วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

England, England

กลับมาอีกแล้วกับบล็อกเชิงสร้างสรรค์แต่ไม่ประเทืองปัญญา อุดมไปด้วยคำสบถสาบานและความรู้สึกส่วนตัวแบบลำเอียงล้วนๆ หลังจากห่างหายไปเป็นเดือนๆ
ก็รู้ว่าไม่มีใครตามอ่านเท่าไหร่ แต่การบันทึกบล็อกส่วนตัวนี่มีประโยชน์กว่าที่คิดนะคะ
ก่อนจะมาอังกฤษ ก็อาศัยบล็อกเก่าๆของตัวเองนี่แหละ เป็นแนวการทำเรื่องขอวีซ่าและงานเอกสารต่างๆ เพราะมันนานจนลืมไปหมดแล้วว่าต้องทำอะไรยังไงบ้าง
.
ขณะที่กำลังบ่นบ้ากระพือบินอยู่นี้
สมตุ้ยก็นั่งหงิกงอด้วยความหนาวอยู่ที่ประเทศอังกฤษแล้วค่ะ
มาถึงอังกฤษได้ประมาณเกือบเดือนแล้ว อีกห้าวันก็จะครบรอบเดือนแรกของการใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศอังกฤษ
รอบนี้มีแต่ปัญหาล้วนๆ ถาโถมเข้ามาให้เราได้วิ่งวุ่นราวกับนังเรยาไล่ตามจับผัวชาวบ้านก็ไม่ปาน
เริ่มจากเครื่องแบล็กเบอร์รีที่เอามาจากไทย พอเอาซิมอังกฤษใส่ก็มีปัญหาว่าเครื่องมันลิงค์ผ่านเน็ทเวิร์กไทย ทำให้แทนที่จะได้ส่งข้อความฟรีตามโปรโมชั่น สมตุ้ยก็โดนชาร์จไปดอกละ 20 เพนซ์ซะงั้น
ตามมาด้วยเรื่องเงินๆทองๆกับมหาลัยนิวคาสเซิล คือ มันเรียกเก็บตังค์เพิ่มจากที่เขียนไว้ เป็นจำนวนไม่มากไม่น้อย คือแค่สามพันกว่าปอนด์
เงินที่ผู้สนับสนุนการศึกษาอย่างเป็นทางการของสมตุุ้ยมอบให้มา คือหมื่นปอนด์ สำหรับการศึกษาในปีแรกของเรา แต่พอจะเอาไปจ่าย มหาลัยสาลิกาดงก็บอกว่า ตอนนี้ยังไม่เริ่มปีการศึกษาใหม่ เพราะยังเป็นเทอมซัมเมอร์อยู่ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายสามพันปอนด์
ส่วนไอ้หมื่นปอนน่ะ เอาไว้จ่ายปีการศึกษาหน้า เป็นไงละงานเข้าเลยกู
นี่ยังไม่รวมอีเมล์แบบไม่จบไม่สิ้น
ค่าใช้จ่ายที่งอกออกมาเรื่อยๆเหมือนถั่วงอก
จะเปิดบัญชีกับธนาคารก็ไม่ได้อีก เพราะต้องรอบิลค่าน้ำที่มีชื่อเราอยู่ด้วย เพื่อยืนยันว่ากรูไม่ใช่กะเหรี่ยงอาศัยนอนตามใต้สะพานนะจ๊ะ ซึ่ง ณ บัดนี้มันยังไม่มา
สมตุ้ยก็ทำตัวเป็นเศรษฐีใหม่ กระเตงเงินเป็นฟ่อน
วันก่อนได้ทำการสำแดงความร่ำรวยของเศรษฐีเมืองไทยให้ฝรั่งได้รับรู้ คือเข้าธนาคาร จะไปจ่ายเงินค่าเช่าบ้าน ซึ่งเป็นก้อนใหญ่ สองพันกว่าปอนด์
ปรากฏโอนเงินจากบัตรไทยไม่ได้ นังสมตุ้ยเลยเดินไปกดเอทีเอ็มออกมาทีละ 400 ปอนด์เต็มพิกัดวงเงินของมัน กดอยู่หกรอบจนครบ
กดเสร็จตัวงี้เบาาา สบายยย หนังงี้ลอกร่วงเป็นแผ่นๆ กรอบเค็มเหมือนแคบหมูเชียว
แต่ประเด็นคือ แม่งเสือกออกมาแต่แบงค์สิบ
เดินมาดมั่นกลับเข้าไปในแบงค์ ฟาดตั้งเงินจำนวน 240 ใบดัง ตึ้มมมม ลงบนเคาน์เตอร์ต่อหน้าพนักงานรูปหล่อ
แหม่ อยากถ่ายรูปสีหน้าพ่อประคุณตอนเห็นเงินมาให้ดูกันจริงๆ
เป็นไง เจอเศรษฐีไทย ซึมไปเลย
.


ตอนนี้อากาศยังหนาวอยู่สำหรับกะเหรี่ยงกรุงเทพอย่างนรา แต่ฝรั่งบ่นกันว่าร้อน
อยู่มาสักสองสัปดาห์นราก็เริ่มทนได้นะ แต่มาวันแรกๆนี่ห่อตัวเองหนากว่าแหนมป้าย่นอีก ใส่ถุงเท้าสองชั้น เสื้อสี่ชั้น อยากจะใส่ถุงมือด้วย แต่กลัวเขาหาว่าบ้าเลยต้องทนหนาว
ดอกไม้กำลังบานสวย
นรานี่มีเวรมีกรรม ไม่เคยได้ทันเห็นตอนดอกแดฟโฟดิลมันบานทั่วเมืองเลย
ถ้ายังจำกันได้ ปีที่แล้วก็ไปติดแหง็กอยู่ที่สนามบินอัมสเตอร์ดัมหกวัน กลับมาถึงดอกไม้แม่งเหี่ยวหมด รอบนี้มาถึงก็ไม่เหลือแล้ว แดฟโฟดิล แต่ยังดีว่าดอกแอปเปิลกำลังบาน ดอกหน้าแมว ทิวลิป วิสทีเรีย กำลังสวยค่ะ
เห็นแล้วคิดถึงครอบครัว อยากให้มาเห็นด้วยกัน


สัปดาห์แรกที่มาถึง ไปเริงร่าอยู่ที่เชลท์นั่มกับกลอสเตอร์ก่อน
ได้ไปสวนดอกไม้ Hidcote ที่มันสำคัญยังไงก็จำไม่ได้ แต่ดอกไม้สวย
ฝรั่งก็แบกตะกร้าปิกนิกไปนั่งกินกันใต้ร่มไม้ โรแมนติกมากๆ
แต่ต้องระวังแม่ไก่ที่เขาปล่อยเดินแถวนั้น
ไก่อังกฤษเป็นไก่มีความมั่นใจในตัวเองสูง
ไม่กลัวคน ขนมในมือเมิงคือของกรู
หลักการเดียวกันนี้ใช้ได้กับนกพิราบเช่นกัน
ได้ไปเดินบนเขา ดูทุ่งดอกบลูเบลล์บานเป็นสีม่วงเต็มไปหมด
อากาศอังกฤษยังเป็นกลิ่นเดิมแบบที่เราจำได้
คือหอม หวาน สะอาด อวลไปด้วยกลิ่นดอกไม้จางๆ
แล้วก็ไป Cotswold มา มันเป็นหมู่บ้านที่ก่อด้วยหินสีน้ำผึ้ง เอกลักษณ์ของคอทสว็อลด์เค้า แพงหูแหกกันเลยทีเดียว


นราไปทันเทศกาลอีสเตอร์ของเขาพอดี เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก
ได้ไข่ช็อกโกแลตมาสองใบโตๆ ชื่นใจจริงๆ
.
ข้อคิดวันนี้
ไปอยู่อังกฤษ ต้องกินให้เร็วๆ เร็วๆ
คนอังกฤษนั้น สันนิษฐานว่ามีฟัน 64 ซี่ และทั้งหมดทำงานในระบบเดียวกับเลื่อยไฟฟ้า
แม่งแดรกกันเร็วฉิบหาย
นราเป็นคนกินช้า เคี้ยวช้ามาแต่ชาติปางก่อน
เวลาไปทานข้าวกับครอบครัวเพื่อน อายยยยยที่สุดเวลาที่เขาทานกันเสร็จหมดแล้วต้องนั่งรอเราตามมารยาท
นึกสภาพเวลากินข้าวแล้วมีคนหกเจ็ดคนนั่งมอง รอกินของหวาน แต่กินไม่ได้เพราะเรายังไม่เสร็จของคาว
อึดอัดสุดๆ ให้ตาย