วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

Newgate Market

ไร้สาระมาหลายเอนทรี่มาก ขออภัย
พอดีสติสตังไม่ค่อยสมประกอบช่วงนี้
วันก่อนเพิ่งไปส่งวิทยานิพนธ์มาค่ะ โล่งหายใจสะดวกเหมือนกลืนวิกส์วาโปรัปเข้าไปทั้งขวด
เพราะว่าพี่คอมเขาเจ๊ง วันนั้นนราเลยต้องแหกขี้ตาไปห้องคอมที่ตึกแลงก์วิธ แก้งานจนเสร็จ เซฟเป็นไฟล์พีดีเอฟ เดินกลับมาพรินท์ที่ห้อง พรินท์เสร็จเอาไปเข้าเล่มที่ร้านของมหาลัย (บริการรวดเร็วประทับใจมากขอบอก ไม่ถึงสามนาทีอ่ะค่ะ ไม่เกินห้าสิบหน้าคิดราคาสามปอนด์) เสร็จแล้วเดินกลับไปตึกแลงก์วิธเพื่อส่งงานอีกที
และแล้วสงครามสิบเอ็ดเดือนของนราก็จบลงค่ะ
จะว่าไปมันก็โล่งๆยังไงไม่รู้นะ ไม่มีอะไรให้ทำแล้ว
นั่งในห้องก็นั่งเฉยๆ เบื่ออ่ะ ไม่รู้จะทำไรดี

แน่นอนว่าพอเสร็จงานก็ต้องเตรียมตัวกลับบ้าน
นรานะเซ็งกะการเก็บของมาก
ของในห้องนี่เหมือนเห็ดรา เก็บตรงนั้นเสร็จไหงตรงนี้มันงอกออกมาใหม่อีกแล้ว ไม่เข้าใจ
ขยะงี้บาน
กล่องเปล่าที่สะสมไว้ พอเราแกะมันกางออกมาเพื่อที่จะเอาไปทิ้งขยะรีไซเคิล หนาตั้บแบกแทบไม่ไหว
เดินไปก็ปล่อยเศษกระดาษแข็งร่วงกราวเป็นทาง
ช่วงนี้ก็พยายามไปเที่ยวเมืองอื่นๆ ก่อนกลับ
เดี๋ยวอีกไม่นานจะไปเที่ยวกลอสเตอร์ไชร์ด้วย
แต่ก่อนหน้านั้นต้องตระเวนซื้อของที่ระลึกไปฝากญาติโยมทางเมืองไทยก่อนค่ะ
วันนี้ก็เลยเข้าเมืองคนเดียว ไปเดินเล่นด้วย ซื้อของด้วย
สำหรับผู้ที่กำลังจะมายอร์กนะคะ
มานิวเกท มาร์เก็ทด้วย ไม่งั้นจะหาว่าสมตุ้ยไม่บอกไม่กล่าวแหล่งของดีไม่ได้นะเอ๊อะ

นิวเกท มาร์เก็ท อยู่ตรงที่ถนนมาร์เก็ทสตรีทตัดกับพาร์เลียเมนท์สตรีทค่ะ
จุดสังเกตคือน้ำพุตรงกลางจตุรัส ใครๆก็รู้จัก
ตรงนี้วันดีคืนดีก็จะเป็นที่จัดงานเทศกาลต่างๆ
อย่างตอนนี้ก็มีเทศกาลอาหารอยู่ น่ากินมากแต่ไม่มีตัง
บางทีก็มีคนมาจัดการแสดงเปิดหมวกอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่ตัวเล็กตัวน้อยไปจนถึงคุณตาผมไม่มี
ตลาดนิวเกทที่ว่านี้ ก๊อเป็นตลาดอ่ะนะ
ขายผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ เสื้อผ้า
อารมณ์ประมาณตลาดอ่อนนุชบ้านเรามั้ง แต่พวกอาหารของสดนี่เหมือนเจ้าของเขามาเอง
แผงขายผัก อาจจะแพงกว่าในซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างมอร์ริสันหรือเซนส์บิวรี่นิดหน่อย แต่คุณภาพต่างกันเยอะอย่างเห็นได้ชัด
(ไม่ทุกอย่างหรอกแต่ส่วนใหญ่ เดี๋ยวจะหาว่าโฆษณาเกินจริง)
มะเขือเทศลูกกลม โต เกลี้ยงเกลา แดงฉ่ำ
ขนาดนราไม่ชอบมะเขือเทศยังรู้สึกว่ามันน่ากินจังเลยอ่ะ
ผักมีมาตามฤดูกาล อย่างหน่อไม้ฝรั่งถ้าไปตอนเดือนพ.ค.จะเยอะมาก อวบอิ่ม น่ากินสุดๆ ถ้าไปซื้อตอนนี้จะได้หน่อไม้ฝรั่งที่เหมือนขุดขึ้นมาจากซากอารยธรรมเมโสโปเตเมีย

ตรงกลางตลาดปกติจะขายพวกถุงเท้า เสื้อไหมพรม อุปกรณ์ของใช้ในบ้าน แต่วันนี้ทำไมเป็นร้านดอกไม้ไม่ทราบ ดอกไม้ที่นี่ที่ราคาถูกจะเป็นพวกคริแซนธิมัม นาร์ซิสซัส แดฟโฟดิล ช่วงนี้ดอกดาห์เลียออกเยอะก็ราคาถูก กำละปอนด์เดียว เวลาซื้อคนขายจะเอาดอกไม้ไปห่อกระดาษให้ แล้วแถมอาหารดอกไม้เหลวๆให้มาด้วย

แผงตรงนี้ขายหัวดอกไม้บานเบอะค่ะ
อยากซื้อกลับบ้านแต่คงไม่ผ่าน ตม.

ตรงนี้ใครชอบหนังสือ ห้ามพลาด อย่าพลาด อย่าบังอาจพลาด
เป็นมุมขายหนังสือมือสอง ดูเหมือนไม่ตั้งใจขายเพราะเอาลังกระดาษมากองๆตั้งๆแล้วก็อยู่ยังเงี้ยทั้งวัน
แต่ๆๆๆ อย่าให้รูปลักษณ์ภายนอกมาหลอกท่านได้
หนังสือทุกเล่มในร้านนี้สองปอนด์เท่ากันหมด
ค้นดีๆท่านอาจเจอหนังสือที่ท่านตามหามาแสนนานในราคาถูกบัดซบก็ได้

The Historians เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ เล่มหนาเตอะ
ที่ไทยขายไม่ต่ำกว่าเล่มละสามสี่ร้อย
ที่นี่ สองปอนด์ = ร้อยบาท
ถึงเป็นมือสองแต่สภาพดีมาก สันไม่งอด้วย
หนังสือดีๆอย่างของ John Grisham, Stephen King, Tom Clancy มีให้เลือกมากมาย
พวกหนังสือชิคลิท แบบสาวนักช้อปตะลุยโน่นตะลุยนี่ก็มี
วันนี้นราน้ำตาแทบร่วง
เจอ Encore Provence ของ Peter Mayle ที่เขียน A Year in Provence กับ Toujours Provence ฉบับภาษาไทยจัดพิมพ์โดยมติชน
เล่มนี้เหมือนจะยังไม่ออกมาเป็นภาษาไทย คิดว่าน่าจะออกมาให้ชื่นใจในงานหนังสือเร็วๆนี้
คว้าแบบไม่คิดเลย
จริงๆมีหนังสือเล่มอื่นที่อยากได้ อย่าง Under the Tuscan Sun ของ Frances Meyes แปลไทยโดยมติชนเหมือนกัน อยากได้มากกก แล้วยังมีหนังสือทำนองนี้อีกเป็นตั้ง ไม่ติดว่ากระเป๋าเดินทางจะระเบิดแล้วจะซื้อมาให้หมดเลยจริงๆ

หนังสือบางเล่มอาจจะซีดไปสักหน่อย เพราะตั้งไว้ให้แดดเลียหลายวันหลายคืน
แต่หนังสือดีก็คือหนังสือดี
ถึงพิมพ์ลงบนกระดาษทิชชู่ก็ยังเป็นหนังสือดี
ไม่เหมือนพวกหนังสือ "สักแต่เขียน" ที่ทะลักทะล้นเต็มร้านหนังสือเดี๋ยวนี้
ไอ้ประเภท "วิธีหาผัวฝรั่ง" "คำสารภาพของสาวนักอึ๊บ" "คัมภีร์สยบผู้ชายแทบเท้า" "ดิฉันเป็นฮิสทีเรีย" "สาวไส้ไซด์ไลน์" "เมื่ออกหักรักคุดตุ๊ดเมิน" และเก้าโลเก้าลากยาวไปถึงอาบูดาบี
อีแบบนั้นพิมพ์ลงบนกระดาษอาร์ทอย่างดีสี่สีประดับเกล็ดคริสตัลชวารอฟสกี้ยังไม่อยากจะอ่านเลย

การไปเดินตลาดนี่
นอกจากจะได้ของที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นผักสดจากไร่ ปลาสด หรือหนังสือดีๆ
เรายังได้เรียนรู้ความเป็นอังกฤษไปด้วยนะ
ป้าร้านขายผักร้านนึง ร้านที่อยู่หน้าร้านปลา เค้าจะมีสำเนียงการเรียกลูกค้าที่ประหลาดมาก
ไม่รู้จะอธิบายยังไง ลอกเสียงเขามาสะกดให้ฟังเลยละกัน ลองออกเสียงตามแบบลากยาวๆยานๆหน่อยนะจะได้อารมณ์มาก
"สตร๊อบะหรีจุสท์วั้นพ่าวน์อี๋ช คว้อลิฝล่าวเหวอร์ฟิ้ฟติเผนซ์ พี้ชแอนด์เน็กทะหรีนเธ้ออิฟ้ายฟ์เพนซ์อี๋ช" (Strawberries just one pound each, cauliflower fifty pence, peach and nectarine thirty-five pence each)
ใครมาลองแวะไปฟังดูได้
Yorkshire English แต๊ๆเจ้า
ปล.ช่วงนี้พีชน่ากินมาก ลูกใหญ่ สด หอม ถ้าแผงตั้งตรงที่แดดส่องนะเวลาเดินผ่านได้กลิ่นลูกพีชหอมฟุ้งไปทั่วเลยค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น