วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2552

The Day I Met "Death"

ช่วงนี้อากาศมันร้อนขึ้นทุกที ทุกที
เจ็ดโมงเช้านั่งรถเมล์ไปทำงาน รู้สึกเหมือนถูกส่งไปค่ายกักกันนาซี
ที่เมืองยุ่นปี่ ซากุระคงกำลังทยอยบาน
(เห็นเขาว่าปีนี้บานเร็วกว่าปกติ คงเป็นเพราะโลกร้อนกระมังคะ)
นรารู้สึกอิจฉาคนหน้ากลมที่อยู่เมืองยุ่นเป็นกำลัง
เอาน่ะ ชมพูพันทิพย์บ้านเราก็พอไหวนะ
เอามาหลอนตัวเองไปก่อน
คล้ายๆกันแหละ
อยากหาผ้าพันคอกับบู๊ทไปใส่ยืนใต้ต้น ทำฟีลให้เหมือนอยู่ญี่ปุ่น
ใต้ร่มซากุระ (เทียม)
แต่ก็กลัวพี่วินมอไซค์แถวนั้นพาส่งศรีธัญญา...


เมื่อวานนี้ ละครเวทีของมหาลัยกรุงเทพ เปิดรอบปฐมฤกษ์
"Dear Death เยิรพระยม"
คนสำคัญ คนใหญ่ คนโต ท่านทูต คุณหญิง คุณนาย มาเพียบ
บอกตรงๆ เครียด ทำตัวไม่ถูก
รู้สึกตัวเองเซอะซะ เกรอะกรังอย่างกับเป็ดน้อยหลงมาในหมู่หงส์


จัดแสดงที่โรงละครอักษรา ตึกคิงพาวเวอร์
ชั้นล่างเป็นร้านค้าปลอดภาษี
อาซิ่ม อาม่า เตี่ยใครต่อใครเดินช้อปพลางส่งภาษาช้งเช้งลั่นไปหมด
ข้างบนเป็นโรงละคร หรู เรียบ เงียบ
(มีเสียงโหยหวนของนักแสดงที่กำลังซ้อมลอยมาเป็นครั้งคราว)
โคตรจะ Contrast กันเลย


ก่อนเข้าชมละคร มีดินเนอร์แบบค็อกเทลบริการให้แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน
แต่ขอโทษ บ้านฉันเขาไม่เรียกอย่างนี้ว่าดินเนอร์นะยะ
ชิ้นกระจุ๋มกระจิ๋ม น่ารักน่าเอ็นดู จัดมาแนวอาร์ทนูโวมาก
กินเข้าไปสิบจานจะถึงครึ่งท้องหรือเปล่าก็ไม่รู้
เขาเรียก "แหย่พยาธิ" ย่ะ
.........................

บ่นไปงั้นแหละ กันเสียหน้า
จริงๆอยากกิน แต่กินไม่ได้
แหม ช่างเหมาะกับธีมของละครวันนี้เหลือเกินนะ
"Nothing belongs to us; Nothing should be clung to"
มันไม่ใช่ของของเรา อย่าสะเออะ เอ๊ย อย่าไปยึดติดไขว่คว้า
อ่ะ เอามายั่วน้ำลายค่ะ


แต่ด้วยพลังแห่งการอดทน อดเปรี้ยวไว้กินหวาน
ก็เลยมีบุญ โดนของแพงกระแทกปาก
ร้านชื่อไรจำไม่ได้แล้ว แต่มีคำว่า Asian มั้งนะ
ชามนี้คือ...คืออะไรก็อ่านไม่ออก อ่านออกแค่ว่ามันคือมิโสะราเม็ง
มีบะหมี่ (แน่ล่ะสิ) หมูแผ่น (มันเรียกว่าไรอ่ะ ชาชู เหรอ) ไข่ต้ม
ต้นหอมฝอยๆ แล้วก็หน่อไม้เส้น (แก๊แก่ เสี้ยนตึม)
และที่สำคัญ...ถูกสุด
และคำว่าถูกสุดหมายถึง 180 บาท ไม่รวมเซอร์วิสชาร์จ
เกิดอาจารย์เขาไม่ออกให้ขึ้นมา จะได้ไม่หน้าเขียวขอขย้อนบะหมี่คืนเขา
แต่โชคดีเป็นของเรา และความใจดีเป็นของอาจารย์
ผช.วิชาการสุดน่ารัก เลี้ยงหมดเลย เฮ.......
แถมแบ่งสาหร่ายแผ่นเท่าผ้าห่มให้ด้วย
โอววว เป็นบุญ

(ไม่อยากบอกเลยว่าสีมันเหมือน...ผลงานคนท้องเสียอ่ะ)
........................................

พอท้องอิ่ม กองทัพก็ง่วงนอน
บ้าเหรอ ต้องปฏิบัติภารกิจต่อสิยะ
ขึ้นไปรอต้อนรับแขก (ที่ไม่เห็นจะมาซะที) กันต่อ
ใกล้ถึงเวลาละครเริ่มแล้ว ก็มารับตั๋วกันแค่สองคน

เป็นไงล่ะ นี่แค่ทางเข้านะเนี่ย



ให้ทาย ว่ารูปสลักใหญ่โตมโหระทึกที่เห็นอยู่นี้ คืออะไร?
ติ๊ก ต่อก ปิ๊ก ป่อก
เดาว่าประติมากรรม หรืองานศิลปะ อะไรเทือกนั้นละซิ
ตืดดดดดด ผิดฮ่ะ
นั่นคือ ผนัง ของภายในโรงละครตังหาก
เค้าห้ามถ่ายรูปตอนกำลังแสดง เลยไม่มีมาให้ดู
นี่ถือเป็นละครเวทีเรื่องแรกของนราเลยนะ
เนื้อเรื่องก็ประมาณ ยายหลานคู่หนึ่งอยู่ด้วยกัน
ยายบอกว่าจะไปไหว้พระจุฬามณี (ประมาณว่าสื่อถึงความตาย)
แต่หลานไม่อยากให้ไป
พระยมสุดหล่อ เลยมาสอนประมาณว่า อย่ายึดมั่นถือมั่นกับชีวิตทางโลก
ความตายนั้นแน่นอน ที่พูดมาเป็นบาลีซะ 80%
ซิมโบล อุปมา อุปลักษณ์เยอะมาก
ไม่สามารถดูแบบเรื่อยๆมาเรียงๆเหมือนภาพยนตร์ได้เลย
เรามันมือใหม่ละมั้ง เลยยังตีความได้ไม่ลึกซึ้งเท่าไหร่
งานเลิกสี่ทุ่ม ถึงบ้านห้าทุ่มกว่า
ได้ฟันโอทีสมใจอยาก
สม.....น้ำหน้า วันนี้เลยตื่นสายเลย

แถมท้ายอีกเล็กน้อย
วันนี้ไปส่งป้าขึ้นรถไฟกลับบ้านที่หัวลำโพง
เดินไปเดินมา ก๊อสอยเสื้อมาตัวนึง ว่าจะใส่ไปทำงานค่ะ


ขึ้นรถไฟไป รถยังไม่ออก
ป๊ะป๋ากับป้าก็นั่งเมาท์กัน
นราไม่มีอะไรทำ เลยนั่งดูโน่นดูนี่
สักพักมีหนุ่มฝรั่งคนหนึ่งขึ้นมา เป้ลูกใหญ่เท่าบิดาควาย
หาที่นั่งเจอปุ๊บ มันก็เริ่มล้วงของโน่นนี่มาเรียง
สักพัก เจอหลอดเคาน์เตอร์เพนที่ฝาหลุด
ครีมทะลักเละเทะเต็มไปหมด มันก็เช็ดๆ
สักพักคงลืม ว่าตัวเองไปจับเคาน์เตอร์เพนมา
ก็เอามือไปขยี้ตา
......................

นั่งดูฝรั่ง "ตาเผ็ด" ฮากระจาย
อยากหัวเราะเสียงดังๆ แต่ใจไม่กล้าพอ
เพราะฮีตัวใหญ่มาก

เอวัง

ปล.
หมู
คิดถึงจัง มาเม้นบ่อยๆหน่อยไม่ได้หรือ

หนูแนน
อย่าลืมดอกซากุระทับแห้งของนรานะคะ ขอบคุณค่ะ

มุกกุ
หมู่นี้เงียบหายไปเลย เป็นไงมั่งคะเนี่ย

5 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ30 มีนาคม 2552 เวลา 16:45

    ขอโทษนรานะที่หายเงียบไป
    มุกกุไม่ได้อยู่ห่างไกลขนาดนั้น
    ก็มีออกไปเตร็ดเตร่บ้างเป็นบางวัน
    ตามภาษาเด็กบ้านนอกบ้านแสนไกล
    นานๆครั้งได้เที่ยวชักติดลม
    แบบเหมาะสมตามภาวะช่วงสมัย
    ก็มีบ้างรูดบัตรไม่ยั้งใจ
    เพื่อนห้ามไว้ไม่งั้นได้หมดตูดแล
    ที่ยังกล้าจับจ่ายแบบทุกวันนี้
    เพราะทุนมีที่เก็บเก่ากว่าจะใช้
    ต้องออมเงินหยอดกระปุกทุกวันไป
    กว่าจะใช้มันก็เพิ่มไม่รู้ตัว
    อย่าหาว่ามุกกุนั้นอวดร่ำรวย
    เพียงแต่ช่วยเติมเต็มที่ขาดหาย
    เทอมที่แล้วมุกกุนั้นลำบากจะตาย
    ขอจับจ่ายของรางวัลให้ตัวเอง
    ถึงจ่ายเยอะขนาดนี้ยังมิหมด
    เพราะมุกกุแบ่งงบไว้ใช้สอย
    เมื่อก่อนออมตอนนี้ขอใช้สักหน่อย
    ถือว่าปล่อยเงินหมุนเวียนช่วยชาติเอย


    ...อ่าา ขอโทษด้วยที่ไม่ได้มาเยี่ยมเยียน ปล่อยนราเหงาไปนานแสนนานนะคะ พอดีช่วงนี้ต้องออกบ้านทุกวัน (ทั้งออกไปเรียน และเที่ยว)
    กว่าจะกลับถึงบ้าน มุกกุก็หมดแรงแล้วละคะ ไม่ค่อยได้แตะคอมเลย
    เอนทรี่ก่อนหน้านู้นนนนน ที่นราไปดูโรงแรมแถวอโศก มุกกุก็เข้ามาอ่านนะคะ แต่พอจะฝากเม้นท์มันก็เกิดอาการเออเร่อคะ กดหลายรอบ ไอ้รหัสรักที่ให้พิมพ์ก่อนกดซับมิตมันไม่ยอมขึ้นมานะคะ มันมีแต่ช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีขาวๆ แล้วมุกกุจะเห็นโค้ดนั้นได้เยี่ยงไร มุกกุเองก็ไร้ซึ่งตาทิพย์ ที่จะมองทะลุช่องนั้นให้เป็นโค้ดนะคะ ฮ่าๆๆๆ คาดว่าน่าจะเป็นที่เนตของบ้านมุกกุนะคะ เล่นช่วงหัวค่ำ แย่งกันกับปะป๊า เน็ตที่มุกได้มันเลยอ่อนระทวย ก็พิมพ์ไปเยอะนะคะ พอกดไม่ได้ เลยเริ่มเซ็ง
    เลยตามเลย ไม่กดมันซะเลย ยังไงก็อย่าเพิ่งโกรธกันนะจ๊า

    แต่ว่าช่วงนี้ไม่ได้เล่นคอมจริงๆ เพราะอย่างที่บอกว่าออกบ้านทุกวัน
    เมื่อวานก็ไปทำงานออกบู๊ธขายของมาคะ สนุกดี
    ไว้มุกกุจะเข้ามาเยี่ยมอีกนะคะนรา จุ๊บๆ

    ตอบลบ
  2. มาเม้นให้แล้วนะ ถ้าพรุ่งนี้ของไม่หมดเจอกันนะ (อย่าลืมเลี้ยงข้าวนะ)

    ตอบลบ
  3. มาเม้นให้แล้วนะ ถ้าพรุ่งนี้ของไม่หมดเจอกันนะ

    ป.ล. หมูเลี้ยงข้าวนะ .......

    ตอบลบ
  4. แนนช๊อบชอบเอนทรีย์นี้ค่ะ ของกินเยอะดีอ่ะ
    ราเมงอร่้อยไหม

    แนนพยายามจะไปเด็ดซากุระแล้วค่ะ แต่คนญี่ปุ่นมันไม่ทำกัน
    (ไม่งั้นคงโกร๋นต้นอ่ะ) เดี๋ยวรอซักพัก จะไปตอนมืดๆเด็ดมาให้นะคะ
    แต่สีมันไม่ชมพูเท่าไหร่เลยโน๊ะ เหมือนที่นราบอกเลย
    เหมือนที่นี่มีแต่สีขาวกับสีชมพูสดไปเลย ไม่มีชมพูอ่อนๆเท่าไหร่เลยค่ะ

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ1 เมษายน 2552 เวลา 18:48

    เข้ามาดูอีกที เฮดเปลี่ยนไปซะแล้ว กลายเป็นฮาเร็มแมว อิอิ น่ารัก

    ตอบลบ