงขี้อาย แก้มชมพู แล้วก็ใส่กระโปรงเอี๊ยม
มันให้อิมเมจประมาณนั้นน่ะ


ออกไปถ่ายรูปตอนสิบโมงเช้า
แดดร้อนมากๆ
คิดว่าถ้าแดดอ่อนกว่านี้ ดอกเชอร์รีจะสีเข้มขึ้นอีก
ปีนี้บานน้อยค่ะ
ตั้งแต่ย้ายลงกระถางมาไว้ที่บ้านปัจจุบัน
ทั้งดอก ใบ ลูก ก็เล็กลงหมดเลย
แถมยังมีไอ้เด็กเปรต ชอบมาเด็ดลูกอ่อนๆ ไปเล่นอีก
มันน่านักเชียว


กำลังสุกเต็มที่เลย
อยู่บนต้นแล้วสวย เลยไม่อยากเด็ด


เชอร์รีนี่ เนื้อข้างในมันเป็นสีส้ม
รสชาติออกอมเปรี้ยวมากกว่าหวาน
สรุปคือ มันไม่อร่อยหรอก แหะ แหะ
คืออร่อยสู้ดาร์กเชอร์รีแบบก้านยาวๆ สีเข้มๆ ไม่ได้
แต่น้องชายนราชอบเอามาจิ้มพริกเกลือกิน

เขาเรียก อเซโรลาเชอร์รี
ถึงไม่หวานอร่อย แต่หอมมาก
จริงๆมันก็ออกลูกทุกฤดู
แต่ในฤดูร้อน มันจะให้กลิ่นที่ต่างออกไป
เชอร์รีสุกจะหอมแดด หอมอุ่นๆ
เนื้อจะตึงแน่น
ฉ่ำ เปรี้ยวอมหวาน
เป็นรสชาติของฤดูร้อนอีกแบบหนึ่งเลยค่ะ
.....................................

แต่แล้วก็เหมือนเรื่องหลายๆเรื่อง
ที่จบลงด้วยความเจ็บปวด...
...
...
โดนผึ้งต่อยแขนอ่ะ
เจ็บ บวม คัน ฮึ้ย หมดอารมณ์
แกต่อยฉัน ฉันเจ็บ แกตาย
แล้วแกจะมาต่อยฉันทำไม ฉันก็ไม่ได้แย่งเชอร์รีแก
บอกพ่อ พ่อก็ดุ
จะอ้อนแฟน แฟนก็เล่นเกม
ไม่เห็นจะสนใจ ฮึ มันน่าน้อยใจนัก
วันหลังต้องโดนงูซะละมั้ง

ไปหาหมอดีกว่า มันบวมแล้วอ่ะ
จบแบบโศกนาฏกรรมซะได้
เฮ้อ

ก็เอวังด้วยประการดังนี้...

วันเสาร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2552

Gloomy, Just Gloomy

ช่วงนี้อากาศไม่ดีเลย ท้องฟ้าอึมครึม พายุฤดูร้อนกระหน่ำเข้ามาเรื่อยๆ
ต้นไม้ใหญ่ๆที่ม.กรุงเทพล้มไปหลายต้นแล้ว
บางทีถอนเอาเสาเหล็กที่ค้ำขึ้นมาด้วยก็มี
น่ากลัวจริงๆ
นี่ยังไม่รวมถึงบรรยากาศทางการเมืองนะเนี่ย
ได้ข่าวว่ามีเสื้อดำเกิดมาอีกพวกแล้วด้วยหนิ
อีกหน่อย คนไทยคงจะใส่เสื้อสีอะไรอย่างอิสระไม่ได้เลย
เพราะแมร่งเป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองหมดทุกสี
โดยเฉพาะไอ้พวก...แอร๊บบบบ
(โดนปิดปากแล้วลากออกไปแล้ว)


แต่ก็ดีเหมือนกัน
เพราะเขาประท้วงปิดถนน
มหาลัยก็เลยปิด เนื่องด้วยความไม่ปลอดภัยทางการเมือง
นราจึงได้หยุดตั้งแต่วันที่สิบถึงสิบห้ากันเลยทีเดียว

ปากซอยกลายเป็นทะเลไปแย้ว
เดินลุยน้ำเข้ามา รองเท้าเสียหมดเลย
*_*


ฝนตกมันก็ดีอยู่หรอก แต่ทำไมชอบตกหลังเลิกงาน
แล้วรถเมล์ตอนฝนตก มันน่าพิสมัยซะที่ไหน
ปิดหน้าต่างประตู แถมคนก็เบียดแน่นแทบไม่มีช่องหายใจ
เธอจ๋า ได้กลิ่นสารพัดรูปแบบ โดยเฉพาะกลิ่นเหงื่อ
ทั้งแบบเหงื่อออกแฉะ เหงื่อเหม็นเปรี้ยว เหงื่อที่เปียกเสื้อแล้วแห้งเหม็นตุๆ
อุแหวะ
ออกมาจากรถเมล์ได้นี่ เหมือนสวรรค์
กลับบ้านก็ตามเคย สลบ
ไม่รู้สลบเหนื่อย หรือสลบกลิ่นน้ำยาดองศพป้าที่เบียดกันมาในรถ
น้ำหอมน่ะ เขามีไว้ประพรมนะคะ ไม่ได้ไว้แช่ศพ
เสียดายซีเคบีขวดละสี่พันจริงๆ
......................................................

ไหนๆก็หยุดยาว เมื่อวานเริ่มใช้วันหยุดอันมีค่า
ด้วยการเล่นกีตาร์ฮีโรทั้งวัน ฮ่าาา
ตอนเย็นหม่ำไอ้นี่ค่ะ


ไม่ได้ทานแกงกะหรี่ดีๆ อร่อยๆ มานานแล้ว
อันนี้ของร้านไหนไม่รู้ พ่อซื้อมาฝาก อร่อยยยย
เค็มไปหน่อย แต่หมูเป็นชิ้น มันเป็นก้อน แครอทก็นุ่ม
อย่อยยยยยย
ไม่เหมือนที่มหาลัย ทุกอย่างกวนเขละเป็นเนื้อเดียว
ไว้ให้ไปวิเคราะห์สารประกอบกันในท้องเอาเอง
ใครมีสูตรเด็ดรบกวนบอก
อยากทำหม่ำเองที่บ้านบ้างค่ะ
.....................................................

โธ่ ปองปองของนรา...


พุงแหว่งเลยอ่ะ เหมือนจิงโจ้ไหม?
เรื่องของเรื่องคือ ไอ้เจ้านี่มันเป็นโรคท่อปัสสาวะตัน
หมอคนนึงบอกเป็นเพราะอาหารที่ให้มีสารก่อนิ่วมากไป
อีกคนบอกว่าเป็นเพราะทำหมันก่อนวัยอันควร
จะอะไรก็ไม่รู้แหละ
รู้แต่หมดไปเกือบหมื่นกับการรักษา
กลับบ้านมา ก๊อโว้โหว่แบบนี้แล้ว
ไม่รู้หมอจะโกนอะไรกันเยอะแยะ
ลงไปเตะบอลได้เลยนะเนี่ย

ท่านผู้เลี้ยงแมว
หากแมวของท่าน ทำตูดขยุกขยิกเหมือนจะฉี่ แต่ไม่ฉี่
ทำท่าเบ่งฉี่ในที่แปลกๆ แล้วทำบ่อยๆ
กรุณาพาไปพบแพทย์โดยด่วน
เพราะเท่งทึงได้นะเออ

ช่วงนี้นราบิ๊วซี่มั่ก
ทั้งงานที่ม. แล้วก็เรื่องเรียนต่อ (ไม่ได้อยากเล้ย)
อาจจะอัพบล็อกได้ช้าลงนะคะ
(พูดเหมือนมีคนเขาอ่านบล็อกแกยังงั้นแหละ)

.............................................

ตาหมู
ขอบคุณน้าที่เข้ามาเม้น หายากนะเนี่ย
ไว้จะไปเล่นด้วยที่บ้านนะ จุ๊บๆ

หนูแนน
ทับไม่สวยก็ไม่เป็นไรค่ะแนน อุตส่าห์เสี่ยงตำรวจยุ่นไปเด็ดซากุระมาทับให้ก็ซึ้งจะแย่แล้ว
แต่ถ้าจะเอามาอีกก็ไม่ขัดศรัทธานะ

มุกกุ
ขอบคุณที่มาเมนท์เป็นกลอน
สุนทรีมาก ฮิ ฮิ
อยากเจอมุกกุจังเลย

วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2552

Bound to Bookfair

เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว หลังจากตรากตรำงานมาทั้งสัปดาห์
ก็ถึงเวลาลั้นลาที่รอคอย เอิงเอย
ก็งานหนังสือนั่นเอง ครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ ไปหาเอาเอง
ควงหมูเติ้ลไปด้วย
..........................................

ขอย้ำ ว่านี่คืองานหนังสือ
หาใช่ห้างร้านการกุศลแจกสินค้าฟรีไม่
คนเยอะมากกก แค่เห็นก็เหนื่อยแล้ว
กะว่าคงไม่ต้องเดิน ยืนเฉยๆ เดี๋ยวกระแสคลื่นมหาชนก็คงพัดพาเรา
ไปจนถึงที่หมายจนได้แหละ


เดิน (หรือไหล) ประมาณสองชั่วโมงเศษ ก็ครบทุกจุดเป้าหมาย
บอกตามตรง ปีนี้ไม่ค่อยประทับใจเลย
ได้หนังสือมาไม่กี่เล่ม (แต่ก็หมดไปพันห้า เหอะ เหอะ)
คินดะอิจิ ที่รอมาครึ่งปี ก็ออกเล่มสิบห้ากับสิบหกแล้ว
เสียดาย เล่มนิดเดียวเอง
อยากอ่านหนาๆ อ่ะ
ขอบอกหน่อยเถอะ ว่ายิ่งทำออกมา หน้าปกยิ่งไร้รสนิยม
เอะอะอะไรก็เลือดหยด เลือดเยิ้ม
หน้าปกดีๆ น่ากลัวแบบคลาสสิกๆ อย่างเล่มสาม บทเพลงปีศาจ
หรือเล่มสอง หมู่บ้านแปดหลุมศพ
ไปไหนหมดแล้วยะ
หรือคิดไรไม่ออก ก็เอานางแบบมานุ่งน้อยห่มน้อย
เอาน้ำแดงเฮลบลูบอยราด จบ
มรึงไม่เอานมข้นราดทับไปอีกทีด้วยเลยล่ะ เป็ดเอ๊ย
ชินจังก็ยังไม่ออก เซ็งกำลังสอง
...................................

เจอไอ้ตัวนี้ด้วย กิโรโร่ น่าร้ากกก
ถ่ายรูปมาซะหน่อย

ตาหมูก็ถ่ายด้วย

พอถ่ายรูปเสร็จ ก็มาคุยกันว่า
ไอ้คนข้างใน มันต้องเป็นผู้ชายแน่ๆ
ดูมันถ่ายกะเติ้ล คล้องแขนธรรมดา
แต่ถ่ายกับนรา โอบไหล่ แนบชิดสุดๆ ประมาณว่า
แก้มแนบแก้ม
แต่มู้หมูจะมาหึงไม่ได้นะค้า ฮิ ฮิ
ก็เค้าเป็นแค่กบนะตัว

ก่อนจะเดินจากมา คุณกิโรโร่ยังเอามือนราไปจูบ
บ๊ายบายท่าทางหวานจ๋อย
เอาน่า ถึงเราจะหน้าตามาตรฐานหญิงไทย
และไม่มีหนุ่มใด นอกจากหนุ่มก่อสร้าง มาวี้ดวิ้ว
แต่อย่างน้อย ครั้งหนึ่งในชีวิต ก็มีกบต่างดาวมากรุ้มกริ่มกะนรานะคะ
.....................................

ร้อนว้อยยย
เมื่อไหร่หน้าร้อนจะหมดซะที
พัดลมไม่ได้ช่วยอะไรเลย
นี่ ดูซะ แม้แต่น้องหมายังทนไม่ไหว
ต้องเข้าไปหลบร้อนในเซเว่นอีเลฟเว่น


เป็นน้องหมาที่ฉลาดมาก รู้จักหาวิธีดับร้อน
แถวบ้านนรามันนอนหน้าประตูเฉยๆ ไม่กล้าเข้า
แล้วนี่เขาไม่ได้มาตัวเดียวนะ
เขาชวนเพื่อนมาด้วย


นั่งกันเรียบร้อย ไม่เห่า ไม่เกะกะ ไม่อึ ฯลฯ
สุภาพและมีมารยาทดีจัง
ไม่เหมือนเด็กบางคน ที่พ่อแม่ปล่อยมาเล่นในเซเว่น
ปล่อยให้ลูกมาวิ่งเกะกะในร้าน กดสเลอปี้เล่น
ทำของขายเจ๊ง และตะโกนโหวกเหวก
อาย Dog มั่งแมะ


ร้อนๆ ยังงี้ ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลย
ถ้าเหงื่อหยดหนึ่งที ได้ตังค์หนึ่งบาท
ป่านนี้รวยแล้วแหละ
ว่าแล้วก็ไปอาบน้ำดีฝ่า
เผื่อจะหายปากหมาไปด้วย ฮ่า

บิ้วค่ะ